Home Diary: เปิดบ้าน Part 1 – ห้องทำงาน (Version 1)

งานแต่งงานจบไปแล้ว ต่อไปก็มาวุ่นเรื่องบ้านกันต่อค่ะ

บ้านที่เรากำลังทำอยู่นี้ เป็นการ renovate ครั้งใหญ่ ทุบนู่น ต่อเติมนี่ และเปลี่ยนจากบ้านเก่า

อายุราว 30 ปี ให้เป็นบ้านใหม่ในสไตล์ที่เราชื่นชอบ

แฟนของเราเป็นสถาปนิก ก็เลยได้เปรียบคนอื่นหน่อย ที่สามารถออกแบบ ปรับเปลี่ยนได้เอง

สามารถคุมวัสดุ เลือกของเลือกสเป็คได้เองหมด แต่การทำเองหมดนี่แหละ เหนื่อยสุดๆเลยค่า

คอนเซพท์ของบ้าน ชั้นล่างจะแต่งแนว Industrial Loft เท่ๆ ดิบๆ ซึ่งจะมีห้องนั่งเล่น ห้องออฟฟิส

ห้องครัว และเมื่อเดินขึ้นมาข้างบนจะเปลี่ยนอีกอารมณ์เป็นแนว Vintage ที่สะอาดตาแต่ยังดูเท่อยู่

ห้องด้านบนก็มีห้องนอน ห้องแต่งตัว และห้องทำงานของเราค่ะ

ในบล๊อกนี้ขอเปิดห้องทำงานเวอร์ชั่นแรกให้ชมกันก่อน เพราะห้องนี้เป็นห้องแรกที่ใกล้จะเสร็จ

.

ห้องทำงานของเราจะเน้นตู้เก็บของเป็นหลัก เพราะการเป็น Blogger ของใช้ต่างๆมีเยอะมาก

ห้องของเราไม่ได้ซีเรียสมาก เราเน้นใช้งานได้ไว ก็เลยสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเอาทั้งหมดค่ะ

เราเลือกไปที่ Index Living Mall สาขาเดอะวอล์ค เกษตร-นวมินทร์ เพราะใหญ่มาก และไม่ไกลบ้าน

และใช้บริการ 3D Designer ของทางเค้าเพื่อความสะดวกค่ะ ก่อนอื่นเลยเราก็เดินดูเฟอร์นิเจอร์ก่อน

ว่าชอบแนวๆไหน แล้วก็จดรหัสเอาไว้ค่ะ พอเล็งไว้แล้ว ก็เดินมาคุยกับทางดีไซน์เนอร์

kirari_working_room_6

kirari_working_room_2

ขั้นตอนนี้ใช้เวลาหน่อยค่ะ เพราะว่าต้องวาดขึ้นโครงห้องเป๊ะๆ ถ้าใครมีแบบและขนาดของห้องแล้ว

แนะนำว่าให้เดินไปคุยกับดีไซน์เนอร์ก่อนเลยว่าเราจะซื้อเฟอร์เพื่อใช้ในพื้นที่นี้

เค้าจะได้ขึ้นโครงห้องไว้เลย พอเราเดินไปดูเฟอร์นิเจอร์เสร็จ กลับมาก็ได้ห้องเปล่าๆรอดีไซน์ได้ค่ะ

 

TIPS: ก่อนไปเดินดูเฟอร์นิเจอร์ อย่าลืมวัดพื้นที่ และปริ้นท์ภาพพื้นที่ไปด้วยนะคะ

จะได้รู้ว่าอะไรวางตรงไหน และพื้นที่พอให้วางหรือเปล่า

.

.

หลังจากที่ได้สเปซห้องแล้ว ก็ส่งเฟอร์ต่างๆที่เราเล็งๆไว้ ให้เค้าจัดวางให้ดู เป็นแบบ 3D ค่ะ

kirari_working_room_3

kirari_working_room_4

kirari_working_room_5

บริการนี้ฟรีค่ะ และรวดเร็วดี เราก็เลยใช้เฟอร์นิเจอร์ของอินเด็กซ์ทั้งห้อง ประหยัดเวลาในการเลือก

และก็สะดวกมากๆ ส่วนของประดับ หรือของชิ้นเล็กๆ เดี๋ยวค่อยไปหาซื้อข้างนอกเอา

แต่เฟอร์ชิ้นใหญ่ๆ ก็อยากทำให้จบทีเดียวไปเลย (คือเราไม่อยากลางานหลายๆวัน

เพื่อมารอรับของน่ะค่ะ เลยจบที่ที่เดียวสะดวกกว่า) ก็เลยสั่งของล็อตใหญ่ที่เดียว

หลังจากสั่งสินค้าไป หากของมีพร้อมในสต๊อกก็สามารถจัดส่งได้เลยค่ะ รอแค่สัปดาห์เดียว

แต่ของที่เราเลือกมีอยู่ชิ้นนึงที่ขาดสต๊อกและของจะเข้ามาในต้นเดือน เราก็เลยรอทีเดียวเลย

สามารถกำหนดวันรับได้ค่ะ พอถึงวันรับ ช่างก็มาประกอบตู้นกันที่หน้างานเลย

kirari_working_room_7

ทุกชิ้นมาจะเป็นแพ็คๆ ช่างจะปูผ้าสักกะหลาดเพื่อกันรอย แล้วก็ประกอบกันที่หน้างานค่ะ

เราสั่งตู้ไปทั้งหมด 12 ชิ้น ช่างมา 3 คนค่ะ ประกอบกันยาวเลย นัดไว้ 11:00 เสร็จอีกทีก็

ราวๆ 16:00 ดังนั้นก็เผื่อเวลากันนะคะ

kirari_working_room_8

kirari_working_room_9

kirari_working_room_10

kirari_working_room_11

ระหว่างนั่งรอช่าง เราก็ให้ช่างหมีประกอบของต่างๆในบ้านไปพลางๆ 55

.

.

มาเปิดห้องดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

kirari_working_room_13

เริ่มจากห้องทำงานเราก่อน

ห้องนี้เน้นตู้เก็บเครื่องสำอางและของจุกจิกต่างๆ จึงสั่งตู้มาเยอะทีเดียว

พื้นที่ตรงกลางจะวางเป็นโต๊ะเพื่อใช้วางของถ่ายรูป และเป็น mini studio เอาไว้ถ่ายงานแบบง่ายๆ

kirari_working_room_14

อีกมุมหนึ่งก็เป็น Sofa Bed ตัวนี้เราชอบมาก (รุ่นเพอร์รี่ 9,900 บาท)

 นั่งสบาย และสามารถกางออกมาเป็นเตียง นอนสบายมากเลย

เผื่อว่ามีเพื่อนมาทำงาน แล้วค้างยาว ก็นอนเล่นห้องนี้ได้เลย

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตู้เก็บเครื่องสำอาง ทั้งตู้ลอย (รุ่นลาโบเต้ 4,990 บาท)

ตู้ลิ้นชักด้านล่าง (รุ่นรีว่า 4,590 บาท X2 = 9,180 บาท)

kirari_working_room_15

ตรงด้านรางกรอบหน้าต่าง ซึ่งเป็นหน้าต่างเดิม เราไม่ได้ทำใหม่ จะมีช่องว่างอยู่

ก็เลยวางตู้ลิ้นชักวินเทจได้อีกอัน (รุ่นลาโบเต้ 4,990 บาท)

kirari_working_room_16

ส่วนมุมนี้จะเป็นตู้โชว์ ซึ่งเราตั้งใจว่าจะใช้เก็บพวกเครื่องสำอางอีกน่ะแหละ (รุ่นลาโบเต้ 7,990 บาท)

ข้างๆกันจะเป็นตู้เก็บเครื่องประดับ พร้อมมีกระจกหน้าบานค่ะ ชิ้นนี้ชอบมากๆ (รุ่นซาน็อตเต้ 4,990 บาท)

ห้องนี้ยังไม่เสร็จดี เพราะผ้าม่านยังไม่มาติด เดี๋ยวมีม่านอีกนิด จะได้อารมณ์น่ารักๆกว่านี้อีกค่ะ

.

.

kirari_working_room_19

ถัดมาอีกห้องนึงก็เป็นห้องแต่งตัว ที่ค่อนข้างมีพื้นที่ เราก็เลยเลือกตู้เสื้อผ้าที่ใหญ่และเก็บของได้เยอะ

ตามประสบการณ์เราแล้ว ชุดของผู้หญิงจะเน้นแขวน แล้วก็ไปเจอตู้นี้ที่เน้นราวแขวนเต็มๆ

มีราวทั้งบนและล่าง เลยจัดมาทั้งเซ็ทเลยค่ะ ได้เสปซตู้ที่ใช้งานได้เต็มที่

(ตู้เสื้อผ้า 4 บาน รุ่นไลน์นิโอ 11,500 บาท  X 2 ตู้ = 23,000 และ

ตู้เสื้อผ้า 3 บาน รุ่นไลน์นิโอ ราคา 9,490 บาท)

ราคาตู้โอเคมากๆ เลยไม่ลังเลค่ะ ซื้อมาทันที วางได้เป๊ะเลย และก็เป็นไม้แบบ E1

ซึ่งมีสารฟอลมาลดีไฮน์ต่ำกว่า 0.008% ไม่มีกลิ่นฉุน และไม่ระคายเคืองผิวหนังค่ะ

kirari_working_room_20

kirari_working_room_21

kirari_working_room_26

ด้านในตู้ แบบชัดๆค่ะ เหมาะกับเรามากเลย แขวนได้เยอะดี

kirari_working_room_17

ฝั่งตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้า เราก็ซื้อเป็นตู้บานเปิดและลิ้นชักในตัวเพื่อใส่เสื้อผ้าที่พับได้

(รุ่นเนอร์วาน่า/พี ราคา 5,990 บาท X2 = 9,180 บาท)

ตอนนี้ห้องทำงานและห้องแต่งตัวใกล้เสร็จแล้วค่ะ เหลือติดผ้าม่านและลงเฟอร์นิเจอร์ที่เหลือ

kirari_working_room_22

เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ตอนนี้แฟนเราก็แสดงฝีมืออีกแล้ว วาดเองออกแบบเองแบบมินิมอลค่ะ

สั่งทำเฟอร์ไม้สักมาประดับ เดี๋ยวถ้าของมาครบแล้วจะมาอัพเดทให้ชมอีกทีใน Version 2 นะคะ

 

 

 

 

Categories: Diary

Tagged as: ,

3 replies »

  1. ห้องทำงานแสงเข้าดีมากเลย ดูวีดีโอน้องแป้งจะได้เห็นแสงธรรมชาติสวยๆแปลกตาจากเดิมแล้ว รอชมอัพเดทอีกน๊าาา 😀

Leave a Reply