สาวๆที่รักผิวหลายๆคนคงพอจะคุ้นหูกับแบรนด์ BIODERMA กันมาบ้าง
แบรนด์นี้เคยวางขายในไทยจนทำให้เราติดใจแล้วจู่ๆก็หายแว้บไป หาซื้อกันไม่ได้
ต้องฝากหิ้วกันยกใหญ่ แต่ในวันนี้ เค้ากลับมาแล้ว เย่…
Cleansing Water ที่แสนโด่งดัง กลับมาให้เราหาซื้อกันได้ง่ายๆเหมือนเดิมแล้วค่ะ
ดังไม่ดังยังไง…เค้าโฆษณากันว่า
ยอดจำหน่ายทั่วโลกในทุกๆนาที จะขายได้ 15 ขวดเลยทีเดียว
สำหรับ Cleansing water จะมี 2 สูตรให้เลือกค่ะ คือสีชมพู สูตร Sensibio H2O
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
อ่อนโยนเหมือนน้ำ สะดวกในขั้นตอนเดียว ทั้งเช็ดทำความสะอาดผิวรอบดวงตา
และผิวหน้า ทั้งยังไม่มีสารก่อให้เกิดการระคายเคือง
Oil-free, Soap-free, Alcohol-free, Perfum-free
และด้วยนวัตกรรม Micelle ทำให้ไม่ต้องล้างซ้ำด้วยน้ำ
สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้ง – ธรรมดา ผิวแพ้ง่าย ผิวที่เพิ่งผ่านการเลเซอร์ มีพวกรอยแดง หรืออักเสบ
ในสูตรนี้จะมีส่วนผสมของ Laminiaria จะช่วยยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง
และ Enoxolone ช่วยต่อต้านการอักเสบ ลดอาการแดงของผิว
ทั้งสองส่วนผสมนี้เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BIODERMA ค่ะ
ส่วนอีกสูตรนึง คือสีเขียว สูตร Sebium H2O
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
สำหรับสูตรนี้จะช่วยทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน ขจัดน้ำมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
ตัวนี้ Oil-free, Soap-free, Alcohol-free และเป็น Non-comedogenic ไม่ทำให้อุดตัน
สูตรนี้จะเหมาะกับผิวผสม – ผิวมัน หรือผิวที่เป็นสิวได้ง่าย ผิวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง
ในสูตรนี้จะมีส่วนผสมของธรรมชาติที่ช่วยในเรื่องการคุมต่อมไขมัน
Ginko biloba leaf extract ลดการเกิดเซลล์ผิวตาย
Mannitol ช่วยควบคุมต่อมไขมันให้ทำงานอย่างสมดุล และลดการสะสมของไขมัน
ทั้งสองส่วนผสมนี้เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BIODERMA เช่นกันค่ะ
ในส่วนต่อไป เราไปดูว่า สูตรอ่อนโยนอย่าง Sensibio H2O ซึ่งเป็นสูตรที่เราใช้บ่อยๆ
จะทำความสะอาดได้ดีแค่ไหนกัน
อุปกรณ์ที่มาทดสอบกันในวันนี้
หลังจากทาลงบนแขนแล้ว ก็ทิ้งไว้ 10 นาทีให้ทุกอย่างเกาะผิว
แล้วก็ลองเช็ดออกด้วย cleansing water ที่เทลงบนสำลีแผ่น
ผลออกมาเป็นแบบนี้…
ลบครั้งเดียว ยังทำความสะอาดเครื่องสำอางที่กันน้ำไม่หมด
แต่เมื่อลบครั้งที่ 3 ทำความสะอาดได้หมดจดเลยล่ะ
สำหรับวิธีการเช็ด…
เราจะเทลงบนสำลีแล้วเช็ดบริเวณดวงตาก่อน หลังจากนั้นก็เช็ดบริเวณผิวหน้าค่ะ
เปลี่ยนสำลีบ่อยๆน้า อย่าไปงก เดี๋ยวไม่สะอาดค่ะ
สำหรับมาสคาร่ากันน้ำ ก็ทำความสะอาดได้เช่นกันค่ะ
หลังจากที่ใช้แล้วจะรู้สึกได้เลยว่า มันไม่ได้ละลายมาสคาร่า แบบที่ออยล์ทั่วไปทำความสะอาด
แต่มันจะทำความสะอาดดึงออกมา ดูจากสำลีน่าจะพอเข้าใจเนาะ…
สำหรับการทำความสะอาดมาสคาร่า เราว่าควรใช้ Eye makeup remover โดยเฉพาะมากกว่า
เพราะว่า Bioderma กว่าจะเช็ดได้สะอาด ตาเหี่ยวกันก่อนพอดีค่ะ
มันพอทำความสะอาดได้ แต่ก็ไม่ดีเท่า eye remover ค่ะ
(แบรนด์ที่เราชอบคือ Bifesta และ Maybelline)
โดยรวมแล้วเราชอบ Cleansing water สูตรอ่อนโยนแบบนี้
ไม่ต้องล้างออกด้วยน้ำ ความรู้สึกหลังเช็ดออกจะเหมือนผิวปกติ ไม่มันเหนอะ
ไม่แห้งตึงค่ะ สำหรับคนที่แพ้ง่าย แพ้ออยล์ และแอลกอฮอลล์ แนะนำให้ดูแบรนด์นี้เป็นอีกทางเลือกค่ะ
หาซื้อไม่ยากค่ะ มีวางขายทั่วไปตาม Watson ร้านขายยา และตามโรงพยาบาลจ้า
แพคเกจสวยงามใช้ง่าย 8/10
อ่อนโยนต่อผิว 10/10
ทำความสะอาดมาสคาร่าได้ดี 4/10
ทำความสะอาดเครื่องสำอางทั่วไปได้ดี 7/10
คุ้มค่าราคา 8/10
Overall: A
Note: ถ้าใครที่ผิวธรรมดาทั่วไป ไม่ได้แพ้ง่ายมาก Cleansing สูตร Water นี้มีหลายแบรนด์ให้เลือก
Bioderma จะใช้ส่วนผสมที่อ่อนโยน แต่ราคาค่อนข้างสูง
หากราคาเบาๆลงมาหน่อย แป้งชอบใช้ Bifesta มากกว่า (และชอบสูตร Moist สีขาวค่ะ)
ราคาต่างกันเท่าตัว ส่วน Eye makeup remover แนะนำ 2 ยี่ห้อ คือ Bifesta กับ Maybelline
ทั้งคู่ราคาไม่แพง และลบทำความสะอาดมาสคาร่าได้ดีค่ะ
Categories: Skincare