-Part 2- หมวด Make Up “@COSME The Best Cosmetics Awards 2017” (+ Mini Review)

เมื่อวานอัพเดทหมวด Skincare ไปแล้ว วันนี้มาต่อกันที่หมวด Make Up กันบ้าง

เริ่มจาก Base Make up กันก่อนเลยค่ะ

BEST BASE

อันดับ 1 : CEZANNE Make Keep Base (30ml 600 JPY)

Kirari’s Review : เบสเนื้อบางเบาที่ทาแล้วช่วยพรางรูขุมขนให้ดูเล็กลง

กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่ทำให้ผิวเป็นคราบ

ชิ้นนี้วางขายมาพักใหญ่แล้วค่ะ ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ด้วยราคาเบาๆ

แต่คุณภาพดีเกินราคา แบรนด์นี้เรื่องเบสเมคอัพดีงามหลายชิ้นเลย

 

 

อันดับ 2 : PAUL & JOE BEAUTE Moisturizing Foundation S (30 ml  3,500 JPY)

Kirari’s Review: เบสตัวดังจาก Paul & Joe ที่ดังต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว 

ในปี 2016 ได้รางวัล Best Base อันดับ 1 นะ เราเลยตัดสินใจลองเลย 

เนื้อเบสจะค่อนข้างแน่นค่ะ เกลี่ยแล้วผิวจะวาวขึ้น บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นทันที

แต่ไม่ทำให้หน้าเยิ้ม เพราะผสม powder ที่ช่วยซับความมันลงไปด้วย

เบสของแบรนด์นี้มีหลายรุ่น แต่ละรุ่นต่างกัน ไปชมในรีวิวเราได้ค่ะ

>>https://youtu.be/FLDy_n1WaUA

 

อันดับ 3 : Maquillage Dramatic Skin Sensor Base UV (25 ml  2,600 JPY)

ชิ้นนี้วางขายเมื่อปีที่แล้ว และก็ได้รับรางวัล Best Base อันดับ 1 ของครึ่งปีแรกปี 2016

และได้รางวัล Best Base อันดับ 2 ประจำปี 2016 ที่ผ่านมา

ชิ้นนี้สาวๆญี่ปุ่นรีวิวกันว่า แม้ช่วงหน้าร้อน ที่เหงื่อออกเยอะ เมื่อใช้แล้ว

เมคอัพติดทนขึ้น ไม่พัง และยังช่วยพรางรูขุมขนได้ด้วย

BEST FOUNDATION POWDER

 

 อันดับ 1 : CHANEL Le Blanc Compact Foundation (12 g  7,500 JPY)

แป้งรุ่นนี้วางขายเมื่อต้นปี และได้รางวัล Best Foundation Powder อันดับ 1 ของครึ่งปีแรกมาด้วย

สาวๆรีวิวไว้ว่า เป็นแป้งเนื้อละเอียดที่ผสมไวท์เทนนิ่ง ใช้แล้วผิวไม่หมอง

เนื้อแป้งเนียนเรียบไปกับผิว และติดทนยาวนาน

 

 

อันดับ 2 : SOFINA Primavista Powder Foundation (3,800 JPY)

Kirari’s Review : แป้งผสมรองพื้นแบรนด์นี้บอกได้เลยว่าติดทนมากๆ

เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องแป้งไม่ติดหน้า หรือคนที่มีรูขุมขนกว้าง

ใช้แล้วผิวเรียบเนียนยาวนาน ทาเช้า อยู่ได้ถึงเย็นไม่ต้องเติม

อันดับ 3 : Esprique Pure Skin Pact UV (3,800 JPY)

แป้งผสมรองพื้นที่เน้นจัดการปัญหารูขุมขนเป็นหลัก

ช่วยอำพรางอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่ทำให้เป็นคราบระหว่างวัน

 

BEST LIQUID FOUNDATION

อันดับ 1 : KATE Secret Skin Maker Zero (Liquid) (30 ml  1,600 JPY)

รองพื้นรุ่นล่าสุดจาก KATE ที่เนื้อบางเบาแต่ปกปิดได้ดี เกลี่ยง่าย

ปกปิดรอยแดงดำและรูขุมขนอย่างแนบเนียน

 

อันดับ 2 : RMK Liquid Foundation (30 ml  4,500 JPY)

รองพื้นตัวดังของ RMK มาในแพคเกจหน้าตาใหม่ค่ะ ตัวนี้ได้รางวัลมาต่อเนื่อง

ตั้งแต่ปี 2003 แล้ว ด้วยเนื้อที่บางเบา ปกปิดระดับกลาง ทำให้ดูเนียนไปกับผิว

เป็นงานผิวแบบที่สาวญี่ปุ่นเค้าชอบกัน

อันดับ 3 : DIOR Diorskin Forever Fluid (6,000 JPY)

Kirari’s Review : รองพื้นตัวนี้จากดิออร์เนื้อดีมากๆ เนื้อฟลูอิดบาง เกลี่ยง่าย 

แต่ให้การปกปิดในระดับที่ดี ไม่หนาและไม่บางเกินไป เรียบเนียนติดทนยาวตั้งแต่เช้ายันเย็น

อีกจุดที่ชอบคือ สีไม่เปลี่ยน ไม่เพี้ยนระหว่างวัน และไม่เป็นคราบค่ะ

 

BEST CUSHION FOUNDATION

อันดับ 1 : LANCOME Blanc Expert Cushion Compact H (6,500 JPY)

Kirari’s Review : คุชชั่นรุ่นนี้เราชอบสุดของลังโคมค่ะ เพราะปกปิดได้สูง แต่ไม่หนาเป็นคราบ

และกันแดดได้ดีด้วย SPF50+ PA++++ เนื้อเนียน เกลี่ยนง่าย ติดทน กันเหงื่อได้ดี

ได้ผิวที่กึ่งแมตต์ แต่ยังคงความวาวใสอยู่ ผิวสวยค่ะ

 

อันดับ 2 : DIOR Diorskin Forever Cushion (6,500 JPY)

Kirari’s Review : คุชชั่นจากดิออร์ที่บอกได้เลยว่า ใครชอบรองพื้นรุ่นเดียวกันนี้

มันคือรองพื้นเทใส่คุชชั่นค่ะ ใช้ได้ง่าย พกง่ายขึ้น ปกปิดระดับกลาง เนื้อเกลี่ยง่าย

สีไม่เพี้ยนระหว่างวัน 

เคยรีวิวไว้แล้วที่นี่ (คู่กับอันดับ 3 ของ Shiseido เลย) >>https://youtu.be/fmKskcgfF4Q

อันดับ 3 : SHISEIDO Synchro Skin Glow cushion (5,500 JPY)

Kirari’s Review : คุชชั่นรุ่นแรกจาก Shiseido ที่ใช้ครั้งแรกก็ติดใจในทันทีค่ะ

เป็นคุชชั่นเนื้อยืดหยุ่นดีที่สุดรุ่นนึงเลยล่ะ ถ้าเทียบทั้ง 3 อันดับแล้ว เราใช้ของ Shiseido บ่อยสุด

เพราะได้ผิวโกลว์สวยแบบสาวญี่ปุ่น ปกปิดกลางๆ แต่ไม่มันเยิ้ม ไม่เป็นคราบ

ความพิเศษของรุ่นนี้คือเนื้อสัมผัสจะปรับไปตามอุณหภูมิผิว จะเอาไปใช้เมืองหนาว

ก็ไม่แห้งเกิน เอามาใช้เมืองร้อนก็ไม่เยิ้ม ซึ่งคุชชั่นจาก Shiseido มีรุ่นล่าสุดที่ออกมาตลับขาว

ตัวนั้นผสม whitening ด้วย (เราชอบมากๆ) แต่ข้อเสียอย่างนึงคือ เฉดสีเลือกยากค่ะ

ผิวเราใช้ N1 ก็ขาวไป N2 ก็เข้มไป สุดท้ายต้องซื้อสองเบอร์เลย

 

BEST CREAM FOUNDATION

 

อันดับ 1 : RMK Gel Creamy Foundation (30 g  5,000 JPY)

ชิ้นนี้ Re package ใหม่ในปีนี้ค่ะ RMK มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง

และกลับมาแล้วในปีนี้ Welcome Back!

รองพื้นตัวนี้ดังมาตั้งแต่ออกวางขาย และก็ได้อันดับ 1 Best Cream Foundation ในปี 2014

และอันดับ 2 ในปี 2015 ล่าสุดในปีนี้ กลับมาทวงตำแหน่งในอันดับ 1 สำเร็จ

เนื้อเจลครีมของรุ่นนี้ เหมาะกับผิวที่ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ปกปิดระดับกลาง ถึงดี

เกลี่ยง่าย ติดทน รองพื้นแบรนด์นี้ดังเรื่องความเรียบเนียน และติดทนยาวนานค่ะ

 

อันดับ 2 : ALBION Smartskin Very Rare (5,000 JPY)

รองพื้นเนื้อครีมเด้งดึ๋งในรูปแบบตลับ พกพาได้ง่าย ให้การปกปิดที่ดี

เมื่อเกลี่ยลงผิวแล้วจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้ง สะดวกในขั้นตอนเดียว

ในปี 2016 ที่ผ่านมา ได้ Best New Item และ Best Cream Foundation อันดับ 3

 

อันดับ 3 : RMK Creamy Foundation N (5,000 JPY)

Kirari’s Review : รองพื้นรุ่นนี้เราใช้ตั้งแต่เป็นกระปุกเหลี่ยมๆ ออกมาปุ๊ปดังเปรี้ยงเลย

เนื้อครีมมี่ ผิวฉ่ำวาว ปกปิดสูงสุด เรียกว่าเป็นรองพื้นในตำนานช่วงนั้นเลยนะ

เพราะใช้แล้วคนถามถึงบ่อยมากๆ ให้การปกปิดดีมากจนเป็นเหมือนผิวเราจริงๆ

แต่ในรุ่นใหม่นี้ เห็นว่ามีการปรับเรื่อง Coverage ว่าบางเบาลงกว่าเดิม

ให้งานผิวที่ดูแพงยิ่งขึ้น เน้นปกปิดรูขุมขน และริ้วรอยเป็นหลักค่ะ

ซึ่งในปี 2015 – 2016 ก็ครองอันดับ 1 Best Cream Foundation ด้วย ต้องลอง..

 

BEST POWDER

 

อันดับ 1 : CANMAKE marshmallow finish powder (940 JPY)

Kirari’s Review : แป้งไม่ผสมรองพื้นจาก canmake ตัวนี้เลิฟมากๆ

ทำเนื้อออกมาเนียนไปกับผิว ไม่อุดตัน ไม่เป็นคราบ ใช้ได้ง่าย ตลับน่ารัก

ต้องรุ่นฝาทองนี้นะคะ จะได้ลุคกึ่งแมตต์ ผิวไม่ด้าน (ส่วนสีชมพูจะเน้นวาวๆ)

ราคาน่ารัก เป็นเจ้าของได้ง่าย ชิ้นนี้ติด TOP3 มานานนะ ตั้งแต่ปี 2014 – 2016 ครองอันดับ 2

และในที่สุด ปีนี้ก็คว้าอันดับ 1 มาครองได้แล้ว

 

อันดับ 2 : COSME DECORTE  AQMW Face Powder (20 g  5,000 JPY)

Kirari’s Review : แป้งตัวนี้เป็น Loose powder ที่ใช้ส่วนผสม Organic ค่ะ

เหมาะกับคนที่แพ้ง่ายๆ และชอบแป้งที่มีสารบำรุงผิวด้วย ยิ่งช่วงหน้าหนาว

พวกแป้งปกติจะไม่ค่อยเกาะผิวหน้า หรือไม่ก็ทำให้ผิวดูแห้ง แต่แป้งจาก Decorte นี้

จะช่วยบำรุงผิว และอณูแป้งก็มีความวาวในตัว ผิวที่ได้จึงดูสุขภาพดีไม่แห้ง

ชิ้นนี้ก็ครอง TOP 3 มาต่อเนื่อง 4 ปีเลยนะ (2014 อันดับ 3 , 2015 และ 2016 อันดับ 1 และ 2017 อันดับ 2)

อันดับ 3 : ELEGANCE La Poudre haute nuance (8.8 g  10,000 JPY)

แป้งไฮเอ็นด์อีกชิ้นที่สาวญี่ปุ่นนิยมมากๆ เมื่อปัดที่ผิวหน้าแล้ว

จะปรับโทนผิวให้สว่าง ดูกระจ่างใสทันที

 

BEST CONCEALER

อันดับ 1 : NARS Soft Matte Complete Concealer (3,400 JPY)

Kirari’s Review : คอนซีลเลอร์เนื้อครีมที่เมื่อทาที่ผิวแล้วจะยึดเกาะ

ไม่หลุดหรือเป็นคราบ เกลี่ยได้ง่าย แนะนำในการปกปิดส่วนที่เป็นรอยแดงดำ

หากใช้บริเวณรอบตาเราว่าต้องวอร์มดีๆ ไม่งั้นจะตกร่อง หรือไม่ก็เลือกใช้

ที่เป็นรุ่น Liquid จะเกลี่ยรอบตาได้ง่ายกว่า 

 

อันดับ 2 : IPSA Creative Concealer EX (3,500 JPY)

Kirari’s Review : พาเลทคอนซีลเลอร์ที่เนื้อดีมากๆ และผสมสีได้ด้วย

ในตลับจะมี 4 ช่อง ช่องสุดท้ายว่างๆเอาไว้ผสมสีค่ะ สะดวกมากจริงๆ

เนื้อครีมมี่ละลายที่ผิวและเกาะผิวได้ดี ปกปิดสูงสุด สามารถใช้ได้ทั่วหน้าและรอบตาเลย

เป็นอีกพาเลทคอนซีลเลอร์​ที่แนะนำมากๆ

อันดับ 3 : DIOR Fix It Colour (4,200 JPY)

Kirari’s Review : ชิ้นนี้เรามองว่าเป็น Color Corrector มากกว่า

เพราะใช้สีบางๆเพื่อปรับโทนผิว สีที่เราใช้คือ สีเขียว และม่วงค่ะ

สีเขียวจะใช้เบลอรอยแดงสิว หรือรอบตาในส่วนที่คล้ำไปทางแดงๆ จากนั้นค่อยลงคอนซีลเลอร์ต่อ

ส่วนสีม่วง จะปรับโทนผิว เราผิวเหลือง แท่งม่วงนี้เลยได้ใช้บ่อยเลยล่ะ

 

BEST BB CREAM

อันดับ 1 : LANCOME UB Expert Youth Shield SPF50 PA++++ (30 ml  5,800 JPY)

Kirari’s Review : บีบีรุ่นนี้เนื้อบางมากกกก ไม่ค่อยปกปิดค่ะ เหมาะกับวันเบาๆ วันที่ไปฟิตเนส

จะช่วยเกลี่ยผิวให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง

เรามองว่าทาเป็นกันแดดไปเลยยังได้ แล้วค่อยลงแป้งผสมรองพื้นอีกชั้นทับ

 

 

อันดับ 2 : d PROGRAM Allerbarrier BB SPF40 PA+++ (40 ml  3,000 JPY)

ชิ้นนี้น่าสนใจค่ะ เป็นแบรนด์ลูกของ Shiseido ที่เน้นเรื่องคนผิวแพ้ง่ายต่อฝุ่น

และละอองเกษรเป็นหลัก (นั่นก็คือเรานั่นเอง!) BB ตัวนี้จะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ

ไม่ก่อให้เกิดสิว กันแดดที่ใส่เข้ามาก็ Non-Chemical ไม่มีแอลกอฮอลล์ พาราเบนด้วย อ่อนโยนต่อผิวสุดๆ

ใครเป็นสิวง่าย แพ้ฝุ่น ต้องลองค่ะ

อันดับ 3 : Maquillage Perfect Multi Base BB (30 ml  3,000 JPY)

เบสที่ช่วยเกลี่ยผิวและปกปิดรูขุมขน รวมทั้งผสมสารบำรุงผิวเข้าไปด้วย

 

BEST EYESHADOW

 

 

 อันดับ 1 : ADDICTION The Eyeshadow (2,000 JPY)

อายแชโดว์แบรนด์ดังของญี่ปุ่น ที่โด่งดังใน Runway ของเมืองนอกด้วยเช่นกัน

ด้วยเนื้อสีที่ชัดเจน เนื้อละเอียด และมีให้เลือกมากกว่า 99 สี

Kirari’s Review : อายแชโดว์แบรนด์นี้ต้องยอมเรื่องคุณภาพเค้าจริงๆ เพราะสีสวยมากๆ

คนที่เล่นเมคอัพ พอได้ลองเนื้อแล้วร้องว้าวกันทุกคน เนื้อดีมากๆ ทาแล้วให้ความรู้สึกว่าแพงมาก

เราเองก็ชอบหลายสีที่ซื้อมา โดยเฉพาะสีที่ผสมชิมเมอร์และกลิตเตอร์ วาวสวยมากจริงๆ

ก็ได้แต่หวังว่า KOSE ไทยจะนำเข้ามาในเร็วๆนี้

 

 

อันดับ 2 : EXCEL Skiny Rich Shadow (1,500 JPY)

อายแชโดว์ที่สีชัด ติดทน ราคาไม่แพง  รุ่นนี้ก็ได้ Best Eyeshadow อันดับ 2 ในปี 2016 นะ

 เนื้อสีเราลองแล้วคือดูแพงนะ เนื้อละเอียด วาวสวย ไม่ผิดหวังค่ะ

อันดับ 3 : ESPRIQUE Select Eye color (800 JPY)

Kirari’s Review : อายแชโดว์สีเดี่ยวที่สีสวยมาก วิ้งวาวสวย เล่นแสงมากจริงๆ

สีที่ได้จะไม่ออกชัดมากนัก แต่ประกายจะเล่นไฟสวย 

ชิ้นนี้ก็ได้หลายรางวัลค่ะ ปี 2015 ได้ Best New Item, ปี 2016 -2017 ได้ Best Eyeshadow อันดับ 3 

 

BEST EYE LINER

 

อันดับ 1 : FLOWFUSHI Mote Liner Liquid (1,500 JPY)

Kirari’s Review : ชิ้นนี้ชอบมากกกก ไลน์เนอร์สีที่ให้สีชัด เขียนง่าย พู่กันเรียวไซส์กำลังดี

สีที่เราชอบมากที่สุดคือ Navy Black ค่ะ เป็นโทนน้ำเงินที่หรู และสวยมากๆ 

รองมาก็คือสี  Cherry Cheek โทนสีแดง (แต่ถ้าไลน์เนอร์สีแดง ตอนนี้ยกให้ JILL STUART เลยดีเวอร์)

ตัวนี้กันน้ำได้ดี ไม่ค่อยเลอะระหว่างวันค่ะ

 

อันดับ 2 : KATE Double eyelid remake (1,000 JPY)

ไลน์เนอร์สีน้ำตาลอ่อน ที่จะใช้เขียนขอบตาก็ได้ หรือจะใช้วาดเป็นตาสองชั้น (แบบหลอกๆก็ได้)

น่าสนใจดีค่ะ สาวๆญี่ปุ่นใช้วาดเป็นชั้นตาหลายคนเหมือนกันนะ

อันดับ 3 : CEZANNE Gel Eyeliner (500 JPY)

Kirari’s Review : ชิ้นนี้ชอบมาก ถูกมาก แต่ดีมากๆ!

ไลน์เนอร์เนื้อเจลนุ่มๆแบบดินสอ เขียนได้ง่าย และมีเฉดสีให้เลือกหลายสี

สีที่เราใช้บ่อยสุดคือสี Burgundy โทนแดงค่ะ สีนี้สวย และใช้ดีมากๆ ติดทนดี เลอะน้อย

 

BEST MASCARA

อันดับ 1 : OPERA May Lash Advanced (951 JPY)

มาสคาร่าที่เน้นเรื่องความยาว ต่อขนตาให้ยาวและหนาขึ้น

เพิ่งวางขายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หัวแปรงจับเส้นขนตาได้ดี เรียงเส้นสวย

 

 

อันดับ 2 : DEJAVU Fiebrig Extra Long F (1,500 JPY)

Kirari’s Review : มาสคาร่าต่อขนตาให้ยาว ด้วยไฟเบอร์ที่ยาวพิเศษ

และหัวแปรงที่ออกแบบพิเศษ จับขนตาได้ดี เราว่ามันยาวจริงๆ แต่ไม่หนา

(ส่วนตัวขอบรุ่นหนามากกว่า)

อันดับ 3 :  Heroine Make Long & Curl super WP (1,000 JPY)

Kirari’s Review : มาสคาร่าที่ไม่มีคนญี่ปุ่นไม่รู้จักล่ะรุ่นนี้ ชอบกันเหลือเกิน จนต้องซื้อมาลอง

มันเน้นยาวค่ะ ไม่หนาเลย กันน้ำได้ดี ไม่เลอะระหว่างวัน ความงอนของขนตาก็ล็อคได้ดี

แต่ตอนล้างไม่ชอบอย่างนึงเพราะมันจะออกมาเป็นผงๆ เราชอบให้มันละลายเป็นครีมๆมากกว่า 

เช็ดออกได้ง่าย

 

BEST EYEBROW

อันดับ 1 : FUJIKO Mayu Tint (1,280 JPY)

Kirari’s Review : ชิ้นนี้เรารีวิวไปหลายรอบมาก เพราะชอบมากจริงๆ 

ทิ้นท์เขียนคิ้วที่ติดทนที่สุดแบรนด์นึงที่ใช้มาเลยล่ะ เราชอบที่หัวแปรงวาดง่าย

เนื้อทิ้นท์ไม่แห้งเหนียวง่ายเหมือนยี่ห้ออื่นๆ มีสีให้เลือกหลายสี

หากไม่ได้ใช้รีมูฟเวอร์ที่เป็นออยล์ ก็ติดทน 3-5 วันเลย (แบรนด์เคลมว่า 7 วัน แต่เราไม่ถึงนะ)

 

อันดับ 2 : IPSA Eyebrow Creative Palette (4,200 JPY)

Kirari’s Review : พาเลทคิ้วที่ดีที่สุดพาเลทนึงที่เคยใช้มาเลยล่ะ เพราะรวมเอาไว้

ถึง 5 เฉดสีในพาเลทเดียว ครบทุกสีผมที่จะใช้ได้ แปรงที่ให้มาในพาเลทก็ดีมาก

ใช้งานได้จริง ชิ้นนี้ปีที่แล้ว ได้ Best Eyebrow อันดับ 1 ด้วยนะ ไม่อยากให้พลาด

อันดับ 3 : CEZANNE Powder eyebrow R (450 JPY)

ชิ้นนี้วางขายมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ ด้วยรูปแบบ  simple

ใช้งานได้ง่าย เข้าใจง่าย และราคาไม่แพง

 

BEST LIP STICK

 

อันดับ 1 : OPERA Lip tint (1,500 JPY)

Kirari’s Review : ลิปทิ้นท์ที่ทาแล้วใช้ความรู้สึกเหมือนออยล์ คือลื่นมาก ทาง่ายมาก

ทายังไงก็ไม่เป็นคราบ สีที่ได้ครั้งแรกจะอ่อนๆ แต่พอทาทับอีกรอบ ก็จะเข้มขึ้นค่ะ 

ผ่านไปพักนึง สีจะเริ่มเซ็ทตัวและแห้งลงเล็กน้อย ทิ้นท์ตัวนี้ไม่ได้ติดทนเวอร์นะ

แต่สีจะค่อยๆเฟดออก ซึ่งสีที่เหลืออยู่ มันสวย และดูธรรมชาติค่ะ ชอบเลย

ปีนี้ได้ทั้งรางวัล Grand Prix รางวัลใหญ่ และ Best Lipstick อันดับ 1 ด้วย ต้องไม่พลาดค่ะ

สีที่ขายดีที่สุดคือเบอร์ 5 (Coral Pink) รองลงมาคือเบอร์ 1 (Red) และเบอร์ 6 (Pink)

เราใช้สีเบอร์ 5 และ 1 ค่ะ สวยทั้งคู่

อันดับ 2 : YSL Rouge Volupte Shine (4,100 JPY)

Kirari’s Review : ชิ้นนี้เป็นลิปเนื้อออยล์ค่ะ ชุ่มชื้นสุดๆ เนื้อลื่นปรี๊ด ให้สีใสๆ

ติดทนกลางๆ ทาได้ง่าย ปากแห้งปากแตกก็ใช้ได้ 

ชิ้นนี้ได้รางวัลใหญ่ตั้งแต่ปี 2015 โดยได้ GRAND PRIX เลยล่ะ

และได้ Best Lipstick อันดับ 1 ในปี 2015 ด้วยนะ ในปี 2016 ก็ยังครองอันดับ 1 อยู่ค่ะ

เรียกว่าฮิตต่อเนื่องจริงๆ

 

อันดับ 3 : CANMAKE Stay on balm rouge (580 JPY)

Kirari’s Review : ชิ้นนี้ก็ชอบมากๆ ใช้บ่อยมาก หมดไปหลายแท่งเลยล่ะ

เพราะสีมันใช้ได้ทุกวัน แนวใสๆ อยู่บ้านก็ทาได้ ดูปากสุขภาพดี กันแดดได้ด้วย

เป็นไอเท็มติดกระเป๋าเลย

 

BEST LIP GLOSS

อันดับ 1 : OPERA Sheer Lip Color N (1,200 JPY)

Kirari’s Review : ลิปเนื้อเชียร์ที่ออกสีน้อยมากๆ เน้นชุ่มชื้น เหมือนกับการทากลอส

แท่งเล็กมากจริงๆค่ะ และเนื้อค่อนข้างฉ่ำมาก เอากลับไปเมืองไทย มีละลายนิดหน่อย 

ต้องเก็บในที่ที่ไม่ร้อนมากนะคะ 

 

อันดับ 2 : RMK Lip Jelly Gloss (2,200 JPY)

Kirari’s Review : เราชอบมากๆๆๆๆ ใช้เบอร​ Baby Blue อยู่ค่ะ สีใสๆ โทนฟ้าประกาย

เป็นสีที่ขายดีมาก Sold Out ตลอด หามานานกว่าจะได้มา ใช้ดีมากจริงๆ

เนื้อกลอสฉ่ำวาว สวย ไม่เหนียว ไม่เหนอะ ไม่เป็นคราบ ในปีที่แล้ว ได้ Best Lip Gloss อันดับ 1 ด้วยล่ะ

อันดับ 3 : DIOR Addict Gloss (3,400 JPY)

 กลอสจากดิออร์ที่ Renewal ออกมาใหม่ ให้ความรู้สึกที่ฉ่ำวาว

ไม่เหนียว และเพิ่มวอลุ่มให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น

 

BEST CHEEK COLORS

 

อันดับ 1 : CINIQUE Color Pop (3,000 JPY)

Kirari’s Review : บลัชจากคลินิกข์ให้สีที่น่ารัก ปัดได้ง่าย เนื้อไม่ได้เป็นฝุ่นผงค่ะ

เนียนไปกับผิว และช่วยให้ผิวดูโกลว์ขึ้นด้วย

 

 

อันดับ 2 : CANMAKE Glow Flur Cheeks (800 JPY)

Kirari’s Review : บลัชที่หน้าตาน่ารักมากๆ เป็นลายดอกไม้ มาพร้อมแปรงในตลับ

ราคาน่ารักมากๆ สีที่ได้สวย และดูน่ารักอ่อนหวาน ติดทนปานกลางค่ะ ต้องเติมระหว่างวัน

อันดับ  3 : IPSA Designing Face Color Palette (5,800 JPY)

Kirari’s Review : พาเลท 4 สีที่รวมเอาบลัช, คอนทัวร์, ไฮไลท์เอาไว้ด้วยกัน

คุ้มค่า และสีที่ได้สวยค่ะ จะเป็นสีโทนธรรมชาติ กลืนไปกับผิว ให้อารมณ์แพง

สำหรับเราคิดว่าช่องบลัชสี ปัดยากไปหน่อย เพราะมันเล็ก พาเลทนี้เลยเหมาะกับการพกพามากกว่า

ใช้ในทุกๆวันของเรานะ

 

BEST FRAGRANCE

อันดับ 1 : DIOR Miss Dior Hair Mist (4,500 JPY)

น้ำหอมผมที่เมื่อฉีดแล้วจะรู้สึกถึงความอ่อนหวาน และหอมหวานของดอกไม้

อันดับ 2 : JILL STUART Relax Eau de White Floral (50 ml  3,800 JPY)

ชิ้นนี้ติด TOP 3 ของ Best Fragrance มาตั้งแต่ 2014 กลิ่นหอมน่ารัก

แพคเกจน่ารัก ถูกใจสาวญี่ปุ่นด้วยกลิ่นจากดอกไม้สีขาวและสีชมพู

เป็นกลิ่นหอมหวานที่ดูน่ารักค่ะ

อันดับ 3 : CHANEL CHANCE Eau Tender (50 ml 9,000 JPY)

น้ำหอมกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและโรแมนติก

 

BEST BEAUTY GADGET

อันดับ 1 : PANASONIC Hair Dryer Nano Care 

Kirari’s Review : ไดร์เป่าผมที่ปล่อยทั้งไอน้ำและนาโนอี ช่วยให้เส้นผมนุ่ม ชุ่มชื้น

มีหลายโหมดให้เลือกค่ะ ชอบที่มีโหมด Scalp หนังศีรษะ ความร้อนจะกำลังดี 

ใช้แล้วผมไม่แห้งเสียเลย นุ่มมากๆ และเงาขึ้นด้วย

 

อันดับ 2 : PANASONIC ES-WF40 

ที่กันคิ้วไฟฟ้าจาก panasonic ใช้งานได้ง่าย ไม่บาด มือใหม่ก็ใช้ได้

อันดับ 3 : PANASONIC Steamer Nanocare EH-SA97

เครื่องสตีมเมอร์ที่มีโหมดให้เลือกเยอะมาก

ชิ้นนี้จะมีช่องปล่อยไอน้ำ 2 รู ปล่อยได้ทั่วถึงทั้งใบหน้าและเส้นผมค่ะ

 

 

ครบเรียบร้อยทั้ง Skincare และ Make Up

หวังว่าจะถูกใจกันนะคะ และคิดว่าคงได้ Shopping List กันเพิ่ม ไม่มากก็น้อย

ใครที่ยังไม่ได้อ่านหมวด Skincare อ่านได้ที่นี่เลย

https://kirarista.com/2017/12/07/best-cosme-award-2017-skincare/

 

และทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่น สามารถมาอ่านสนุกๆกันได้ที่นี่ค่ะ

https://kirarista.com/tag/japan-trip/

 

 

 

 

Leave a Reply