Kirari Trip: Summer in Hokkaido (Day 4-5 at Hakodate)

kirari trip hakodate

กลับเข้าสู่ไดอารี่ตอนสุดท้ายกับการท่องเที่ยวที่ฮอกไกโดในช่วงสุดท้าย

วันที่ 4-5 เราจะอยู่กันที่ Hakodate ค่ะ เป็นเมืองท่าแสนโรแมนติก

และเรียกว่าเป็นเมืองที่เป็นสวรรค์ของอาหารซีฟู้ดของญี่ปุ่นก็ว่าได้

เราชอบเมืองนี้มากค่ะ และคิดว่าเป็นอีกเมืองที่ไม่ควรพลาดถ้ามาท่องเที่ยวที่ฮอกไกโด

ไดอารี่ตอนนี้จึงยาวนิดนึงนะคะ เนื่องจากรวบยอดทั้งวันที่ 4-5 เข้าไว้ด้วยกันเลย

How to go: นั่งรถไฟ JR Super Hokuto スーパー北斗 (函館行)

จาก Supporo ไปยัง Hakodate ใช้เวลา 3.19 ชม.

Tips: จองที่นั่งขาไปจากซัปโปโรให้นั่งฝั่งซ้าย จะผ่านเมือง Chitose

รถไฟจะวิ่งเลียบทะเล (Uchiura Bay) 内浦湾 และยอดภูเขาแฝด Komagatake駒ケ岳

ได้วิวสวยกว่า  อีกฝั่งนึงจะเป็นวิวกำแพงหินตลอดทางค่ะ

ราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ 8,790 เยน ดังนั้น หากคิดว่าจะไป Hakodate ให้ซื้อ Hokkaido rail Pass

แบบ 3 วันจะคุ้มกว่ามากค่ะ (15,000 JPY)

ตารางเวลารถไฟไป Hakodate ในวันธรรมดา ↓

hakodate_1

hakodate_2

การเดินทางไป Hakodate จะใช้เวลาค่อนข้างมากค่ะ ต้องนั่งรถไฟประมาณ

3.19 ชม.แนะนำให้จองล่วงหน้า เพราะรถไฟช่วงขาไป (ช่วงเช้า) แน่นสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ย้ำ…แน่นสุดดๆๆๆๆๆ เราจองล่วงหน้า 4 วัน จากเดิมที่แพลนว่าจะออก 08:34

ที่นั่งเต็มทุกที จึงได้รอบเช้าสุด 07:00 ซึ่งเหลือที่นั่งแค่ 7 ที่สุดท้ายแถมแยกนั่งกัน

คนละโบกี้อีกค่ะ ดังนั้น ควรจองนะคะ ในการเดินทางครั้งนี้ตะกุกตะกักค่อนข้างมาก

ตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง ไปถึงปุ้ป เดินเข้าโบกี้ที่จองที่ไว้ เห้ย…ที่นั่งหาย กลายเป็นที่วางของ

Bingo ช็อตแรก…วิ่งไปหาเจ้าหน้าที่ถามไปว่า ช่วยเช็คที่ให้หน่อยได้มั้ยเพราะมันไม่มีที่

นายสถานีก็บอกกลับมาว่า ต้องขอโทษด้วย ขบวนนี้มีการเปลี่ยนรถไฟเลยมีที่นั่ง 12 ที่

ที่เปลี่ยนไปจากเดิม เดี๋ยวจะพาไปนั่งที่ใหม่นะ ให้ไปที่โบกี้ 4 ที่นั่งเบอร์นี้….

พอเดินไปถึง เป็นแก๊งค์คนจีนแทบจะเหมาโบกี้ ไม่ใช่ละ…นายสถานีต้องบอกผิดแน่ๆ

เลยเดินไปหาจนท.ในรถไฟเลย ถามเค้าอีกรอบ เค้าบอกว่าต้องนั่งที่โบกี้ 6

แล้วก็ขอโทษยกใหญ่ เพราะนายสถานีบอกผิด สรุปคือ บ้านเรานั่งแยกกันหมด

โบกี้ 2 โบกี้ 4 และเราโบกี้ 6

โชคดีที่ไปก่อนเวลา 20 นาที และโชคดีที่พูดญี่ปุ่นได้ ไม่งั้นคงลนกว่านี้…

โบกี้ที่เรานั่งมันจะติดกับ Unreserved seat ในโบกี้ 7 ซึ่งอย่างที่บอกไว้ข้างต้น

มันแน่นสุดๆ คนเลยไม่มีที่ยืน ล้นมายืนตามทางเดินของโบกี้ 6 ของเรา แออัดสุดๆ

เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เพราะรถไฟวิ่งไปประมาณ 20 นาทีก็จอด ซึ่งจนท.ประกาศว่า

“เส้นทางด้านหน้ามีฝนตกหนักและมีอุบัติเหตุ รถไฟจึงอาจจะล่าช้าไปบ้าง ขอภัย บลาๆๆ”

ทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น =’= (อืม…แค่ล่าช้า โอเค๊ ยังไม่ต้องเดินไปบอกที่บ้านก็ได้)

จอดอยู่ประมาณ 15 นาทีก็วิ่งต่อ แล้วก็จอดอีก…คราวนี้ประกาศเหมือนเดิม แต่มีประโยคเพิ่มว่า

“ขณะนี้เรากำลังประเมินสถานการณ์อยู่ว่าจะสามารถวิ่งต่อไป หรืออาจจะงดบริการ”

อ้าววว…กรรม ทำไงล่ะนิ เลยหันไปคุยกับคนญี่ปุ่นข้างๆว่า เป็นแบบนี้บ่อยมั้ย แล้วทำยังไง

เค้าก็บอกว่า ช่วงพายุเข้าเป็นบ่อย ตอนนี้ก็รอไปก่อน ถ้าไม่เลวร้ายจริงๆเค้าจะไม่หยุดวิ่งนะ

รอบนี้จอดนานมากประมาณ 30 นาที ก็เลยเดินไปบอกที่บ้านที่อยู่กันคนละโบกี้

โบกี้ 6 เป็นไปได้อย่าจองเลย แออัดมาก โบกี้ 2 ที่คุณพ่อนั่ง โอเคสุด เพราะถูกกั้นด้วย

โบกี้ 3 ซึ่งเป็นโบกี้ที่นั่งจองแบบพิเศษ คนยืนไม่ได้ คนเลยไม่ค่อยเดินผ่านกัน

.

.

ผ่านไปอีกพักนึง จนท. ประกาศขอภัยต่างๆนานา และจบว่า

เราจะค่อยๆวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 20km/h โอโหหหห…เต่าเรียกพี่เลย

แล้วก็ค่อยๆกระดึ้บๆไปแต่ละสถานี ระหว่างทางก็เห็นซากขบวน JR พลิกคว่ำหักกลาง

เอ๊ะ…นี่อีกหนึ่งสาเหตุหรือเปล่านะ… แต่จนท.บอกว่าเป็นเพราะเส้นทางข้างหน้าฝนหนัก

รางเลยไม่ดี ปิดข่าว? หรือจริง? อันนี้ไม่รู้ รู้แต่มันดีเลย์ไปแล้ว 2 ชม.

สงสารคนที่ไม่มีที่นั่ง เค้าก็กองไปนั่งกับพื้น ส่วนมากเป็นพวก salary man นี่แหละ

สุดท้าย กระดึ้บๆไปจนถึงไหนซักที่ เจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่า

“เราสามารถกลับมาวิ่งได้ที่ 110km/hr แล้ว ขออภัยที่ล่าช้า”

สรุปคือ ดีเลย์กระจาย ไปถึง Hakodate จากเดิมที่ต้องถึง 10:11 AM

แต่ไปถึงตอน 13:20 ดีเลย์ไป 3 ชม. 10 นาทีเลยทีเดียว…..

.

สิ่งที่ทาง JR รับผิดชอบคือการคืนค่า Limited Express ให้ (ประมาณ 3,200)

แต่ใช้พาส ก็ขอคืนไม่ได้นะคะ ที่น่าหงุดหงิดคือ ทุกอย่างประกาศเป็นภาษาญี่ปุ่น

นักท่องเที่ยวก็ไม่น้อยนะ น่าจะมีการประกาศเป็นภาษาอังกฤษบ้าง

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_66

ไปถึงปุ้ปก็หิวตาลาย เพราะเมื่อเช้ากินแค่ข้าวปั้น แถมในรถไฟไม่มีมาขายอีก

เค้าเข็นรถมาขายไม่ได้ คนยืนแน่นขบวน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_4

มื้อเที่ยงเลยเดินไปที่ร้านดังหน้าสถานี ร้าน Tabiji  たびじ

(อยู่หน้าสถานี บริเวณตลาดเช้า)

ร้านนี้ดังเรื่อง donburi ที่มีหลากหลายราคาไม่แพง แต่บริการไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ไม่เคยเจอที่ว่าบอกพนง.ไปว่ามา 4 คน แล้วเค้าไม่บอกกันเอง ไอ้เราก็ยืนรอหน้าร้าน

คิดว่าที่เต็ม ที่ไหนได้ที่ว่าง พนักงานก็แค่เดินผ่าน มองไปมา จนเราทนไม่ได้เอง

เดินไปถามว่าเมื่อไหร่จะได้โต๊ะ เค้าบอกว่า ถ้าไม่ตะโกนว่าจะทานที่นี่ก็ไม่รู้นะว่าจะกิน

โอ้ววว…ประทับใจจังจ่ะ…

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_5

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_6

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_7

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_8

เราสั่งดงบุริหน้าหอยเม่น ก้ามปู และไข่แซลมอนค่ะ

ซุปที่ฮาโกดาเตะส่วนใหญ่จะเป็นสาหร่ายเส้นผม เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ

รสชาด ความสดก็โอเคนะ ราคาไม่แพง แต่พูดจาแบบนี้

คงไปร้านอื่นดีกว่า ตัวเลือกมากมาย

.

.

ทานอิ่มแล้วก็ออกเดินทางไป Motomachi 元町 ย่านเมืองเก่า วิวงามๆ

How to go: นั่งรถรางสาย 5 ลงที่ป้าย Suehirocho 末広町 (D21)

แล้วเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ประมาณ 300m

hakodate_speedbus

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_13

ที่เมืองนี้จะอาศัยรถรางกับแท๊กซี่เป็นหลักค่ะ รถรางเค้ามีแค่ 2 สาย

จากหน้าสถานี Hakodate (DY17) สถานีจะอยู่หน้าห้างค่ะ มีป้าย Muji 無印 สังเกตไม่ยาก

เมื่อลงแล้วก็เดินไปตามทางแล้วเลี้ยวขึ้นเนินค่ะ ไม่ต้องห่วงเพราะมีป้ายสีน้ำเงินบอกทาง

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_14

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_15

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_16

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_17

.

.

ช่วงที่เรามาสังเกตได้ว่าโปสเตอร์วง GLAY เกลื่อนเมืองจริงๆ

เค้าเพิ่งเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกที่ Hakodate เมื่อวานนี้!!! อ๊ากกกก อยากเจอ

กรี๊ด Hisashi กับ Jiro มานาน แว่วๆว่า อีกไม่นานคนไทยก็จะได้ดู เย่!

แต่คิดอีกแง่ ถ้ามาเมื่อวาน คนแน่นมากแน่ๆ ดีแล้วที่มาเที่ยววันนี้ เมืองเงี๊ยบเงียบ…

glay_hakodate

glay hakodate

เวทีเป็นเรือ…สมกับมาเล่นที่เมืองท่าสำคัญจริงๆ อลังมากกก…

ดูสัมภาษณ์ในทีวี ทั้งสี่คนเค้าเกิดและโตที่ฮาโกดาเตะที่แหละ

แต่ไปโด่งดังทั่วญี่ปุ่น และเอเชีย ดังมาสิบกว่าปีแต่ยังไม่เคยเล่นคอนเสิร์ตที่บ้านเกิดเลย

เพราะสถานที่ยังไม่พร้อม แต่ปีนี้ทุกอย่างพร้อม เลยเป็นการจัดคอนเสิร์ตครั้งแรกที่นี่

ผู้คนที่นี่ดูตื่นเต้นมากนะคะ ขนาดเราไปหลังวันที่เค้าจัดงาน

ก็ยังมีคนใส่เสื้อ GLAY สะพายกระเป๋าที่แจกในงาน และของใช้ เครื่องดื่มต่างๆ

ก็วางขายมากมาย…

ผ่านมาเป็นสิบปี ตอนนี้เป็นลุงกันหมดแล้ว แต่ยังเท่เหมือนเดิมเลยอ่ะ > <

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_63

.

.

จบเรื่อง GLAY มาเที่ยวกันต่อ..

เมื่อเดินขึ้นเนินไปก็จะพบกับอาคารไม้แบบตะวันตกตั้งเด่นอยู่ที่เนินเขา

เรียกว่า Old Public Hall of Hakodate Ward  旧函館区公会堂

(Kyu Hakodateku Kokaido)

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_18

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_21

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_19

ตึกด้านหน้านี้ ตอนนี้เค้าจัดแสดงประวัติและสิ่งของต่างๆของวง GLAY อยู่ค่ะ

บอกแล้วว่า…เค้าฟีเวอร์กันจริงๆ

เดินไปทางขวาหน่อยก็จะมีมุมให้นั่งชิลๆ มองวิวด้านล่างที่เป็นท่าเรือ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_22

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_24

.

หลังจากนั้นก็เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ไปชมพวกโบสถ์ต่างๆ

ระหว่างทางก็มีร้านค้ามากมาย นักท่องเที่ยวเยอะค่ะ ส่วนมากเป็นคนญี่ปุ่นและคนจีน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_25

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_23

โบสถ์ที่นี่สวยค่ะ มีเอกลักษณ์ดี แต่ละที่อยู่ติดๆกันค่ะ สามารถเดินชมไปเรื่อยๆ

แล้วเดินต่อไปยังกระเช้าเพื่อขึ้นไป Mt. Hakodate ได้เลยค่ะ

.

Episcopal Church รูปทรงแปลกตา ดูขลังๆหน่อย มองจากด้านบนเป็นไม้กางเขน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_29

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_30

Russian Orthodox Church ที่นี่สวยสุด เป็นศิลปะแนว Gothic

รูปปั้นจากวาติกัน และเป็นโบสถ์ Orthodox แห่งแรกในญี่ปุ่นด้วยค่ะ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_26

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_27

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_28

ส่วน Motomachi Roman Catholic Church โบสถ์นี้ปิดปรับปรุงค่ะ

.

หลังจากเดินชมโบสถ์แล้ว ตอนแรกแพลนกันไว้ว่าจะขึ้นกะระเช้าไปชมวิวที่ยอดเขา

ซึ่งเป็นวิวที่สวยที่สุด Top 3 ในญี่ปุ่นเลยค่ะ แต่เงยหน้าขึ้นฟ้า…

เมฆแทบจะติดหลังคาแล้ว ขึ้นไปคงมองอะไรไม่เห็น เลยถอดใจ…

เดินเล่นลงเนินมาแถวท่าเรือค่ะ วิวสองข้างทางเงียบสงบ ร่มรื่นมากๆ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_31

ดอกไม้ริมทางสีสันสวยงามค่ะ ไม่แน่ใจว่าดอกอะไร แต่สีสวยจัง…

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_32

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_33

ร้าน Lucky Pierrot เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของเมืองนี้ คนต่อคิวยาวมากกกกกกก

ยาวจนอยากไปต่อด้วยเลย… ร้านนี้มีความเกี่ยวข้องกับ GLAY อีกแล้ว ฮ่าๆ..

เพราะเป็นอีกร้านที่สมาชิกในวงชอบมาทาน แถมยังมีรีวิวมากมายว่ารสชาดดีมาก

ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์ หรือซอฟท์ครีม

.

.

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_37

เดินลงเนินไปช้อปปิ้งที่ Kanemori Redbrick Warehouses 金森赤レンガ

ที่นี่เป็นโกดังอิฐแดงที่ดัดแปลงเป็น Shopping center ค่ะ มีของขายหลายอย่าง

มีร้านกาแฟนั่งชิลริมอ่าว เดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆค่ะ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_39

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_36

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_38

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_34

เดินเล่นท่ามกลางเมฆหมอกต่างๆจนเย็น ก็นั่งแท๊กซี่กลับมายังโรงแรมค่ะ

ถ้ามา Hakodate โรงแรมมีไม่เยอะมาก แต่อยากแนะนำที่นึง ซึ่งถูก และดีสมราคา

คือ Toyoko Inn Hakodate Ekimae Asaichi (東横イン函館駅前朝市)

ที่นี่คืนนึงประมาณ 7-8,000 เยน ที่เราชอบเพราะติดตลาดเช้า

แหล่งอาหารสำคัญ และเดินจากหน้าสถานีแค่ 2 นาที ใกล้สุดๆ

ตรงข้ามโรงแรมจะเป็นร้านราเมงชื่อดังของที่นี่ คนต่อคิวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด

จนเปิดแล้วคิวก็ยาวเหยียดแบบนี้ทุกช่วงเวลา

“Hakodate Ramen Kamome” 函館らーめんかもめ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_11

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_12

แวะเก็บของที่โรงแรมก็ออกมาซื้อเมล่อนทานกันสดๆค่ะ แค่ชิ้นสองชิ้นไม่สมใจ

มันต้องลูกนึงแบบนี้ ลูกนึงก็แล้วแต่ขนาดค่ะมีตั้งแต่ 2,500 -5,000 เยนต่อลูก

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_40

ต่อด้วยมื้อเย็น ไปที่ร้านราเมงขึ้นชื่ออีกร้าน  Zundo Ramen ずんどらーめん

How to go: จากหน้าสถานี JR Hakodate ข้ามถนนไปทาง Loisir Hotel

ชั้นล่างจะเป็น Shopping Plaza ของฝากต่างๆนานา เพียบบบ

ร้านจะอยู่ติดกับพลาซ่านี้ค่ะ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_41

จุดเด่นของร้านนี้คือเค้าจะมีเมนูพิเศษ เฉพาะสาขา Hakodate เท่านั้น คือ

ราเมงก้ามปู หอยเม่น หอยเชลล์ สดๆจากตลาดนี่แหละ…

เมนูที่นี่มีหลากหลายค่ะ มองเข้าไปที่บอร์ดของร้านจะมี Ranking ความนิยมแต่ละเมนู

ที่ขายดีอันดับ 1 ของทุกสาขา คือ 70’s Ramen ค่ะ เป็นสูตรโบราณ ราคาเพียง 610 เยน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_42

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_43

แน่นอนว่าทุกคนมีเป้าหมายชัดเจนคือชามนี้นี่แหละค่ะ ราเมงก้ามปู 海鮮コク塩らーめん

อร่อยเริ่ดมาก ทุกอย่างสด ชามนี้ 1,050 เยนค่ะ เป็นซุปเกลือที่ขึ้นชื่อของเมืองฮาโกดาเตะ

(ถ้าไปที่ซัปโปโรเค้าจะเป็นแหล่งของมิโซะราเมงค่ะ)

ซุปอร่อย ข้าวผัดอร่อย เกี๋ยวซ่าอร่อยมากจนต้องสั่งเพิ่ม

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_46

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_47

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_48

Kirari’s Review: ราเมงที่ใช้วัตถุดิบสด และดี บริการรวดเร็ว ทำเลดี

ความอร่อย : 9/10

ความสะอาด, บรรยากาศ : 8/10

การบริการ : 8/10

ความพึงพอใจโดยรวม  A

.

.

อิ่มอร่อยกันแล้วก็เดินออกมาช้อปปิ้งขนม ของกินต่างๆที่พลาซ่าข้างๆ

แล้วก็กลับโรงแรมค่ะ…

.

.

เช้ารุ่งขึ้น ตื่นแต่เช้าไปเดินที่ตลาดเช้า Hakodate Asaichi (ข้างๆโรงแรม)

ที่ตลาดนี้มีของสดขายหลากหลายค่ะ ทั้งซีฟู้ดสดๆ ผัก ผลไม้ต่างๆขายในราคาส่ง ต่อรองได้

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_2

ปูที่นี่ขายกันเป็นขีดค่ะ ราคาต่างกันตามไซส์และชนิด

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_49

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_3

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_10

มาฮอกไกโด ห้ามพลาดที่จะทานข้าวโพดนะคะ

แพงกว่าไทยหลายเท่า แต่ความหวานต่างกันลิบเลย อร่อยมากๆ

แบบสดฝักนึง 200 เยนค่ะ ถ้าเป็นแบบข้าวโพดขาวก็ฝักละ 250-300 เยน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_52

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_53

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_51

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_50

(ดูสิ…ขนาดป้าขายเมล่อน แกยังอินกับ GLAY อยู่) 555

ตลาดที่นี่ เปิดแต่เช้ามืดตีสี่ ตีห้า จนถึงแค่บ่ายสอง แต่บางร้าน

ก็เปิดทั้งวันก็มีค่ะ   ที่ Hakodate สิ่งที่ดังที่สุดคือ ปลาหมึกสดค่ะ

ตกกันเป็นๆแล้วทานกันเลย เรายังไม่กล้าพอ เลยได้แต่ยืนดู

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_57

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_58

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_59

แต่สิ่งที่เราชอบสุดๆนั่นคือ Uni (หอยเม่น) และ Ikura (ไข่ปลาแซลมอน)

อุนิ ถ้าจะเรียกกันจริงๆแล้ว มันคืออัณฑะหอยเม่นอ่ะ บอกแบบนี้อาจจะรู้สึกอี๋ๆ

แต่มันอร่อยมากกกกกก กินแล้วจะพลังเต็มเปี่ยม ยิ่งช่วงหน้าหนาว

กินแล้วรู้สึกอุ่นขึ้น คนญี่ปุ่นก็นิยมกินกับเบียร์ (โดยเฉพาะผู้ชายอ่ะนะ 55)

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_55

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_56

อุนิที่นี่สดมากกก และถูกมากกก ตัวละ 300-500 เยนเท่านั้นเอง (90-150 บาท)

ทานที่ไทยเนี่ย เป็นแบบซูชิ คำละ 200 – 400 บาท ถ้าเป็นอุนิแบบฟรีซจะถูกหน่อย

แต่แบบสด เท่าที่เคยทาน ก็จานละ 800 บาท มีสองคำเอง

(ตัวนึงได้ประมาณ 2 -5 คำแล้วแต่ขนาด)

มาที่ฮาโกดาเตะ ต้องลืมระดับคอเรสเตอรัลไปชั่วขณะ เพราะแต่ละอย่างที่ทาน

พุ่งปรี๊ดแน่ๆ ปีที่แล้วตรวจได้ 160 ปีนี้จัดเต็มไปหลายอย่างจะพุ่งไปเท่าไหร่กันหนอ

.

.

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_60

หอยเชลล์ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โฮะทาเทะ ホタテก็ไม่ควรพลาด

ร้านนี้ย่างสดๆ ร้อนๆ อร่อยมาก ตัวนึงประมาณ 500-600 เยนค่ะ

.

.Kirari trip_Hokkaido_hakodate_61

หลังจากอิ่มอร่อยกันในตลาดสดก็ออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่ป้อมดาว

หรือ Goryokaku Tower  函館五稜郭タワー

How to go: แนะนำว่านั่งแท๊กซี่ไปจะสะดวกกว่า จากหน้าสถานี Hakodate

นั่งไปประมาณ 4 กิโลกว่าๆ ค่าโดยสารประมาณ 1,600 เยนค่ะ

หรือจะนั่งรถรางไปลงที่ Goryokaku Koen Mae แล้วเดินต่ออีก 750m ก็ได้เช่นกัน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_62

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_64

ที่ป้อมดาวแห่งนี้สร้างมากว่า 140 ปี เคยเป็นป้อมปราการในสมัยก่อน

และยังเป็นอนุสรณ์สถานให้กับผู้กล้าในสมัยสงครามอีกด้วย

สงครามที่สะเทือนใจมากที่สุดก็หนีไม่พ้น Goryokaku no Tatakai (Boshin War)

ที่ต่อสู้กันร่วมสัปดาห์ในปี 1869 บริเวณด้านบนของหอคอยก็จะมีจัดแสดงรูปภาพต่างๆ

ส่วนมากก็จะเกี่ยวกับสงครามเหล่านี้

นอกจากวิวที่สวยงามแล้ว ที่นี่เป็นอีกจุดที่โด่งดังมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

เพราะจะเต็มไปด้วยซากุระค่ะ ที่เห็นเขียวชอุ่มนั่นแหละ ซากุระทั้งนั้นเลย

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_65

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_68

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_67

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_70

(แปลงร่างเป็นปลาหมึก!!!)

ตัวการ์ตูนผู้ชายในรูปคือ Hijikata Toshizo ค่ะ วาดซะน่ารักเลย

ท่านเป็นนักดาบที่โด่งดังมากๆ และถ้าได้อ่านประวัติจะรู้ว่าท่านเป็นนักรบอีกคนที่ยิ่งใหญ่

จนในปัจจุบัน มีการนำมาทำเป็นอะนิเมชั่น คอสเพลย์กันมากมายค่ะ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_71

ที่ป้อมดาวนี้มีร้านอาหารดังด้วยนะ เป็นร้านแกงกะหรี่ที่มีมานานกว่า 130 ปี

ชื่อร้าน Gotoken มีแค่สองสาขาค่ะ ที่นี่เป็นสาขาเล็ก คนแน่นร้านเหมือนกัน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_69

.

จบจากป้อมดาวก็นั่งแท๊กซี่กลับมาที่ตลาดเช้าหน้าโรงแรมกันต่อ

ตลาดเช้าเปิดบริการตั้งแต่ ตี 4 ถึงประมาณบ่าย 2 เท่านั้นนะคะ

มื้อเที่ยงประมาณ 11 โมง เราก็รีบไปที่ร้านลุงใจดีหน้าสถานี

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_77

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_72

คุณลุงคุยเก่งมากกกก ปูร้านนี้ดูเยอะสุด และสด ราคาไม่ค่อยต่างกัน

ราคาที่แตกต่างคือปูเป็น กับปูตายค่ะ แต่ที่เห็นที่อื่นคือปูตาย กับปูฟรีซ

สรุปคือ มาที่นี่ ต้องกินปูเป็น….. สดมาก อร่อยมาก

.

ลืมร้านปูยักษ์ที่โอซาก้า หรือบุฟเฟ่ต์ขาปูต่างๆที่ซัปโปโรทิ้งไปเลย

ถ้าได้ทานปูเป็นที่นี่ มันคือ ที่สุดของที่สุด

ก่อนหน้านี้ที่ทานปูทาระบะ คือทานเพราะมันคือร้านดังทั้งโอซาก้าและที่ซัปโปโร

แต่ความรู้สึกคือ ปูม้ากับปูทะเลบ้านเราอร่อยกว่าชัดๆ

แต่…พอได้ทานปูทาราบะที่นี่ โอ้ววววจ้อชชชมันยอดมากก!!

Tips: คุณพ่อทำการบ้านมาอย่างดี กินปูเป็น ต้องเลือกตัวผู้ น้ำหนัก 1.7-1.9 KG

จะเป็นปูที่อร่อยที่สุด ใหญ่กว่านี้เนื้อจะแน่นเกินไป

 

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_82

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_74

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_75

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_76

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_80

ปูตัวนี้ 1.79 KG คุณลุงลดราคาให้เหลือแค่ 7,000 เยน (ปกติ 9,000 เยน)

ลุงบอกว่าหนูคุยสนุกดี ไว้มาอีกนะ ปูร้านลุงราคาไม่แพงค่ะ ร้านอื่นๆจะขายที่ขีดละ 600

อ้อ…มีค่าบริการต้มปู และแกะให้ด้วยอีก 1,000 เยนค่ะ (ต้มปูรอ 30 นาทีนะคะ)

เค้าแกะให้สุดยอดเลย ทานง่ายสุดๆ ลองดูในวิดิโอได้นะคะ

.

.

พูดถึงร้านดงบุริ Sushidokoro Hakodate 鮨処函館 กันบ้าง

ร้านนี้เจ้าของร้านน่ารัก อัธยาศัยดีค่ะ เห็นเรามาเป็นครอบครัวก็เดินมาบอกว่า

ถ่ายรูปมั้ย ถ่ายให้ จะเอาอะไรเพิ่มบอกได้นะ

แถมหยิบผ้าเย็นมาให้คนละสองผืน บอกว่ากินปูมันคาวติดมือ เช็ดเยอะๆจะได้ไม่คาว

น่ารักมากๆ แล้วที่สำคัญ อาหารอร่อยค่ะ ไม่แตกต่างจาก Tabiji เลย

ต่างกันที่บริการที่นี่เริ่ดกว่าเยอะมาก….

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_78

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_79

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_81

Kirari’s Review: อาหารสด อร่อย บริการดีเป็นกันเองมากๆ

ความอร่อย : 10/10

ความสะอาด, บรรยากาศ : 9/10

การบริการ : 10/10

ความพึงพอใจโดยรวม  A+

.

.

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินเล่นรอบๆแล้วก็นั่งรถไฟกลับซัปโปโรค่ะ

ขากลับตอนแรกเราจองไว้ 15:18 แต่เห็นเวลาเหลือเยอะ เลยไปขอเปลี่ยนเที่ยว

เป็น 14:00 เปลี่ยนได้ไม่เสียเงินเพิ่มนะคะ ขากลับแนะนำให้นั่งฝั่งขวาค่ะ ได้วิวทะเล

hakodate_4

แถมรอบบ่ายสอง ที่นั่งว่างค่อนข้างเยอะค่ะ (เพราะไม่ใช่แบบ Super Hokuto)

เป็นแค่ Hokuto ธรรมดา วิ่งช้ากว่า และใช้เวลานานกว่า 30 นาทีค่ะ

รวมทั้งสิ้น 3.47 ชม.ค่ะ หลับยาว….Zzzz

.

.

เมื่อไปถึง Sapporo แล้วก็เก็บกระเป๋า และแวะหาร้านมื้อเย็นกันต่อ

ลังเลว่าจะกลับไป Ajino karyu (ราเมงก้ามปูที่ susukino ดี หรือที่อื่นดี)

สรุปว่า ไปทานเจงกิสข่านที่ร้านเก่าแก่กว่า 60ปี  Jingisukan Daruma

ジンギスカンだるま 本店 เราเลือกไปที่สาขาหลัก ซึ่งมีที่นั่งเยอะสุด (14 ที่)

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_83

How to go: บอกยากจริงๆ คือให้ไปลงสถานี susukino

แล้วเราก็เดินถามตลอดทางเลยอ่ะ 555 สุดท้ายไปถาม salary man คนนึง

เค้าใจดี พาเดินข้ามถนนมาถึงร้านเลย

ขอบอกว่า ร้านนี้อยู่ในหลืบ… จุดสังเกตที่เห็นชัดคืออาคาร すすきの寿ビル

(Susukino Kotobuki Biru)

.

.

แผนที่ภาษาอังกฤษค่ะ >> http://tabelog.com/hokkaido/A0101/A010103/1000007/

(เลื่อนลงมาท้ายๆ จะเป็น Google map)

.

.

แหม…กว่าจะถึง เดินวนไปมาหลายรอบ มันอยู่ในซอกนี่เอง

มาถึงปุ้ป ก็ต่อคิวค่ะ ที่ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ บริการกันแบบดั้งเดิม มาก็ต่อคิวกันไป

แล้วก็คอยฟังประกาศเรียกจากด้านในร้าน (เป็นภาษาญี่ปุ่น) ว่าเชิญด้านใน

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_84

เราไปกันสี่คน ว่างปุ้ป เค้าก็ให้เข้าร้านก่อนทีละสองคน

เข้าไปถึงปุ้ป โอ้ววว โนววว…นี่มันสมรภูมิชัดๆ…

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_85

ทั้งควันตลบอบอวน พอไปนั่งปุ๊ป จุดเตาถ่านร้อนผ่าวๆ

แล้วทำไมรู้สึกน้ำตาจะไหลตลอดเวลานะ

นี่ไง…เจอสาเหตุแล้ว หัวหอมหั่น อย่างเยอะ!!! แถมหั่นให้สดๆ

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_87

นั่งปุ้ป เสริฟปั๊บ เห้ย…ยังไม่ได้สั่งอะไรเลย

ก็ถามเค้าไปว่ามันคืออะไรอ่ะคะ เค้าก็บอกว่า ที่นี่มีเมนูเดียวคือ เจงกิสข่าน เนื้อแกะ

จานนึง 700 เยน ถ้าจำไม่ผิดนะคะ แล้วเมนูเป็นกระดาษแปะข้างฝาบ้านเป็นภาษาญี่ปุ่น

อื้อหือ… ไม่ง่ายเลยนะที่จะมากินร้านนี้ แถมสั่งยากอีกต่างหาก ไม่อร่อยมีเคืองอ่ะ…

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_86

ลองชิมดูคำแรก เห้ย…อร่อยแฮะ

สรุปว่า กินกันไปหลายจานเลยมื้อนี้…

ออกมาหัวเปียกเหงื่อ ตัวเหม็นมากกก ไม่สามารถลุยไหนต่อได้

เลยนั่งรถไฟกลับโรงแรมค่ะ  ถ้าเทียบแล้ว เราชอบที่ Sapporo Bier Garten มากกว่านะ

บริการดี อาหารอร่อย บรรยากาศดีกว่า

แต่…ที่ Daruma พูดได้เลยว่าเนื้อเค้าถึงแม้จะไม่ได้นุ่ม หรือดีเท่า Bier Garten

แต่เนื้อแกะเค้าไม่มีความเหม็นเลย อร่อยมาก

ความอร่อย : 9.5/10

ความสะอาด, บรรยากาศ : 5/10

การบริการ : 5/10

ความพึงพอใจโดยรวม  C+

.

.

วันรุ่งขึ้น เราก็บินกลับกรุงเทพค่ะ

ก่อนกลับแน่นอนว่าต้องกวาดซื้อขนมนมเนย ของฝากทั้งหลาย

ซึ่งในหนังสือนำเที่ยวของหลายๆเล่ม เค้าเขียนว่า มีร้านค้ามากมาย

เหมือนยกตลาดมาในแอร์พอร์ต ไอ้เราก็คิดว่าคงเหมือนกับแอร์พอร์ตที่อื่นๆ

ทั้งในไทย และญี่ปุ่น ที่ต้องผ่านตม.เข้าไปก่อน จึงจะมีร้านค้า

และร้านค้าด้านนอก ของเหมือนกับด้านในดิวตี้ฟรีแต่แพงกว่า

ประกอบกับแอร์พอร์ตที่นี่เช็คอินไกลจากสถานีรถไฟมาก กลัวจะไม่ทัน

เพราะขั้นตอนตรวจกระเป๋าสัมภาระทั้งหลาย บางที่ต่อคิวนานมากกก

เสียเวลาต่อคิวตรวจกันเป็นชม.

ทุกคนเลยพุ่งตัวไปที่เช็คอินก่อน แต่………………………..

ไม่มี! ไม่มีการแสกนสัมภาระเหมือนแอร์พอร์ตอื่น เช็คอินได้เลย

หลังจากเช็คอิน ผ่านตม.แล้วก็รีบจะวิ่งไปดิวตี้ฟรี แต่……………………

พระเจ้า….อย่าบอกนะว่า ไอ้บูทเล็กๆนั่นคือดิวตี้ฟรี !?!

ก่อนหน้านี้เราเคยมาที่ฮอกไกโด แต่ไม่ได้ลงที่จุดนี้ เราใช้ Airdo เป็น Domestic

เลยไม่ได้รู้ว่า ไอ้ที่วิ่งผ่านร้านค้ามากมายข้างนอกนั่นแหละ

คือ “ตลาดในแอร์พอร์ต” ที่เค้าว่ากัน กรี๊ดดดด ม่ายยยย… FAIL กันหลายคนเลยล่ะ

LeTAO ที่จะซื้อกลับมาก็..อด ขนมต่างๆที่จะซื้อก็ อด…

โชคดีที่ยังพอมีของดังๆขายในนี้บ้าง สิ่งที่หอบกลับมาก็มีประมาณนี้ค่ะ

(รวมที่ซื้อที่ PLAZA ใกล้ๆรร.ในฮาโกะดาเตะด้วย)

Kirari trip_Hokkaido_hakodate_89

ที่บ้านเราก็บินไปหลายประเทศ ในญี่ปุ่นเองก็ไปมาหลายแอร์พอร์ต

นี่เป็นครั้งแรกที่เจอดิวตี้ฟรี ที่เล็กที่สุด น้อยที่สุดเท่าที่เจอมา

(แน่สิ มันอยู่ข้างนอกหมดแล้วนี่นา)

แต่ถ้าใครที่บินโตเกียว โอซาก้า ฟุกุโอกะ ไม่ต้องซื้อด้านนอกนะคะ เพราะแพงกว่า 5%

ให้ซื้อหลังผ่าน ตม. ค่ะ มีดิวตี้ฟรีขายของมากมาย

.

.

จบทริปนี้ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ความสุขกับอาหารซีฟู้ด

และทิวทรรศน์ที่งดงามของฮอกไกโดในฤดูร้อน

เมื่อได้ไปครั้งนึงแล้ว ก็เริ่มลังเลเลยว่า ฮอกไกโดครั้งหน้า ไปหน้าหนาว หรือหน้าร้อนดี

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ชอบฮอกไกโดหน้าหนาวตอน Snow fest. มากๆ

แต่เมื่อได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศหน้าร้อนของที่นี่แล้ว ติดใจกันทุกคนแน่นอนค่ะ

.

.

แล้วพบกับไดอารี่พาเที่ยวในครั้งหน้านะคะ

ปลายปีนี้ ตะลุยโตเกียวกันอีกหลายรอบ จะทำการบ้านหาร้านเด็ดๆมาแนะนำกันอีกค่ะ

See you soon…

.

.

.

Related Posts

hokkaido_day1

hokkaido_day2

hokkaido_day3

hokkaido_day4

.

.

ย้อนอ่านบทความท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตอนอื่นๆได้ที่นี่

japan diary

 

31 replies »

  1. รบกวนสอบถามพิกัดร้านดงบุริ sushidohoro Hakodate หน่อยค่า อยากตามรอยค่ะ ไม่ทราบว่ามีภาพหน้าร้านไหมคะ ขอบคุณค่ะ

  2. สวัสดีค่ะ ขอสอบถามคุณแป้งหน่อยนะคะ ไม่ทราบว่าจองโรงแรมนี้ล่วงหน้ากี่เดือนคะ
    เรามีแพลนจะไปฮอกไกโดและเที่ยวฮะโกะดาเตะกลางเดือนกรกฏาคมเหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ

  3. สอบถามนิดนึงค่า
    ถ้าซื้อ hokkaido rail pass อะค่ะ ซื้อจากไทยหรือไปซื้อที่สนามบินก็ได้หรือเปล่าคะ

    แล้วไม่ทราบจองรอบรถไฟล่วงหน้ายังไงคะ ดูในเว็บมีแต่ข้อมูลราคา แต่หาจุดให้จองไม่เจอค่า

    ขอบคุณมากค่า 🙂

    • ซื้อจากไทยค่ะจะได้เป็นตั๋วแลก นำไปแลกที่จุดบริการ JR ค่ะ จะเป็นเคาท์เตอร์หรือห้องสีเขียวๆค่ะ
      พอไปแลกได้พาสมาแล้ว ถึงจะจองรถไฟได้ค่ะ ส่วนการจองก็จองตรงที่แลกพาสได้เลย หรือจะจองที่ห้องเขียวในวันอื่นก็ได้ค่ะ

      • ก็คือ ขาไปจะจองล่วงหน้าไม่ได้ แต่สามารถจองล่วงหน้าของขากลับได้ใช่มั้ยคะ

      • ไม่เข้าใจคำถามอ่ะค่ะ ขาไป ไป Hakodate เหรอคะ? หรือว่าไปที่ไหนคะ
        คือมันจองล่วงหน้าได้ทั้งหมดค่ะ จองไปเลยหลายๆวันก็ได้เช่นกันค่ะ เราทำตั๋วจองทั้งหมดในวันแรกที่ไปถึงเลยค่ะ

      • คือว่า ไปถึง sapporo แล้ว จะต่อรถไฟไป hakodate เลยน่ะค่ะ ดังนั้น ถ้าไปแลกตั๋วได้ที่โน่น ก็เท่ากับจองล่วงหน้าขาไป hakodate ไม่ได้ใช่มั้ยคะ แต่จองล่วงหน้าของขากลับได้

        ขอบคุณค่า

      • ถามเพิ่มเติมอีกนิดค่า

        http://www2.jrhokkaido.co.jp/global/english/pticket/index.html

        ถ้าอันนี้ round trip แปลว่า sapporo-hakodate hakodate-sapporo เท่านั้น ถ้าแวะระหว่างทาง ไม่ได้เลยใช่มั้ยคะ ต้องซื้อเปน pass ถึงจะแวะยังไงก็ได้ ใช่หรือเปล่าคะ

        แล้วไม่ทราบเช็คค่าตั๋วราคาปกติที่เว็บไหนหรอคะ

        ขอบคุณมากๆเลยค่า ขออภัยที่รบกวนหลายรอบนะค้า >,<

  4. คุณแป้ง รบกวนถามทางร้านดารุมะ หน่อยค่ะ ที่บอกว่าให้สังเกตอาคาร สังเกต อาคาร すすきの寿ビル ร้านอยู่ซอยข้างๆอาคารนี้หรอคะ

    • ร้านนี้ไปครั้งแรกก็งงค่ะ หาไม่เจอ บอกตรงๆว่าจะไม่ได้แล้วค่ะ ตอนที่ไปคือคนญี่ปุ่นพาเดินไปถึงที่เลย เพราะเดินวนหลายรอบจนเค้าสงสาร

  5. จะไป Hokaido ช่วง 4-10 พ.ค.นี้ ไม่ทราบว่าถ้าไป Furano , Biei. จะมีดอกไม้สวยๆให้ชมหรือยังคะ

  6. ขอสอบถามนิดนึงค่ะ ที่คิดไว้จะไปเมืองเดียวกะคุณแป้งเลยคือ otaru, hakodate furano biei sapporo แต่ดู pass 3 วัน ไม่ทราบแบบคุณแป้ง activiate pass วันไหน สิ้นสุดวันไหนอะคะ เพราะดูแล้วคงต้องมี route ที่ pass cover ไม่ได้ ขอบคุณค่า*+*

    • Otaru ไม่ใช้พาสค่ะ เพราะการเดินทางใกล้ๆ และเค้าก็มี Otaru pass รองรับอยู่แล้วค่ะ

  7. รบกวนถามหน่อยค๊าบ ที่นี่ มีตัวแบบอื่นที่ไม่ใช่ jr มั้ยครับ
    เพราะไปไม่กี่วัน. แล้วก็ไปแค่ otaru กับ norboribitsu อะครับ

  8. สอบถามนิสนึงนะค่ะ คือ กรณีเราจะไป FURANO BIEI ASAHIKAWA ต้องจองที่นั่งก่อนชะมะค่ะ ถ้าไม่จองจะมีปัญหาปะค่ะ

  9. ไปฮอกไกโด 6 วัน ซื้อ hokkaido rail pass แบบ 5 วัน คุ้มกว่าซื้อแต่ละเมืองแยกๆกันมั้ยคะ แล้วรถ twinkle bus ที่ฟุราโน่-เบอิ โอเคมั้ยคะ ได้ยินมาว่าเป็นแบบชะโงกทัวร์

    • ต้องคำนวนการเดินทางเอาเองค่าว่าไปไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ ถ้ามันเกินราคาพาสก็คุ้มค่ะ ส่วน twinkle คอร์สนี้เวลาไม่เยอะค่ะ ไปได้ทั่ว ถ้าเช่ารถขับเองก็คงดีกว่าค่ะ มีเวลาแต่และที่ 15-30 ค่ะ

  10. พี่แป้งค่ะ ตั๋ว3วัน เราซื้อจากไทยแล้วไปแลกตั๋วที่สนามบินใช่มั้ยค่ะและเราสามารถจองเที่ยวรถไฟในเวลาที่ต้องการตรงที่แลกตั๋วได้เลยไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • ได้เลยค่ะ พี่ไปแลกตั๋วปุ้ปก็จองรถไฟตลอดทั้งทริปเลยค่ะ ใช้เวลาเกือบชม.ในการเลือกเที่ยวรถทั้งหมด ต้องเก็บดีๆ กลัวหายทั้งปึก

  11. ดีคะ อ่านแล้วน่าไปมากเลย แต่สงสัยจัง ว่า jr hokkaido นั่ง รถไฟขบวนไหนได้บ้าง คือชื่อขบวนของjr อะคะ เช่น super hohuto หรือ super kamui พวกนี้ไป็น jr ขึ้นได้หมดเลยเหรอคะ

  12. ชอบค่ะ อ่านแล้วน่ารักมาก นางแบบสวย
    จะขอตามไปแบบนี้ช่วงกค 57
    รบกวนแนะนำที่พักที่sapporo และ hakodathe จะดีใจมากๆ ค่ะ

    • มีหลายราคาเลยค่ะ ถ้าเอาไม่แพงมากแนะนำ Toyoko Inn ค่ะ เพราะขึ้นรถไฟสะดวกสุดๆ มันใกล้สถานีทุกที่เลยค่ะ ส่วน Hakodate แนะนำ Toyoko Inn เท่านั้นเลย เพราะลงมาปุ้ป หน้าโรงแรมเป็นตลาดเช้าค่ะ สะดวกที่สุดแล้ว

  13. พี่แป้งคะ ทำไมของฝากที่สนามบินถึงมีน้อยอ่ะคะ หรือว่าอยู่ฝั่งdomestic?

    • ร้านของฝากจริงๆมีเยอะมากค่ะ แต่อยู่ด้านนอกก่อนเข้าตม. ซึ่งวันนั้นไปช้าแล้ว กลัวว่าขั้นตอนตม.จะนานเลยวิ่งผ่านไป กะว่าจะเข้าไปซื้อด้านใน แต่กลายเป็นว่าของน้อยมากๆๆๆๆค่ะ

Leave a Reply