มาแล้วจ้า… ปีนี้พิเศษสุดๆ เพราะได้ไปอยู่ในบรรยากาศสดๆในงานประกาศรางวัลเลยล่ะ
งานนี้จริงจังมาก เพราะเค้ารวมเอาไอเท็มกว่า 47,000 ไอเท็ม และคอมเม้นท์กว่า 680,000 คอมเม้นท์
มาประมวลผลจนได้มาเป็นรางวัล The Best Cosmetics 2017 ประจำปีนี้
เชื่อว่าสาวๆตั้งตารอคอยกันใช่ไหมว่าจะมีไอเท็มอะไรบ้าง… แป้งรวมมาให้แล้ว พร้อมกับ Mini Review
ชิ้นที่แป้งเคยใช้ด้วย ไปอ่าน ไปแคปรัวๆกันได้เลยค่ะ
GRAND PRIX
มาที่รางวัลใหญ่ประจำปีก่อนค่ะ ทุกๆปีจะมีรางวัล Grand Prix ที่ถือเป็นที่สุดของไอเท็ม
ปีนี้ก็ได้แก่ OPERA Lip Tint (1,500 JPY)
ลิปทิ้นท์ที่เนื้อชุ่มชื้น ให้สีที่เป็นธรรมชาติ ถูกใจสาวญี่ปุ่นมาโดยตลอด หากสังเกตดู แบรนด์นี้มาแรง
ในช่วง 3-4 ปีนี้สุดๆนะ เพราะได้รางวัลแทบทุกปี
Kirari’s Review : ทิ้นท์ตัวนี้เราว่าติดทนปานกลาง แต่ให้สีที่ธรรมชาติ และทาได้ง่าย ไม่แห้งติดปาก
แม้ว่าสีจะเฟดไป แต่สีที่ยังคงเหลือก็สวย และดูเป็นธรรมชาติมากๆ เป็นทิ้นท์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ทาง่าย
เราซื้อเบอร์ 5 (Coral Pink) ตาม ranking มาเลยค่ะ สีนี้ขายดี No.1 รองมาคือสีแดง #01 และ เบอร์ #06
สีสวยทุกสี ทาได้เรื่อยๆ
Grand Prix อันดับ 2 คือ ADDICTION The Eyeshadow (2,000 JPY)
อายแชโดว์แบรนด์ดังของญี่ปุ่น ที่โด่งดังใน Runway ของเมืองนอกด้วยเช่น
ด้วยเนื้อสีที่ชัดเจน เนื้อละเอียด และมีให้เลือกมากกว่า 99 สี
Kirari’s Review : อายแชโดว์แบรนด์นี้ต้องยอมเรื่องคุณภาพเค้าจริงๆ เพราะสีสวยมากๆ
คนที่เล่นเมคอัพ พอได้ลองเนื้อแล้วร้องว้าวกันทุกคน เนื้อดีมากๆ ทาแล้วให้ความรู้สึกว่าแพงมาก
เราเองก็ชอบหลายสีที่ซื้อมา โดยเฉพาะสีที่ผสมชิมเมอร์และกลิตเตอร์ วาวสวยมากจริงๆ
ก็ได้แต่หวังว่า KOSE ไทยจะนำเข้ามาในเร็วๆนี้
Grand Prix อันดับ 3 คือ Nature Skin Conditioner (500ml 650 JPY)
สกินโลชั่นที่บำรุงผิวได้ดีมากๆ คนไทยจะเรียกกันว่าน้ำตบลูกเดือย
เอาจริงๆก็ไม่ต้องตบขนาดนั้น แค่ฉีดๆหรือลูบๆที่ผิว ก็ซึมลงแล้ว (การตบไม่ได้มีผลกับ
ส่วนผสมที่ใช้ในไอเท็มนี้) ใครที่อยากได้ไอเท็มบำรุงผิวที่ไม่เหนียว ไม่หนักแบบครีม
ก็แนะนำแบบโลชั่นนี่เลยค่ะ ใช้ได้สะดวก ไม่เหนียว ไม่เยิ้ม
Kirari’s Review : ชิ้นนี้เราใช้มานาน นานจนลืมว่าซื้อมาเมื่อไหร่ คือใช้ไม่หมดซักที ขวดใหญ่มากๆ
เราใช้แบ่งใส่ขวดแล้วฉีดที่ร่างกาย ใช้มือลูบๆให้ซึมได้ไวขึ้น แค่นี้ก็ได้ผิวที่ชุ่มชื้นแล้ว เป็นอีกไอเท็ม
ที่ถูกใจแม้นำกลับมาใช้ที่เมืองไทยค่ะ
BEST CLEANSING
อันดับ 1 : Attenir Skin clear cleanse oil (175ml 1,700 JPY)
แบรนด์นี้ได้อันดับ 1 มา 2 ปีซ้อนแล้วค่ะ เราว่าพลาดไม่ได้แล้วล่ะ สำหรับออยล์ทำความสะอาดผิวหน้า
ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิว และทำความสะอาดได้หมดจด ขจัดเอาสิ่งตกค้างบนผิวให้หมดไป
ผิวที่ได้จึงสะอาด และดูใส ชิ้นนี้หาซื้อยากนิดนึงเพราะส่วนมากเค้าขายออนไลน์ หรือร้านที่ขายของแบรนด์นี้
ตอนนี้ได้มาแล้วนะ เดี๋ยวจะลองแล้วมารีวิวให้ชมกันว่ามันดีอย่างที่เค้าบอกหรือเปล่า
อันดับ 2 : Bifesta Eye makeup remover (145ml 850 JPY)
Kirari’s Review : ชิ้นนี้ใช้หมดไปเป็นสิบๆขวดแล้วค่ะ ใช้ดีมากจริงๆ ลบมาสคาร่าได้หมดจด
และลบได้ไว ในปริมาณที่เยอะแต่ราคาน่ารักมาก ในเมืองไทยมีขายราคาพอๆกัน แถมชอบมีโปรด้วย
อันดับ 3 : SHU UEMURA The Ultime8 Cleansing Oil (450ml 11,500 JPY)
Kirari’s Review : https://youtu.be/6QZSEQg3370
ออยล์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เราชอบมากที่สุดแบรนด์นึง
เมื่อพูดถึงออยล์จากชู เราก็แนะนำรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกค่ะ เพราะใช้แล้วผิวหน้านุ่มมาก
เหมือนได้รับการบำรุงมาแล้ว เหนือกว่าออยล์ตัวอื่นๆที่เคยใช้มาจริงๆ
BEST Facial Cleanser
อันดับ 1 Transino Clear Wash (100g 1,800 JPY)
โฟมล้างหน้าที่สาวญี่ปุ่นโหวตกันว่า เป็นโฟมล้างหน้าที่ใช้แล้วผิวใสเด้งสุดๆ
ช่วยขจัดความหมองคล้ำ หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ดี ผิวที่ได้จึงดูขาวใส
และเนื้อโฟมก็แน่น ล้างหน้าแล้วไม่ตึงผิว
อันดับ 2 : SUISAI Beauty Clear Powder (ราวๆ 1,800 JPY)
Kirari’s Review : ผงแป้งล้างหน้าที่ทำความสะอาดลึกระดับรูขุมขน ช่วยขจัดสิ่งตกค้างออกไปได้ดี
อยู่ในเครือ Kanebo ที่ราคาไม่แพง
ชิ้นนี้เราจะใช้ในวันที่แต่งหน้าหนักๆ หรือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หลังใช้จะตึงๆผิวประมาณนึง
แต่แนะนำว่าให้มาส์กหน้าต่อทันที เซรั่มในมาส์กซึมลงผิวได้ดีมากๆจนรู้สึกได้เลย
อันดับ 3 : Cow Brand facial wash (110 g 550 JPY)
ครีมล้างหน้าผิวนุ่ม ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก มีส่วนผสมของเซราไมด์บำรุงผิว
ชิ้นนี้ปีที่แล้วได้ No.1 Best Facial Wash ค่ะ ปีนี้ก็ยังคงครอง TOP 3 นะ ของดีราคาน่ารัก ต้องลอง
BEST LOTION
อันดับ 1 : Nature Skin Conditioner (500ml 650 JPY)
(รีวิวไปแล้วด้านบนจ้ะ)
อันดับ 2 : ACSEINE ( 360 ml 5,500 JPY)
โลชั่นที่อุดมด้วยเซราไมด์, กรดไฮยาลูรอน ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นหลัก
อันดับ 3 : IPSA The Time R Clear (200 ml 4,000 JPY)
Kirari’s Review: โลชั่นบำรุงผิวที่เน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งโลชั่นของ IPSA ใครใช้ก็ติดใจ
ต้องใช้ต่อเนื่องนะ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวในทางที่ดีขึ้น อย่างผิวเรา รู้สึกเลยว่า
มันใสและอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น
BEST SERUM / BOOSTER
อันดับ 1 : ALBION Eclafutur (40 ml 10,000 JPY)
เซรั่มที่สาวญี่ปุ่นบอกว่า ใช้แล้วผิวใส พวกรูขุมขนหรือผิวที่ไม่เรียบก็น้อยลง
เป็นเซรั่มอีกตัวที่ขาดไม่ได้ ชิ้นนี้ไม่ได้ดังแค่ในปีนี้นะ ไอเท็มนี้ได้รับรางวัลต่อเนื่อง
มาตั้งแต่ปี 2014 แล้วล่ะ
2014 Best Serum อันดับ 2
2015 Best Serum อันดับ 3
2016 Best Serum อันดับ 1 และในปี 2017 นี้ก็ยังคงครองอันดับ 1 เราว่าต้องมีแล้วล่ะ !
อันดับ 2 : ONE by KOSE (60 ml 5,000 JPY /120 ml 8,500 JPY)
อีกชิ้นที่เป็นตัวดังของ KOSE เพราะใช้ส่วนผสมจากสารสกัดจากข้าวเบอร์ 11 (มีสารบำรุงผิวเยอะสุด)
ชิ้นนี้ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น คนที่เป็นสิวหรือแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ ไม่ผสมสีและสารก่อการแพ้
เน้นความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวเป็นหลักค่ะ ชิ้นนี้เมื่อครึ่งปีแรก 2017 ได้รางวัล Best Serum อันดับ 1 มาด้วยนะ
อันดับ 3 : SOFINA iP Beauty Power Mousse (5,400 JPY)
เซรั่มรูปแบบมูส ที่ใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้า
ในตัวมูสนี้จะผสม Tanzan (หรือโซดา) ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น
BEST EMULSION
อันดับ 1 : ALBION WXAGE White Pure White Milk II (110g 3,000 JPY)
อีมัลชั่นที่สาวญี่ปุ่นรีวิวกันไว้ว่าใช้แล้วผิวกระจ่างใสสุดๆ ชิ้นนี้เมื่อปี 2016 ก็ได้รับรางวัล
Best Emulsion 2016 อันดับ 2 ด้วยนะ ปีนี้ขยับมาเป็น อันดับ 1 แล้ว
อันดับ 2 : SKII R.N.A. POWER Radical New Age (50g 11,500 JPY)
ชิ้นนี้ช่วยบำรุงผิวให้ผิวแข็งแรง กระชับรูขุมขน และช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
ให้ผิวเกิดใหม่ได้ดีขึ้น
อันดับ 3 : MINON Amino Moist Charge Milk (100 g 2,000 JPY)
ชิ้นนี้น่าจะคุ้นเคยกันดี เคยรีวิวไว้แล้วจ้ะ
ชิ้นนี้วางขายในปี 2015 ก็ได้รับรางวัลต่อเนื่องมาเลยนะ
ในปี 2015 และ 2016 ได้รับรางวัลที่ 1 ในหมวด Best Emulsion นี่แหละ
ปีนี้ก็ยังคงอยู่ TOP 3 ไม่ธรรมดาจริงๆ ใช้ดีมากๆค่ะ
https://kirarista.com/2017/04/27/minon-amino-moist/
BEST CREAM / ALL IN ONE
อันดับ 1 : Naturie Skin Conditioning Gel (180 g 900 JPY)
Kirari’s Review : เจลบำรุงผิวที่บำรุงได้ดีมากกก เราชอบมากเลย
ยิ่งใช้ช่วงอากาศแห้งๆ จะยิ่งเห็นผลว่าผิวมันชุ่มชื้นขึ้น ชิ้นนี้ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายเลยนะ
กระปุกใหญ่มากๆ ชุ่มชื้นมากจริงๆ
BEST SUNSCREEN
อันดับ 1 : ANESSA Perfect UV Sunscreen aqua booster SPF50+ PA++++
(60ml 3,000 JPY) ชิ้นนี้ซื้อในไทยถูกกว่านะ! – ในไทย 859 บาท (ชอบจัดโปรด้วย)
กันแดดที่เป็นตำนานค่ะ! ครองอันดับ 1 มายาวนานเวอร์สิบกว่าปี ตั้งแต่รุ่นก่อนแล้ว
(รุ่นก่อนก็สีทองแบบนี้แหละ แต่รุ่นใหม่นี้เป็นเทคโนโลยี Aqua Booster ยิ่งโดนน้ำ ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพ)
รุ่นใหม่นี้วางขายเมื่อปี 2016 ก็ได้รับรางวัล Best Sunscreen อันดับ 2 นะ ปีนี้ขยับมาอันดับ 1 ชนะเลิศเลย
(สีเงิน เมื่อครึ่งปีแรกได้รางวัล Best Sunscreen อันดับ 1 แต่โพลปลายปี ไม่ติดซะงั้น)
Kirari’s Review: ตัวนี้กันแดดดีจริงๆ รุ่นใหม่นี้เราชอบค่ะ ล้างไม่ยากแบบก่อนแล้ว กันแดดได้ดี
ไม่ทำให้ผิวมันเหนอะหนะ ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว ชอบตรงเวลาโดนน้ำ หรือเหงื่อ ไม่เป็นคราบขาว
อันดับ 2 : DECORTE Sun Shelter Multi Protection SPF50+ PA++++ (60 g 4,200 JPY)
Kirari’s Review : ชิ้นนี้เป็นกันแดดอีกตัวที่เราใช้บ่อยที่สุดในปีที่ผ่านมาค่ะ เพราะมันกันได้ทั้งแดด
และฝุ่นละออง เดิมทีเราเป็นแพ้ฝุ่น เวลาเจอฝุ่นจะขึ้นสิวทันที ซึ่งชิ้นนี้กันฝุ่นได้ด้วย ไม่ลังเลที่จะซื้อใช้เลย
ล้างออกได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เป็นกันแดดลูกรักอีกตัวเลย
ชิ้นนี้ได้รางวัล Best Sunscreen ของครึ่งปีแรก อันดับ 1 ด้วยค่ะ
อันดับ 3 : NIVEA SUN cream care SPF50+ PA++++ (50 g ราวๆ 770 JPY)
ครีมกันแดดราคาน่ารักจากนีเวีย ที่เน้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นไปในตัว
BEST SHEET MASK
อันดับ 1 : Saborino Morning Mask (32 sheets 1,300 JPY)
Kirari’s Review : คอนเซพท์มาส์กชิ้นนี้เจ๋งมาก เพราะปกติเราชินกับการมาส์กทิ้งไว้นานๆ
แต่ชิ้นนี้แค่ 60 วินาทีเท่านั้น ทุกเช้า เหมือนกับการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่
ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าเหนอะ หรือเยิ้มระหว่างวัน ใช้ดีทีเดียวค่ะ สบายผิวด้วย
อันดับ 2 : Keana Nashiko Rice Mask (10 sheets 650 JPY)
ชีทมาส์กที่ใช้สารสกัดจากข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ เน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
ลดปัญหารูขุมขนกว้างที่เนื่องมาจากผิวสูญเสียความสมดุล
อันดับ 3 : My Beauty Diary Mask (5 sheets 690 JPY)
Kirari’s Review : แบรนด์นี้เราคนไทยคุ้นเคยกันดี เพราะดังในบ้านเราก่อนญี่ปุ่นมานาน
รุ่น Black Pearl ใช้ดีมากค่ะ มาส์กทิ้งไว้ 15 นาที หน้าขาวเลย
BEST LIP CARE
อันดับ 1 : FLOW FUSHI LIP39c Lip Treatment (1,600 JPY)
ลิปรุ่นนี้ต้องยอมเค้าจริงๆนะ ปีนี้คว้าไป 3 รางวัล เป็นลิปทรีทเม้นท์คอนเซพท์แปลก แต่เจ๋ง!
คือจะเป็นลิปเพิ่มอุณหภูมิปาก เช่น คนปากซีดมากๆ +5 องศา จะเป็นสีออก Coral Orange
ซีดกลางๆ ใช้ +3 องศา สี Coral Pink ส่วนคนที่ปากแดงอยู่แล้วก็ใช้รุ่น +0 สี Clear
หรือคนปากแดงมากๆ อยากให้สีปากแดงน้อยลง ก็มีแบบติดลบด้วยนะ
นี่เป็นลิปทรีทเม้นท์ สามารถใช้ได้ทั้งวัน และผสมกันแดดด้วย SPF 20 PA++
เพิ่งวางขายเมื่อกลางปี แต่ sold out ตลอดเวลา ยิ่งสี +3 นี่ หายากมากเลย
Kirari’s Review : หลังจากประกาศรางวัลปุ๊ป ก็เดินเข้าร้านหาเบอร์ +3 ทันที เนื้อลิปเป็นลิปทรีทเม้นท์
ที่เนื้อคล้ายกลอสบางๆ เคลือบและบำรุงได้ดี หลายคนบอกว่าทาแล้วจะอุ่นๆ แต่เราทาแล้วไม่รู้สึกอุ่นอ่ะ
สีที่ได้คือชมพูบางๆ คือสีปากจะอมชมพูขึ้นนิดนึง ไม่ได้ดูว่าทาลิปไรเลยนะ ดูธรรมชาติเหมือนทาลิปมัน
อันดับ 2 : Dior Addict Lip Glow (3,800 JPY)
Kirari’s Review : ลิปมันของดิออร์ที่ขายดียาวนาน ชุ่มชื้น ที่สำคัญ แพคเกจสวย ถูกใจ
อันดับ 3 : NIVEA Rich Care & Color
ลิปแคร์มีสีจากนีเวียตัวใหม่ ที่ให้สีสันที่สวยเป็นธรรมชาติ พร้อมบำรุงให้ชุ่มชื้น
BEST EYE CARE
อันดับ 1 POLA Wrinkle Shot Medical Serum (20 g 15,000 JPY)
ตามคาดเลยว่าต้องคว้ารางวัลแน่ๆ เพราะกระแสแรงมากตั้งแต่ก่อนเปิดขาย
เพราะใช้ส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์ที่ทีม POLA คิดค้น และได้รับการรับรองจากสากลเรียบร้อย
นั่นคือ “NEI-L1” สารตัวนี้จะจัดการกับตัวการทำลายความยืดหยุ่นในผิว จึงสามารถลดริ้วรอยได้จริง
และมีการทดลองกับ 500 คน เป็นเวลา 3 ปี อย่างจริงจัง ผลเป็นที่น่าพอใจ ชิ้นนี้เราว่าพลาดไม่ได้จริงๆ
ในไทยได้ยินว่าเข้าปีหน้านะคะ ตอนนี้ซื้อจากญี่ปุ่นกันไปก่อน
เราซื้อมาเรียบร้อยแล้วล่ะ แต่เพิ่งลองไปเอง เอาไว้ค่อยมารีวิวจ้ะ
อันดับ 2 : ELIXIR Enriched wrinkle cream (15 g 5,800 JPY)
อายครีมในเครือ Shiseido ที่เน้นการเติมเต็มริ้วรอยแห่งวัย โดยใช้ส่วนผสมจากเรตินอล
ช่วยกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอยให้จางลง
อันดับ 3 : Flowfushi The Eye cream (7.5 g 2,500 JPY)
Kirari’s Review: ชิ้นนี้ซื้อมาเพราะเราลืมเอาอายครีมมาญี่ปุ่น เลยลองดูเห็นป้ายว่า HOT!
ลองแล้วก็โอเคค่ะ ไม่ถึงกับเริ่ดเวอร์ แต่ก็รู้สึกถึงความชุ่มชื้นในระดับที่ดี ไม่เยิ้มเกิน ไม่ทำให้เมคอัพเป็นคราบ
หักคะแนนที่แพคเกจนี่แหละ หัวแหลมๆ ปิดเปิดยากไปนิดนึง ชิ้นนี้เน้นเรื่องการปรับโทนค่ะ พวกตาดำคล้ำ
จากการเล่นสมาร์ทโฟน หรือใช้สายตาเยอะๆ ใช้เพียงเล็กน้อยและนวดเบาๆรอบดวงตา
BEST LASH SERUM
อันดับ 1 : FLOWFUSHI The Massage Biyou-Eki (5 g 1,200 JPY)
แบรนด์นี้กวาดหลายรางวัลแล้วนะเนี่ย… นี่เป็นอีกชิ้นที่สาวญี่ปุ่นบอกว่า เห้ย! ใช้ง่ายมาก
แล้วได้ผลจริง ขนตาแข็งแรง และยาวขึ้น สามารถใช้กับคิ้วได้ด้วย ใครคิ้วบางลองดู
ชิ้นนี้จะเป็นเซรั่มที่ใช้ทา ต่างจากแบรนด์อื่นๆ คือเราทาไปที่เปลือกตาบนได้เลย
สูตรนี้อ่อนโยนต่อผิว สามารถใช้แทนอายครีมได้ด้วย
อันดับ 2 : Angfa Scalp-D Beauty Pure Free Las serum (1,602 JPY)
Kirari’s Review : ชิ้นนี้เราว่าขายดีสุดๆตั้งแต่วางขายเลยนะ นอกจากคนญี่ปุ่นแล้ว
คนจีนนี่ก็หอบกันเป็นตะกร้า เซรั่มบำรุงขนตาที่ทำให้ขนตายาวและแข็งแรง
ใช้ง่าย แค่ปาดๆที่ขนตา ขนตาแข็งแรงขึ้น เส้นหนาขึ้นค่ะ
ตอนนี้เค้าออกรุ่นพรีเมี่ยมมาด้วย ราคาก็พรีเมี่ยม X2
ยังไม่ได้ลองตัวใหม่ เอาไว้ซื้อแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ
อันดับ 3 : SHISEIDO Adenovital Eyelash Serum (6g 2,300 JPY)
เห้ย..ชิ้นนี้ไม่เคยใช้ได้ไงเนี่ย เราต้องไปหามาแล้ว เพราะค้นข้อมูลแล้ว เค้าได้รางวัลทุกปีเลย
ตั้งแต่ออกวางขายปี 2014 ก็ได้ Best Lash Serum อันดับ 3
.ในปี 2015 – 2016 ได้อันดับ 1 และในปี 2017 ได้อันดับ 3 ไม่ธรรมดานะ ติด TOP 3 ตลอด 4 ปี
BEST SKINCARE POWDER
อันดับ 1 : Maquillage Snow Beauty Powder 2017 (6,500 JPY / 10,000 JPY)
Kirari’s Review : บอกเลยว่าเป็นแป้งที่เราชอบและใช้บ่อยที่สุดเลยล่ะ! ซื้อมาแพง แต่คุ้มค่ามาก
มันเป็นสกินแคร์รูปแบบแป้งเพรส เนื้อเนียนละเอียดสุดๆ สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน
(ในแพคจะมีพัฟนุ่มฟู สำหรับใช้ก่อนนอนมาให้) ส่วนตอนเช้าเราจะใช้แทนแป้งฝุ่นค่ะ
ช่วย Tone up ผิวกระจ่างใสมาก ตอนแรกเหมือนจะวอกๆหน่อยนะ แต่พักนึงจะเซ็ทตัวและปรับ
เข้ากับสีผิว เพื่อนเราที่ผิวเข้มก็ใช้ได้ ชอบมากๆเลยล่ะ
อันดับ 2 : CLUB Suppin Powder White Floral Bouquet (1,600 JPY)
แป้งเพรสที่ใช้ในวันเบาๆ ไม่ผสมรองพื้น อ่าน PR press แล้วก็อมยิ้มเบาๆ เค้าแนะนำว่า
ใช้ในวันค้างคืนเดทกับแฟน หรือวันที่ต้องการผิวหน้าสวย แต่ไม่เป็นสิว
ใช้ตอนกลับจากฟิตเนสก็ได้ แป้งตัวนี้ให้การปกปิดกลางๆ พรางรูขุมขน ล้างออกด้วยน้ำและสบู่ได้ง่ายๆ
อันดับ 3 : BABY Shiseido Baby Powder (350 JPY)
แป้งในตำนาน! วางขายตั้งแต่ 1971 ยังคงฮิตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
เป็นแป้งเพรสธรรมดานี่แหละ เหมือนแป้งเด็กอัดแข็ง ใช้ได้ง่ายๆทุกวัน ราคาก็น่ารัก
BEST HANDCREAM
อันดับ 1 : Menturm Medical Cream (90 g 1,000 JPY)
Kirari’s Review: ครีมสารพัดประโยชน์ค่ะ พกติดบ้านไว้ได้เลย
เพราะด้วยนี้สามารถบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น แก้อาการคันที่เกิดจากผิวแห้ง
หรือผิวแตกเพราะอากาศแห้งก็ได้เช่นกัน วิธีใช้ก็คือต้องนวดราวๆ 1 นาทีจนกว่ากลิ่นจะจางไป
ชิ้นนี้บำรุงผิวมือได้ดีนะ แต่กลิ่นจะแนวพิมเสนนิดนึงค่ะ
อันดับ 2 : JILL STUART Relax Hand cream (74 g 2,400 JPY)
ชิ้นนี้ก็ได้รางวัลต่อเนื่อง ติด TOP 3 มาโดยตลอด
2014 Best Hand Care อันดับ 2
2015 Best Hand Cream อันดับ 3
2016 Best Hand Cream อันดับ 2 และในปีนี้ก็ยังคงครองอันดับ 2 ค่ะ
Kirari’s Review : ชิ้นนี้เป็นแฮนด์ครีมที่กลิ่นหอมติดมือมากๆ ให้ความชุ่มชื้นดีมากๆ
ใช้เพียงแค่นิดเดียวก็เพียงพอค่ะ หลอดนึงจึงใช้ได้นานทีเดียว
อันดับ 3 L’Occitane Shea Hand Cream (130ml 3,400 JPY)
ชิ้นนี้ก็ตีคู่กับ JILL STUART เลย ได้รางวัลตั้งแต่ปี 2015 Best Hand Cream อันดับ 2 และ
ปี 2016 – 2017 อยู่ในอันดับ 3
Kirari’s Review: ชิ้นนี้เราชอบทำเป็น Hand Mask ค่ะ เพราะชุ่มชื้นมากๆ หากใช้ในไทย
ก็จะต้องใช้แค่นิดเดียวจริงๆ ไม่งั้นจะมันเกิน แนะนำซื้อหลอดเล็กก็พอ ใช้ได้นานจนลืมเลยล่ะ
BEST HAIR CARE
อันดับ 1 : Elujuda Emulsion+ (120 g 2,600 JPY)
Kirari’s Review : อีมัลชั่นบำรุงผมขวดนี้หมดไปหลายขวดมากค่ะ ใช้ดีมากจริงๆ กลิ่นหอมสุดๆ
บำรุงผมได้ดีมาก ผมจะนิ่มทันที และลื่นทันทีหลังใช้ค่ะ
ได้รางวัลต่อเนื่องมาหลายปีนะ ตั้งแต่ปี 2015 Best Hair Care อันดับ 1
2016 ได้อันดับ 2 และกลับมาครองอันดับ 1 ในปีนี้อีกครั้ง
ส่วนตัวเรา ชอบรุ่น Emulsion มากกว่า (ไม่มี +) มันจะสำหรับผมเส้นเล็กค่ะ รู้สึกว่าไม่หนัก
พลิ้วกว่า แต่ถ้าเป็นคนผมเส้นหนา ก็ต้องเลือกรุ่น Emulsion+ ค่ะ
บำรุงเหมือนกัน ต่างกันที่เนื้อเล็กน้อย
อันดับ 2 : L’oreal Elseve Extraordinary Oil (100 ml 1,900 JPY)
ชิ้นนี้ในไทยมีขาย และราคาดีงามกว่าเยอะด้วย เคยรีวิวไว้แล้ว
ปีที่แล้วได้รางวัลอันดับ 1 ปีนี้โดนแซงไปเล็กน้อย แต่ก็ติด TOP 3 อยู่นะ
หอมมาก กลิ่นกุหลาบฝรั่งเศส บำรุงผมให้เงา พลิ้ว ไม่หนักค่ะ
รีวิว >>https://youtu.be/_M1Nx3M38j8
อันดับ 3 : Elujuda MO
Kirari’s Review: มาอีกชิ้น สำหรับรุ่น MO ชิ้นนี้จะหนักนิดนึงค่ะ เป็นออยล์เนื้อแน่น
เหมาะกับคนที่อยากได้ผมตรง หรืออยู่ทรงทั้งวัน ทิ้งตัว
เคลือบเส้นผมให้เงา นุ่ม ลื่น แต่ถ้าใครที่อยากบำรุงเพื่อฟื้นผมเสีย แนะนำเป็นรุ่น Emulsion ดีกว่าค่ะ
ออยล์รุ่นนี้ได้รางวัล Best Hair Care อันดับ 3 ตั้งแต่ 2015 -2017 เลยล่ะ
BEST Shampoo/ Conditioner
อันดับ 1 : L’Oreal ELSEVE Extraordinary Oil cleansing Cream
แชมพูสูตรออยล์ที่ไม่มีฟอง เน้นทำความสะอาดอย่างหมดจด
ผมที่ได้นุ่ม และพลิ้วตรงสวย อยู่ทรง
อันดับ 2 : PANTENE Extra Damage Care Shampoo/ Conditioner
Kirari’s Review : ชิ้นนี้เคยรีวิวไว้แล้ว บำรุงผมแน่นมาก ส่วนตัวเราคิดว่าเหมาะกับคนผมตรง
เพราะมันทำให้ผมทิ้งตัว ยอมรับเลยว่า ผมนุ่มจริง แต่ก็หนังศีรษะมันง่ายขึ้นเล็กน้อย
หากไม่ได้สระทุกวัน ส่วนตัวครีมนวด ดีงามมาก ใช้แล้วผมนิ่ม ลื่น พลิ้ว
อันดับ 3 : L’Oreal ELSEVE Cleansing Cream shampoo
แชมพูสูตรครีม ที่เน้นให้ผมเงา พลิ้วสลวย
-Part 2- หมวด Make Up
🏆BEST COSMETICS 2017
ทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่น สามารถมาอ่านสนุกๆกันได้ที่นี่ค่ะ