เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมาเราไปลัลล้าเปลี่ยนบรรยากาศกันที่เขาใหญ่มาค่ะ
จุดหมายในครั้งนี้คือการไปเยือนโรงแรมที่กำลังฮอตสุดๆในเขาใหญ่ นั่นก็คือ ESCAPE Khao Yai
โรงแรมนี้เป็นอีกหนึ่งโรงแรมในเครือแสนสิริ ช่วงปลายเดือนตุลานี้อากาศก็เริ่มเย็นขึ้น
ทำให้บรรยากาศน่าพักผ่อนเป็นที่สุด ในบล๊อกนี้จะบันทึกเอาบรรยากาศและความประทับใจ
ในทริปเขาใหญ่ครั้งนี้มาเล่าให้ฟังค่ะ โรงแรมนี้มุมถ่ายรูปมีหลายมุมอยู่นะ ลองดูเป็นไอเดียได้จ้ะ
ก่อนจะขับรถเข้าไปเช็คอินที่โรงแรม เราก็แวะทานข้าวกันที่ครัวเขาใหญ่ ร้านดังย่านนั้น แล้วก็แวะ
Chocolate Factory ซักหน่อย ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่กำลังมาแรง เพิ่งเปิดได้ไม่นานมากนัก ลูกค้าแน่นร้านเลยค่ะ
ที่นี่ดังเรื่องขนมหวาน จากที่อ่านรีวิวแล้วอาหารคาวจะค่อนข้างเฉยๆ เราเลยเน้นสั่งขนมหวาน
กับชา กาแฟค่ะ เมื่อเดินเข้าร้านไปแล้วก็ไปเลือกขนมหวานกันที่ตู้ได้เลย
วันนี้ก็สั่งมาปนๆกันค่ะ หลายๆอย่าง
ส่วนมากจะชิ้นละ 30-40 บาท แนะนำ “Almond Bite (Dark)” อร่อยมากๆๆๆๆจริงๆ
ชิ้นนี้ก็อร่อยค่ะ รวมๆถั่วและเรซิ่น อร่อย
หลังจากจิบชา ทานขนมกันเสร็จก็ได้เวลาเช็คอินเข้าโรงแรมค่ะ
ขับไปแป้ปเดียวก็ถึงแล้ว Escape Khao Yai by Sansiri
ที่นี่มีทั้งโซนโรงแรม และโซนคอนโดที่ชื่อว่า 23 องศา นั่นก็คืออุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นที่นี้นั่นเองจ้ะ
.
.
ถึงแล้วค่ะ ล๊อบบี้ที่นี่ การตกแต่งต่างๆใช้ไม้โทนสีอ่อน ดูอบอุ่น
ชิลๆ สบายๆ
.
.
ในทริปนี้เราพักเป็นห้อง Sunken Heated Pool Villa คืนนึงอยู่ที่ 5,500 บาท (สำหรับช่วงปกติ)
หากเป็นช่วงปีใหม่ก็จะเป็นอีกเรทหนึ่งค่ะ และถ้าหากจองล่วงนานๆ ก็จะได้เรทพิเศษ แล้วแต่ช่วงโปรค่ะ
ที่นี่ห้อง Pool Villa จะมีทั้งหมด 6 ห้อง เป็นสระน้ำอุ่นในตัว มาดูบรรยากาศในห้องพักกันค่ะ
ลำโพงออริจินัลจาก Nakamichi x Sansiri เราอยากได้มากกกก
คือเรามีรุ่นเล็กเสียงดีนะ แต่พอมีที่ครอบลำโพงเป็นไม้ มันดูสวย แล้วก็คุมทิศเสียงได้
เพลงที่ทางโรงแรมเลือกไว้ ก็เป็นแนวชิลๆ ที่เราเปิดวนฟังทั้งวันเลย เพลงเพราะจริงๆค่ะ
บรรยากาศโดยรวมของห้องพักค่ะ ก็กว้างขวางดี มีสระอุ่นๆให้แช่เล่นๆด้วย
.
.
จากนั้นก็นั่งเล่นนอนเล่นที่ห้อง รอยามเย็นแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่บริเวณรอบๆ
มุมถ่ายรูปอีกจุดที่เจ๋งมากๆก็คือดาดฟ้าห้องพักเราเองค่ะ ด้านบนเป็นพื้นที่โล่ง สามารถสังสรรค์ได้
อีกอย่าง ห้องพักแบบ Pool Villa จะแบ่งเป็นหลัง หลังนึงมี 2 ห้อง ใช้ดาดฟ้าร่วมกัน
ใครที่ไปเป็นกลุ่มใหญ่ๆ จองห้อง type นี้ก็น่าจะสนุกนะคะ เพราะสามารถเปิดห้องเดินทะลุกันได้
ด้านหลังบันไดหน้าห้องเราเป็นแปลงผักออแกนิกที่ใช้ในโรงแรมนี้ค่ะ
เราเห็นว่ามีคนงานอยู่ เลยไม่ได้เดินเข้าไปดู
.
ที่นี่คนไม่ค่อยแน่น ไม่พลุกพล่าน ทั้งๆที่รร.เต็ม ช่วงเย็นก็ไม่ได้ไปทานไหนไกลค่ะ
อยู่กันที่โรงแรมนี่แหละ ห้องอาหารที่นี่น่านั่งมากๆ ชื่อว่า Green Oak Bistro
ไปถึงก็เห็นว่าร้านโล่งๆ เลยชะล่าใจ ที่ไหนได้ ด้านนอกเต็มหมดทุกที่ เสียดายยยย
รอบหน้าถ้าไปอีก จะไม่พลาดละ !
พอแดดเริ่มหมด ฟ้าเริ่มมืด ก็ได้อีกบรรยากาศที่น่าถ่ายรูปมากๆ
เมื่อด้านนอกเต็ม ก็เลยมานั่งห้องแอร์ด้านใน
ภายในร้านก็ตกแต่งได้น่ารักมากๆเลยค่ะ
เมนูที่เราสั่งมาในวันนี้ เริ่มกันที่จานแรก เป็นออเดิร์ฟก่อน ด้วยไก่ย่างส้มตำ อร่อยดีนะ จัดมาได้สวยมาก
ถัดมาคือ เมี่ยงแซลมอล DIY ค่ะ จานนี้ห้ามพลาดๆๆๆ อร่อย เก๋ๆ
อีกจานเป็นเสต็กเนื้อเซอลอยด์ค่ะ นุ่มมากๆ ชิ้นบางไปนิด แต่นุ่มอร่อยค่ะ
ปิดท้ายด้วย ไอศครีมผสมแอลกอฮอล์ 5% อร่อยมากๆค่ะ
ส่วนราคาอาหารคร่าวๆ ตามเมนูด้านล่างนี้ ส่วนเมนูที่เราสั่งไปตามด้านบน
ทั้งหมดเช็คบิลออกมาอยู่ที่ราวๆ 1,800บาทค่ะ
หลังจากอิ่มแล้ว บริเวณโรงแรมก็เงี๊ยบเงียบ
วันที่เราไปยังไม่มี Winter Yard ค่ะ เห็นว่าอีกสองวันถึงจะจัด (ตอนนี้มีแล้วนะ)
เป็นมุมบาบีคิว เปิดเฉพาะหน้าหนาวค่ะ จัดกันที่กระโจมในสวน มองเห็นจากทางห้องพักเราด้วยล่ะ
พอทานเสร็จเลยกลับไปนั่งชิลที่ห้อง แช่น้ำอุ่นๆซักหน่อย
จบหนึ่งวันในบรรยากาศดีๆ อากาศดีๆ รีเฟรชได้เยอะเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปทานอาหารกันที่ Green Oak ที่เดิมค่ะ อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์
ทานเสร็จก็ถ่ายรูปเล่นเช่นเคย อากาศยามเช้า กำลังดี เย็นสบาย ไม่ร้อนเลย
ที่นี่มีจักรยานให้ปั่นด้วยนะคะ ถ้าจะปั่นโชว์ด้วยชุดนี้ก็คงเทพเกินไปแระ ;P
บริเวณสระว่ายน้ำตรงกลางโรงแรมค่ะ
ที่นี่มีรถกอล์ฟคอยบริการตลอดเวลา
จบทริปถ่ายรูปแต่เพียงเท่านี้
ที่นี่เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพ อยู่ใกล้ๆกับจุดท่องเที่ยวหลายจุดในเขาใหญ่
อากาศดี เย็นสบาย ในเดือนมกรานี้เราก็จองไปเรียบร้อยค่ะ จะกลับไปอีกครั้ง
หวังว่าจะได้บรรยากาศหนาวๆ แล้วจะเก็บภาพมาฝากกันอีกครั้งนะคะ
Categories: Dining & Traveling
รูปเซ็ทนี้น้องแป้งสวยมาก ออร่าวิ้งทะลุออกมาเลยจริงๆ >w< ที่พักดูเงียบสงบร่มรื่นดี ช่วงอากาศเย็นๆน่าไปเที่ยวนะ 😀
บรรยากาศดีมากเลยค่ะ น่าไปจริงๆ
รูปก็สวย ทั้งคนทั้งวิวเลยค่ะ