Haloo~
หลังจากอัพ Part II แล้วก็หายหน้าไปพักนึง ช่วงนี้กลับบ้านดึกทุกวันเลย
ไม่ค่อยมีเวลาอัพซักเท่าไหร่ แต่ในที่สุดก็คลอดภาค 3 มาจนได้
ไม่เสียเวลาแระ ขอเล่าเรื่องต่อเลยดีกว่า…
วันที่ 7 พค. ตื่นเช้ามาอากาศมัวๆ ฝนก็ตก เฮ้ออ นี่ตกติดต่อกันหลายวันแระนะ
พยากรณ์อากาศที่ดูมาเมื่อสองสัปดาห์ก่อนผิดพลาดหมดเลย
แต่อย่างว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะ ลมมรสุมช่วงนี้มันเยอะ
ฝนที่ญี่ปุ่นเนี่ยน่ารำคาญที่สุด เพราะมันตกนิดๆแต่ตกทั้งวัน
แถมบางวันลมแรงมากๆ พัดเอาละอองฝนโดนหน้า โดนตัวไปหมด
กางร่มหรือไม่กางก็มีค่อพอๆกัน
มหาลัยเราร่มรื่นมากๆค่ะ สองรูปบนเนี่ยเป็นซากุระ ตอน spring นี่สวยสุดๆเลย
เคยลงรูปไว้ในบลอคเก่าๆด้วยล่ะ สวยมากก
วันนี้เราตั้งใจไปเยี่ยมอาจารย์และเดินเล่นที่มหาลัยที่เราเคยมาเรียน
Soka University เป็นมหาลัยนึงที่น่าเรียนและคณะอาจารย์ดูแลนศ.ดีมากๆ
เราไม่ได้กลับไปเยี่ยมมหาลัยเกือบๆ 2 ปีแล้ว รอบนี้ที่ไป เห็นอะไรเปลี่ยนไปเยอะ
เหมือนกัน ตึกใหม่ๆ ร้านอาหารใหม่ๆ ก็เยอะขึ้นด้วย
โรงอาหารที่ชั้น 2ของ学生ホール (Student Hall) เป็นอีกที่ที่เราชอบไปนั่งทานมาก
ก็ข้าวหน้าเนื้อนี่มันอร่อยสุดๆ แถมไม่แพงด้วย มีหลายขนาด ทั้ง S M L
ส่วนมากกเราก็สั่งใหญ่สุด เพราะอร่อยจริงๆ
แต่ไปคราวนี้น่าเสียดายมาก เพราะกลายเป็นร้าน Subway ไปซะแล้ว
มื้อเที่ยงเลยเปลี่ยนจุดหมายไปทานข้าวที่ตึก 本部 โรงอาหารอยู่ที่ชั้น 13
ถ้าวันไหนอากาศดีๆ ก็จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิอยู่ไกลๆด้วยล่ะ
ขวา…新世紀橋 (Shinsekibashi)
ซ้าย…ตึึก 本部 (Honbu) เป็นอาคารเรียนที่ทันสมัยมากๆค่ะ
มื้อเที่ยงเราก็เลือกทาน ข้าวหน้าแกงกะหรี่ของโปรด ราคาถูกมากก
230 เยนเอง ถุกมั้ย เนื้อเยอะด้วยนะ
เวลาซื้อข้าวก็ต้องกดคูปองด้านหน้าเอาค่ะ จ่ายตังค์ที่ตู้เลย
หลังจากทานเสร็จก็เดินย่อยค่ะ
ลงมาชั้นล่างของตึกก็จะเจอกับนิทรรศการพวกภาพวาด รูปถ่าย รวมถึงเกียรติประวัติของ
อาจารย์อิเคดะผู้ก่อตั้งลัทธิโซกะ รวมถึงมหาลัยโซกะด้วย
เดินเเว้บๆเจอรูปในหลวงของเราด้วย ถ่ายคู่กับอาจารย์อิเคดะ
ขวาบน… Student Hall ค่ะ ชั้นล่างเป็น super market ขายทุกอย่างทั้งของกิน
ของ premium ของมหาลัย
ซ้ายล่าง…ตึกนี้นักเรียนต่างชาติทุกคนต้องมาเรียนภาษาที่นี่ค่ะ
ขวาล่าง…อาจารย์ยามาโมโตะ อาจารย์ประจำคลาสที่เราเรียน ใจดีมากๆ
และก็ชอบประเทศไทยมากๆ อาจารย์รอบรู้มากๆ ดูจากหนังสือด้านหลังได้
หอประชุมใหญ่ของมหาลัยค่ะ ข้างในนี่สวยสุดๆอ่ะ แต่จะเปิดให้เข้าเฉพาะวันสำคัญๆเท่านั้น
เดินไปทางด้านหลังก็มีทางเดินเข้าสวนหย่อมค่ะ
ยังกะป่าเลยอ่ะ ธรรมชาติมากๆ รูปซ้ายล่างจะมีศาลาเอาไว้นั่งเล่นได้ แถมปลาคาร์ฟเนี่ย เยอะมาก
ตัวใหญ่มากๆค่ะ
หลังจากเดินเล่นที่มหาลัยซักพัก ก็เดินลงเขากลับบ้าน (มหาลัยเราอยู่บนเขาค่ะ)
เวลาเดินไปมหาลัยตอนเช้าๆเนี่ย เป็นการออกกำลังกายที่ดีเลยล่ะ
ตั้งแต่มาอยู่มหาลัยนี้เปลี่ยนรองเท้าหลายคู่มากๆ เพราะส้นมันสึกหมดเลย
555 เดินเยอะไปหน่อย ทางเท้าของเค้ามันเดินง่าย ไม่ตะปุ่มตะป่ำ เดินไปไม่ต้องกลัวคว่ำแบบไทย
ตอนแรกๆก็ใส่ผ้าใบ หลังๆเริ่มกระแดะใส่บู้ทส้นสูง
ปรากฏว่า ส้นสูงนั้นอยู่ได้แค่ 2 เดือนส้นก็สึกหมดแล้ว ต้องเอาไปซ่อม 55+
หลังจากกลับบ้านก็นั่งดู シバトラที่เทปเปคุงเล่นเป็นตำรวจ กรี๊ดๆๆๆ น่ารักค่อด
โนโซมิบ้าเทปเปคุงมากๆ มากกว่าเราหลายเท่านัก คริๆ
เสร็จสรรพก็ลากกระเป๋าใบโตๆหิ้วลงมาชั้นล่าง เหนื่อยแทบแย่ (รอบแรก)
ฝนก็ตกอีก ทางที่เราจะไปป้ายรถเมล์มันต้องเดินขึ้นเขาเล็กน้อย
ใช้แรงแขนน่าดู เลยเปลี่ยนจากการลาก มาดันกระเป๋าแทน อีกมือก็ถือร่ม
เดินไปได้ซักพัก เอ๊ะ…เสียงเหมือนรถเมล์มา
เห้ย…มาแล้วๆ คราวนี้ล่ะหุบร่มวิ่งลากกระเป๋าเลย รองเท้าที่ใส่ก็ดันสูง 10 เซน
วิ่งลำบาก แต่ก็ฮึดวิ่ง เพราะขี้เกียจรออีก15 นาที
พี่คนขับก็ใจดีหยุดรถรอด้วย
หลังจากนั้นก็ขึ้น JR ไปลงที่ 品川 (Shinagawa) เพราะนัดเจอเพื่อนอีกคน
ที่มาจากโอกินาว่าเอาไว้ (อังริจัง) หน้าเหมือนคนไทยเลยเนาะ (รูปขวา)
นั่งแม้วๆกันเกือบ 2 ชม.แน่ะ เสร็จแล้วก็ไปรอเจอรุ้ง กะ สน
บ้านรุ้งอยู่ที่สถานีที่ไม่ไกลจากสถานีนี้เลย
นั่ง Local train สาย 京急 ไปลงที่ 梅屋敷駅 แล้วเดินไปนิดเดียวเอง
มื้อเย็นก็แวะไปทานร้านไก่ย่างที่รุ้งแนะนำว่าอร่อยสุดๆ
พอถึงที่ร้านก็ให้รุ้งจัดการสั่งเลย เอาแบบที่อร่อยๆ
เมนูที่เลิฟมากๆเนี่ย ก็ไก่ย่างชีส ชีสอย่างเยิ้ม อร่อยจนตั้องสั่งอีกจาน
ซ้อสที่ใช้ราดก็ไม่ธรรมดา อร่อยมากๆ ไก่ย่างจานอื่นๆก็อร่อย
ทานกันเสร็จแล้วเข้าห้องอาบน้ำ แล้วก็เม้าท์ๆๆๆ กันสามคน
เกือบๆ ตี 1 ก็ได้เวลานอน รุ้งให้เรานอนบนเตียง ส่วนรุ้งก็นอนข้างล่าง
(แอบเกรงใจ) หลังจากปิดไฟนอนไปพักนึง เราก็นอนไม่ค่อยหลับเลยพลิกตัวไปมาตลอด
ด้วยความที่ห้องมันเงียบมาก กลัวเพื่อนตื่น นอนคิดอะไรเพลินๆซักแว้บก็เผลอหลับไป
สะดุ้งตื่นอีกทีก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงพูดขึ้นว่า
「トイレ行ってきます」ไปห้องน้ำเดี๋ยวมานะ ในใจก็คิดว่า เห้ยแกจะไปห้องน้ำแล้วทำไมต้องบอกชั้นวะ
เลยลืมตาตื่นขึ้นมาแว้บนึง เห็นเป็นผู้หญิงผมยาวสีดำถึงกลางหลัง
ใส่ชุดนอนเสื้อแขนยาวสีโทนกรมท่า แล้วก็กางเกงนอนสีครีมๆ
ยืนหันหลังอยู่ปลายเท้ารุ้ง ซึ่งก็คือข้างเตียงเรา
ตอนนั้นยังงัวเงียอยู่ สมองเบลอๆเพราะง่วง แต่…สักพักก็เริ่มประมวลความคิดได้ว่า
ก่อนนอนรุ้งไม่ได้ใส่ชุดนอนนี้นี่หว่า
แล้วจังหวะที่ผู้หญิงคนนั้นเดินไปทางห้องน้ำ เราก็ยังได้ยินเสียงหายใจรุ้งข้างๆอยู่เลย
แว๊กกกกกก…นี่เจอผีต่างแดนเลยเหรอ
จังหวะนั้นรู้ตัวว่าตกใจมาก ตัวเย็นๆแต่เหงื่อซึม เอาผ้าห่มมาปิดตา
ในใจก็ท่องคาถาไล่ผีที่แม่หมอที่ท่าพระจันทร์คนนึงเคยให้ไว้
เค้าจะฟังออกหรือเปล่าไม่รู้ ท่องในใจไว้แล้ว
ซักพักก็ได้ยินเค้าพุดอีกประโยค ซึ่งฟังไม่ชัด
บอกประมาณว่า “ต้องรีบไปเอากุหลาบแล้ว” แล้วเสียงนั้นก็หายไป
เราคิดในใจว่า ขาไปนี่ยังเดินหันหลังให้ แต่ขากลับเนี่ยคงไม่มีใครเดินหันหลังกลับมาช่ายมะ
ไม่อยากเห็นหน้าอ่ะ กลัว…
อย่ากลับมาเลยนะ ขอร้อง เรานอนไม่ได้อ่ะ
หลังจากเจอเรื่องไม่คาดฝันครั้งนั้นก็นอนไม่ได้ไป 1 คืน กว่าจะหลับอีกทีไม่รู้ว่ากี่โมง
แต่รู้ว่าฟ้าเริ่มสว่างแล้วแล้วก็เผลอหลับไป
(คือเราเป็นคนเจอเรื่องผีๆค่อนข้างบ่อย ยิ่งช่วงอยู่หอแถวท่าพระจันทร์ Room mate
เราแต่ละคนก็เหมือนจะรู้กันดี บางทีก็มาหาเฉยๆ บางทีก็มาบอกเลข
หุหุ จะบอกว่าถูก 2 งวดติดเลยนะ แต่เราไม่ได้เล่นหวยอ่ะ เพื่อนเราเล่น เลยบอกเพื่อนไป
ตอนแรกก็บอกเล่นๆ ไม่คิดว่าจะถุก แต่พอ 2 งวดติดๆนี่ ชักยังไง
สงสัยผีตนนั้นคงชอบเพื่อนเรา พอย้ายหอก็ไม่ได้ยินเสียงแปลกๆแบบนั้นอีก 55 อดเลย)
ตื่นมาอีกทีก็ 9 โมงกว่าๆ ยังแอบหลอนนิดหน่อย ตาเป็นแพนด้า
โบ๊ะคอนซีลเลอร์เต็มกำลัง โบกแป้งเข้าไปเอาให้มิด
หนามยอกให้เอาหนามบ่ง วันนี้ smokey eyes กรีดไลน์หนากลบเกลื่อน
สายๆก็ออกไปเดินช๊อปปิ้งที่ 原宿 (Harajuku) อีกรอบ
ครั้งนี้คนว่างสุดๆ ว่างมากๆ ต่างจากวันก่อนที่เดินเข้าไปไม่ได้
วันนี้ก็ได้ของมาเพียบอีกเช่นเคย แวะร้าน ダイゾdaiso
สาขาใหญ่ที่ถนน Takeshita street ก่อนหลับ ของเยอะมากๆ
หมดไปอีก 3000 กว่าเยน (30 กว่าชิ้น)
ตอนเย็นก็นัดกินข้าวกับแก๊งค์เดิม วันนี้รุ้งพาไปทาน Steak ที่ไม่ธรรมดา
เนื้อนุ้มนุ่ม ซ้อสก็อร่อย ข้าวก็อร่อย แถมไม่แพงด้วย กี่เยนหว่า
800 กว่าเยนเองมั้ง
นึกๆแล้วก็อิจฉานะ ถนนหน้าบ้านรุ้งเนี่ยของกินอร่อยๆเยอะจัง
หลังจากอิ่มกันแล้วก็กลับเข้าห้องพัก พออาบน้ำทำไรกันเสร็จ
เพื่อนเราอีกคนก็ขึ้นมานั่งเล่นด้วย คนนี้กะนอนกัน 3 คน
รุ้งก็นั่งเลทเนท อัพบลอคไปซักพัก ก็หันมาบอกพวกเราว่า
“เห้ยวันนี้เรานอนเฝ้าพวกแกเอง 555+ กลัวว”
ทำเอาเรากะสนขำกันกลิ้งเลย ใครจะรู้ไอ้รุ้งกลัวผีแบบสุดๆ
สุดท้ายก็เข้านอนกัน 3 คน เรากะรุ้งนอนเตียง ส่วนสนนอนข้างล่าง
แต่ปิดไฟนอนเงียบๆก็หลอนไปนิด รุ้งก็เลยเปิดคอนเสิร์พี่ Hyde(L’Arc en Ciel)
กล่อมจนเราหลับ (แต่ก่อนหลับได้ยินเสียงฮัมเพลงกะเสียงกรี๊ดเป็นระยะๆ 555)
ด้วยความที่เราไม่ได้นอนเมื่อคืนเลยหลับสนิท หลับคนแรกเลย
ตื่นเช้ามาด้วยพลังเต็มเปี่ยม ชาร์ตแบตเต็มแล้ว 55+
วันที่ 9 พค วันนี้นัดกันครบ The gangเลย
ไปเดินเล่นย่าน 吉祥寺 (Kichijoji) และ下北沢 (Shimokitazawa)กันค่ะ
มื้อเที่ยง และ มื้อเย็นเนี่ย ปลื้มสุดๆ เอาไว้มาต่อภาคจบของ Tokyo Trip
ในตอนหน้านะคะ
Categories: Dining & Traveling