สวัสดีค่าบล๊อกนี้เป็น Trip Dairy ล่าสุดที่เพิ่งไปมาเมื่อเดือนที่แล้ว
เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไปจังหวัด Fukushima บอกเลยว่า Autumn ที่ว่าสวยแล้ว ช่วง Winter นี่สวยสุดยอด!
ในครั้งนี้แป้งเดินทางเองไปกลับจาก Tokyo ไปยัง Fukushima จากนั้นก็ใช้บริการของ Justavi ตลอดทริปค่ะ เป็นบริการเปิดใหม่ล่าสุดที่เหมาะกับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเที่ยวส่วนตัว แต่มีคนขับรถและไกด์มืออาชีพบริการตลอดทริป
คุณอาเบะไกด์ของเราพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก สื่อสารภาษายากได้ดีพอสมควรเลย เลือกไกด์เป็นผู้หญิงก็ดีไปอีกแบบนะคะ เพราะเค้าจะมีความมุ้งมิ้งสไตล์สาวๆ เป็นเพื่อนเที่ยวกับเรา
จากโตเกียวเราเดินทางด้วย Shinkansen ค่ะ ใช้เวลาราวๆ 80 กว่านาที ลงที่สถานี Koriyama เพื่อนัดเจอกับไกด์และไปเอารถที่จองไว้
นี่เป็นแพลนทริปของเราค่ะ เรียกว่าไปแต่ที่เด่นๆของจังหวัด Fukushima
ใครที่มาเที่ยวที่นี่ ขับรถจะเหมาะที่สุด เพราะเป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่นเลยนะ
และหลายๆสถานที่ท่องเที่ยว เดินไกลจากสถานีรถไฟค่ะ บริการนี้เลยตอบโจทย์เรามากจริงๆ
只見川 第一橋梁 Tadami River First Bridge
สะพานนี้ต้องมาค่ะ!!! ตอนแรกเห็นในรูปช่วง Autumn ก็ว่าสวยแล้วนะ
พอมาเห็นของจริงในช่วง Winter นี่สวยสลบไปเลย ยืนอึ้งอยู่นาน ทำไมสวยขนาดนี้
ถามว่าหนาวมั้ย ก็ระดับนึงนะคะ ราวๆ -5 ถ้าจำไม่ผิด แต่อากาศวันที่เราไปแปรปรวนทีเดียว
เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวหิมะตก เดี๋ยวเป็นพายุหิมะก็มี งงกับอากาศจริงๆ
แต่ๆๆๆๆ ช็อทที่สวยที่สุด คือตอนที่รถไฟผ่านสะพานนี้ค่ะ เรายืนรออยู่นานมาก เอ๊ะทำไมไม่มา
วันนั้นรถไฟโดนหิมะถล่ม เลยล่าช้า อดเลย… ขอยืมรูปจากเว็บมาให้ชม สวยจริงๆ
ช่วงเวลาที่รถไฟผ่านคือ 9:10, 9:20, 13:00, 14:30, 16:15
จุดชมวิว มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก มองไปทางไหนก็สวยๆ ขาวๆ เมืองนี้หิมะเยอะมากๆ
ผ่านไปไม่นาน ระหว่างเดินลงจากเขา หิมะถล่มจ้าาาาา เปียกปอนกันไปหมด
ด้านล่างตรงลานจอดรถ มีร้านอาหารให้แวะพักทานนะคะ ซึ่งเมนูดังของที่จังหวัดนี้คือ
จิโดริ หรือไก่บ้าน ซึ่งแนะนำเป็นเมนู Oyako-don และอีกเมนูคือ ทงคัตสึค่ะ
福満虚空藏菩薩圓藏寺 Enzoji Temple
วัดนี้เป็นวัดสัญลักษณ์ประจำจังหวัดฟุคุชิม่าค่ะ สร้างบนหน้าผา อายุกว่า 1300 ปีแล้ว
ตอนที่เราไปหิมะท่วมเลย สวยมาก และที่นี่จะมีวัวนำโชค ซึ่งให้เราไปลูบบริเวณที่เจ็บป่วยบ่อยๆ
ระหว่างทางเดินไปยังที่จอดรถ โอ้ยยย แค่ทางเดินยังสวยเลยวัดนี้ มาเถอะๆ
会津 鶴ヶ城 Tsurugajo
จากนั้นก็ไปที่ Tsuruga Castle หรือคนญี่ปุ่นเรียกกันว่า Tsurugajo (สึรึกะโจ)
ปราสาทสีขาวเด่นกลางเมืองไอสึ ที่นี่เมื่อเดินขึ้นไปที่ยอดปราสาทจะเห็นวิวสวยๆของเมืองด้วย
แนะนำสุดๆถ้ามาช่วง Spring ค่ะ เพราะรอบๆปราสาทจะมีต้นซากุระเต็มไปหมด สวยมากแน่นอน!
เรามาถ่ายด้านหลังปราสาทเพราะด้านหน้าเค้าบูรณะอยู่ล่ะ แต่ถ่ายจากด้านหลังก็สวยไปอีกแบบนะ
เพราะตัวปราสาทสีขาว เข้ากับวิวหิมะรอบๆเลย
ด้านล่างปราสาทเป็นร้านขายของที่ระลึกค่ะ
ซึ่งถ้ามาที่จ.ฟุคุชิม่า ก็ต้องซื้อ Akabeko วัวสีแดงที่พหกหัวได้
จากนั้นแนะนำให้ไปที่ Chashitsu-Rainkaku ที่อยู่ใกล้ๆกับปราสาท
ซึ่งถ้าเราซื้อบัตรเข้าปราสาทแล้วก็จะได้ตั๋วเข้าที่นี่ฟรีค่ะ
บ้านน่ารักๆสำหรับพิธีชงชา มาถึงแล้วก็ต้องดื่มชาและสั่งมันจู
ที่นี่มันจูอร่อยเทพมากเลยนะ ปกติเราไม่ทานถั่วแดงเลย แต่ของที่นี่เราทานได้ อร่อยมากๆ
ก่อนดื่มชา ต้องทานมันจูก่อนค่ะ แล้วค่อยดื่มตาม จะได้รสที่อร่อยมากยิ่งขึ้น ไกด์บอกมาล่ะ
จบจากที่ปราสาทนี้ก็เข้าที่พักค่ะ หมด 1 วันเต็มๆเลยล่ะ
เที่ยวได้สบายมากๆ มีคนขับให้ ไปส่งถึงที่เลย
ที่พักคืนนี้เราพักที่ Taki-no-Yu (東山温泉 庄助の宿 瀧の湯)
เป็นเรียวกังออนเซ็นติดลำธารน้ำตกสวยๆ
มี Illumination การแสดง Projector Mapping ที่ฉากแสดงด้านตรงข้ามกับเรียวกังด้วย
ห้องพักที่นี่ตกคืนละ 4,000 บาทขึ้นไป (ราคาต่อห้อง 2 คน) รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า
เป็นราคาที่ว้าวมาก เพราะหารออกมาเหลือคนละสองพันกว่าบาทเท่านั้นเอง
กรณีที่เราพักค้างคืน และต้องการจ้างไกด์ต่อ เราให้เค้าหาที่พักเองได้นะคะ
และควรแจ้งเค้าก่อนล่วงหน้า เราไม่จำเป็นต้องให้เค้าพักที่เดียวกับเราค่ะ
มาพักที่นี่มีชุดยูกาตะสวยๆให้เลือกใส่ด้วยนะ
เลือกชุดเสร็จแล้วก็เปลี่ยนและค่อยลงมาทานอาหารเย็นค่ะ
มื้อเย็นของเรา…มีครบทั้งเนื้อวากิวเสต็ก ชาบู ซูชิ และอีกมากมาย
ทานกันจนอิ่มจุกเลยล่ะ อร่อยค่ะ
มาที่จังหวัดฟุคุชิม่า ต้องดื่มน้ำโมโมะ (ลูกท้อ) เป็นของดังของจังหวัดนี้ค่ะ
หอมหวานมากๆ อร่อยจริงๆ
หลังจากอิ่มแล้วก็แช่ออนเซ็นกันต่อค่ะ ที่นี่มีบ่อทั้งแบบรวม แบบ Panorama Outdoor
และแบบ Private Outdoor ซึ่งมีสองบ่อเล็กๆติดกัน เหมาะกับการมาเป็นคู่ ^ ^
วิวน้ำตกสวยๆ มี Light Up ด้วยล่ะ
รูปนี้น่าจะเป็นซีนที่หนาวที่สุดของทริปแล้วล่ะ ใส่ยูกาตะบางๆภายในอุณหภูมิ -5 สั่นงักๆๆๆ
แต่น้ำอุ่นสบายมากนะ ไม่ต้องกลัวหนาวเลย
ถัดมา เป็นโปรแกรมเที่ยววันที่สอง ก่อนกลับโตเกียวค่ะ
เริ่มจากสถานที่ที่เราชอบมากๆของ Fukushima นั่นก็คือ Ouchi-juku
大内宿 Ouchi-juku
หมู่บ้านแห่งนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อนเป็นแหล่งพักแรมของเหล่าพ่อค้าที่เดินทางข้ามเมืองเพื่อค้าขาย
แต่ตอนหลังถนนเส้นหลักตัดผ่าน ทำให้เสื่อมความนิยมลง ผู้คนเริ่มขัดสนมากขึ้น
ไม่มีเงินในการบูรณะสิ่งปลูกสร้าง เพราะหลังคามุงหญ้าแบบนี้ ใช้เงินมหาศาลในการบูรณะ
แต่เมื่อเวลาผ่านมา จนปี 2524 ได้รับการขึ้นเป็นเขตอนุรักษณ์สิ่งปลูกสร้าง ทางรัฐบาลให้การสนับสนุน
นักท่องเที่ยวก็เริ่มมาเที่ยวจนบูม ตอนนี้คึกคักเลยทีเดียว
เราไปเช้าเกินค่ะ ไปถึงตอน 9 โมงกว่าๆ บ้านยังไม่เปิดกันเลย เลยได้มุมโล้งโล่งแบบนี้
พวกร้านค้าต่างๆส่วนมากเปิดกันตอน 10:30 เป็นต้นไปค่ะ
เดินขึ้นบันไดไปเล็กน้อยก็จะเป็นจุดชมวิวค่ะ
มาที่นี่ ต้องทานเมนูขึ้นชื่อคือ “Negi Soba”
เมนูนี้เคยแนะนำไปครั้งนึงแล้วล่ะตอนที่มารอบแรก มาครั้งนี้ก็ยังคงไปที่ร้านเดิมค่ะ
Mizawa ร้านที่ทำเมนูนี้ขึ้นมา
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงของลูกพลับพอดีค่ะ เลยได้ทานเมนูของหวานลูกพลับด้วย
แต่ของหวานขึ้นชื่อที่นี่คือ Tochi Mochi นะคะ เป็นโมจิหนึบๆมีรส อร่อยมากค่ะ ต้องลอง
หลังจากอิ่มแล้ว ก็เดินทางต่อไปยัง
猪苗代湖 Inawashiro Lake
จุดนี้ต้องมาค่ะ!!! มันสวยมากกก ยิ่งในช่วงวินเทอร์ที่อากาศหนาวๆ หงส์ต่างๆจะบินมา
ถ้ามาหน้าร้อนจะไม่ได้วิวนี้นะคะ ใครอยากให้อาหารก็สามารถไปซื้อขนมปังมาให้อาหารได้ค่ะ
100 เยนเท่านั้น ทั้งหงส์ทั้งเป็ดน้ำมาเต็มเลย
ดูท่าจะชอบหิมะและอากาศเย็นจริงๆนะเจ้าเป็ดน้อย
ไกด์เห็นว่าเราเริงร่ากับหมู่สัตว์มากๆเลยแนะนำว่า ขับต่อไปอีกนิดนึง จะมีอ่าวใกล้ๆกัน
ชื่อว่า “Shidahama” จุดนี้จะเงียบกว่า เป็ดน้อยกว่า แต่หงส์เยอะกว่านะ
แถมได้วิวภูเขา Bandai ด้วยล่ะ
ถ่ายรูปสวยทุกจุดจริงๆ เรื่องทิวทรรศ์และธรรมชาติ จังหวัดฟุคุชิม่าไม่เป็นรองใครจริงๆ
คนไทยมาจังหวัดนี้ยังน้อยอยู่ อยากให้มาเที่ยวกันเยอะๆค่ะ เพราะมันสวยยย
และที่นี่ดังเรื่อง SAKURA ด้วยนะ ช่วงฤดูใบไม้ผลินี่พีคสุดๆ
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆในทริป
ค่าเช่ารถ ตกวันละราวๆ 6500 JPY
ค่า Justavi 25,000 X2 วัน
ค่าทางด่วนและน้ำมันแบบเหมาจ่าย 5,000 JPY X2 วัน
รวม 73,000 JPY (ราวๆ 20,400 บาท)
ถ้ามาเป็นครอบครัว หรือมาเป็นกลุ่ม เราว่าคุ้มมาก เพราะมากี่คนก็ราคา Service เท่าเดิม
หารต่อคนแล้วคุ้มค่ะ ใครที่อยากเที่ยวแบบนี้เป๊ะๆ แนะนำเลยค่ะ สวยทุกที่จริงๆ
ถ่ายรูปสวยมาก ไปตามนี้ได้เลย
Categories: Dining & Traveling
