(VDO – Hokkaidao Trip [HD] http://www.youtube.com/watch?v=yxnjJ23ImkU)
กลับมาอีกครั้งกับทริปฮอกไกโดค่ะ เมื่อครั้งก่อนโน้นเราเคยไปเมื่อ Snow Fest.
เมื่อปี 2006 ตอนนั้นยังไม่มี Direct Flight คนไทยน้อยมากๆ เพราะเดินทางลำบาก
รอบนี้เมื่อปลายเดือนกค.ที่ผ่านมา เรากับครอบครัวไปตะลุยฮอกไกโดกันในหน้าร้อน
ซึ่งตอนนี้การบินไทยบินตรงเลย สะดวกมากๆค่ะ และในเดือน 7-8 นี้
เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ PEAK ที่สุดของการท่องเที่ยวฮอกไกโดเลย
ตามที่หลายๆคนรีเควสมาใน Facebook ว่าขอแบบละเอียดยิบๆ
ชนิดว่าลอกการบ้านได้เลย ครั้งนี้จัดให้ค่ะ รับรองว่าไปไม่ยาก และสนุกมากๆ
ไม่แพ้ทริปตะลุยหนาวที่ฮอกแน่นอนค่ะ
(PS. Blog ท่องเที่ยวนี้รูปจะเยอะหน่อยนะคะ อาจจะใช้เวลาโหลดค่อนข้างนานค่ะ)
Tips : ในบล๊อกนี้แป้งใส่ชื่อสถานที่เป็นภาษาญี่ปุ่นให้ด้วย แนะนำให้ Copy
และปริ้นท์เก็บไว้ เพราะเจอปัญหาว่าศัพท์อังกฤษที่คนต่างชาติ
หรือคนไทยเขียนในหนังสือนำเที่ยว
กับคำที่คนท้องที่เค้าพูดกัน มันเป็นคนละคำค่ะ
.
Summer Trip Plan
Day 1: Sapporo เดินเล่นย่านกลางใจเมือง
Day 2: Otaru เมืองท่าเก่าแก่ บรรยากาศโรแมนติก
Day 3: Furano, Biei ตะลุยทุ่งดอกไม้
Day 4: Hakodate ชมวิวที่สวยสุด Top3 ในญี่ปุ่น, อาหารทะเลขั้นเทพ
Day 5: Hakodate + Down town Sapporo
Day 6: Back to BKK
.
.
การเดินทางสู่ฮอกไกโด : TG670 BKK-CTS
เราออกเดินทางด้วยการบินไทย ในหนึ่งวันจะมีเพียงไฟลท์เดียวเท่านั้นค่ะ
ดังนั้นต้องจองล่วงหน้านานๆเลยค่ะ
ออกเดินทางวันที่ 25 JUL 13 (THU) เวลา 23:45 ไปถึงที่สนามบิน New Chitose
ในวันรุ่งขึ้นค่ะ 26 JUL 13 (FRI) เวลา 08:30 ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชม.กว่าๆ
จากสนามบิน New Chitose เราก็กลับที่พักที่อยู่ในซัปโปโรด้วยรถไฟค่ะ
ระหว่างทางเดิน มีร้านค้ามากมาย แล้วก็โดนจนได้กับ Kumamon พูดได้
ครั้งก่อนที่ไป Kumamoto เมื่อช่วงเมษาที่ผ่านมา ไอเท็มนี้ยังไม่วางขายค่ะ
เป็นคุมาม่อนที่เลียนแบบเสียงที่เราพูด ตลกมากๆ
แบบวิดิโอ… ดูที่นี่ได้ค่ะ Talking Kumamon
.
.
การเดินทางจาก New Chitose AP –> Sapporo Station
(กดที่ภาพเพื่อขยายได้ค่ะ หรือจะคลิกขวาและเลือก Open in a new tab จะสะดวกกว่า)
รถไฟ JR ที่วิ่งเข้าเมือง จะมาเรื่อยๆค่ะ น่าจะประมาณทุกๆ 15 นาที
ใช้เวลาเดินทาง 36 นาที ค่าโดยสาร 1,340 เยนค่ะ
.
.
หลังจากไปถึงแล้ว สิ่งแรกที่เราทำคือ…. ไปที่ Information และแลกตั๋ว
Hokkaido Rail Pass, จองรถไฟทุกทริปที่จะเดินทาง โดยเฉพาะถ้าใครที่จะไป
Hakodate แนะนำให้รีบจองแต่เนิ่นๆเพราะรถไฟเต็มค่ะ เราจองล่วงหน้า 3 วัน
จากเดิมที่อยากได้เที่ยว 10 โมง ที่เต็มหมด ได้รอบเช้าสุดคือ 7 โมง
แถมเหลือแค่ 7 ที่สุดท้าย ต้องแยกนั่งกันทุกคนเลย
แต่เรื่องราวมีมากกว่านั้นค่ะ รอติดตามอ่านในทริป Hakodate ในวันถัดๆไปค่ะ
Tips: ตั๋วรถไฟสามารถจองได้ทุกขบวนยกเว้น Local ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ถ้าใช้ Pass ค่ะ การซื้อ pass สามารถซื้อได้ทั้งที่ไทย และที่ญี่ปุ่น แต่เพื่อความไม่เสียเวลา
แนะนำให้ซื้อที่ไทย เพราะตอนออกตั๋วใช้เวลาพอสมควร
เราซื้อแบบ 3 วัน 15,000 JPY (4,800 บาท) ตอนไปแลกพาส
ให้ระบุให้ดีว่าเริ่มใช้เมื่อไหร่ เรื่องตั๋วรถไฟเช่นกัน ให้ระบุดีดีว่าเดินทางวันไหน
เพราะเราเจอเคสคนจีนที่จองตั๋วผิดวันที่นั่งซ้อนกับเรามาแล้วค่ะ
.
.
เราใช้เวลาค่อนข้างนานพอควรในการแลกตั๋วรถไฟแบบจองที่นั่งของทั้งทริป
(ขนาดใช้ภาษาญี่ปุ่นนะ) แต่ก็ไม่ต้องกลัวเพราะจนท.พูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี
.
.
หลังจากแลกตั๋ว เช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปหาอะไรทานมื้อเที่ยง
ที่เล็งไว้นั่นก็คือ “Ramen Republic” 札幌らーめん共和国
ที่นี่เป็นแหล่งรวมราเมงชื่อดัง 8 ร้าน อยู่ในห้างเดินทางสะดวก
How to go: ชั้น 10 ห้าง ESTA (ห้างติดกับ JR Sapporo)
เดินดูอยู่หลายร้าน ก็เห็นร้านนี้ Ajisai あじさい
ร้านนี้เป็นร้านดังที่มีสาขาอยู่มาก ออริจินัลจะอยู่ที่ Hakodate ค่ะ
ราเมงขึ้นชื่อของ Hakodate ก็เป็น Shio Ramen (เกลือ)
ส่วนที่ Sapporo จะเป็น Miso Ramen (เต้าเจี้ยว)
หิวแล้ว อยากลอง แถมร้านนี้คนเยอะสุด คิวยาว ก็เลยขอเลือกร้านนี้ประเดิมมื้อแรกก่อนเลย
มาดูหน้าตาของจริงกันบ้าง เริ่มจาก Miso Ramen
รางเมงของคนญี่ปุ่น ชามใหญ่ม๊ากกกกกกค่ะ ราคาพอๆกับไทย แต่ไซส์ต่างกันจริงๆ
แบบมิโซะก็จะมีสองแบบให้เลือกอีก ชามนี้เป็นแบบไม่ใส่กระเทียม
ส่วนชามนี้แบบใส่กระเทียม ↓
รางเมงแกงกะหรี่ก็มีนะ ↓
และเมนูดังของร้านนั่นก็คือ Shio Ramen ค่ะ
Kirari’s Review: โดยรวมอร่อยค่ะ ชามใหญ่ ราคาไม่แพง น้ำซุปเข้มข้น
เนื้อชาชูนิ่มใช้ได้ บรรยากาศดี ร้านสะอาด บริการเร็วค่ะ
ความอร่อย : 8/10
ความสะอาด, บรรยากาศ : 8/10
การบริการ : 8/10
ความพึงพอใจโดยรวม B-
.
.
เมื่ออิ่มแล้วก็เดินเล่นในตัวเมืองกันค่ะ เนื่องจากช่วงที่เราไป มีความกดอากาศเข้าพอดี
ทำให้อากาศแปรปรวน และฝนตกสลับแดดออกตลอดทริป
ช่วงบ่ายๆอากาศค่อนข้างดี เลยรีบไปต่อที่จุดชมวิว JR Tower T38
How to go: JR Sapporo Station ขึ้นไปชั้น 6 เพื่อซื้อบัตรขึ้นไปที่ 38F
เมื่อไปถึงหน้า Lobby ก็จะมีจอให้ชมว่าเมื่อขึ้นไปแล้วจะเห็นประมาณไหน
ที่นี่มีให้ซื้อค่าเมมเบอร์รายปีซะด้วย
ค่าเข้าชมคนละ 700 เยนค่ะ ถ้าอายุเกิน 60 ก็จะลดเหลือ 600 เยนค่ะ
เมื่อขึ้นมาแล้วบรรยากาศโปรงมาก มีเก้าอี้ให้นั่งชมวิว จิบกาแฟเก๋ๆด้วย
.
.
หลังจากชมวิวได้ประมาณ ชม.นึง ก็ออกเดินทางไป Chocolate Factory
白い恋人パーク ที่นี่เป็นโรงงานทำช็อกโกแล็ตที่มีชื่อมากที่สุดในฮอกไกโด
และเป็นขนมที่ถูกจัดอันดับว่า มีชื่อมากที่สุดของญี่ปุ่น และในเอเชียค่ะ
ใครได้ลองชิมก็คงจะรู้ดีว่า เค้าประณีตในการจัดทำ ทั้งแพคเกจ รสชาิดที่หอมหวาน
ในโรงงานแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสามารถเข้าชมไลน์การผลิตได้ด้วย
How to go: Subway (Tozai Line) Miyanosawa Station Exit 2
ค่ารถไฟ 280 เยน ใช้เวลา 16 นาที
เดินออกจากสถานีเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Miyanosawa 1 jo dori เดินต่อ 2 บล๊อค (300m)
เลี้ยวขวาตรงไป 160 m
Glass House ที่นี่สวยดีค่ะ คงเหมาะกับช่วงหน้าหนาวมากกว่า
เพราะด้านในจะอุ่นมาก ตอนที่เราไปนี่ก็อากาศชิลๆ 25-29 องศาค่ะ
พอเข้าไปนี่เหงื่อแทบแตกแน่ะ
ที่นี่เมือถึงเวลาก็จะมีตุ๊กตาออกมาร้องเพลง เต้นรำ
เรียกความสนใจของนักท่องเที่ยวได้ดี
บูธเล็กๆนี้ขายไอศครีมค่ะ มีหลายรส แต่จะมีรสที่เป็น Limited for Summer
นั่นก็คือรสกุหลาบ ซึ่งผสมกลีบกุหลาบลงไปด้วย หอมหวานมากๆ
ใครอยากนั่งรถไฟรอบๆก็มีระยะทางสั้นๆให้ได้นั่งกันเพลินๆค่ะ
ส่วนมุมนี้ ↓ เดินหาตั้งนาน มันอยู่มุมสุดถนนฝั่งที่จอดรถค่ะ
เอ้า…ช่วยเค้าดันกันหน่อยยยย….
.
หลังจากเสร็จภารกิจแล้วก็เดินทางกลับมาเดินเล่นที่ตัวเมือง Sapporo กันต่อ
“Sapporo Clock Tower” 札幌市時計台
หอนฬิกาเก่าแก่ อาคารเป็นทรงไม้สีขาว ครั้งก่อนที่เรามาถูกปกคลุมด้วยหิมะ
มองอะไรไม่เห็นเลย ครั้งนี้ได้เห็นเต็มๆซักที
ที่นี่จะมีแสตนถ่ายรูปค่ะ มีสวยแค่มุมนี้แหละ ก็ต่อคิวถ่ายกันได้เลยค่ะ
How to go: Subway สาย Toho/ Namboku/ Tozai สถานี Odori ทางออก 31
เดินตรงไป เลี้ยวซ้ายข้ามถนน จากนั้นเดินไปอีก 2 บล๊อค อยู่ทางขวามือ
.
หลังจากนั้นก็เดินต่อไปยัง ตึกที่ทำการรัฐบาลเก่า (ตึกแดง)
北海道庁旧本庁舎
How to go: จะเดินจากสถานี Odori ก็ได้ แต่เดินจาก Sapporo จะใกล้กว่า
JR Sapporo Exit No.10 เดินไปอีก 1 บล๊อคเลี้ยวซ้าย เดินตรงไป 120m
.
.
วันแรกมาก็เดินกันรอบเมือง เริ่มหิวซะแล้ว
มื้อเย็นนี้เตรียมไว้แล้วว่าต้องไปกินเจงกิซข่านให้ได้
และร้านที่ทุกคนแนะนำมา ก็คือที่ Sapporo Bier Garten
(ในหนังสือนำเที่ยวของไทยจะเขียนว่า Sapporo Beer Museum ค่ะ)
แต่ถ้าไปให้บอกลุงแท๊กซี่ว่า “ซัปโปโีระ บีรุ เอ็ง” サッポロビール園
*ที่ซัปโปโรจะมี Beer Garden ที่เป็นร้านอาหารกินดื่ม กับ Beer Factory
เป็นโกดังเก่า ดัดแปลงเป็นร้านค้า ต้องระวังเวลาบอกลุงแท๊กนะคะ
How to go: Taxi จะง่ายที่สุดค่ะ เพราะเดินไกลมาก ค่าแทกซี่ประมาณ 1200 เยน
โอ๊ยยย… กรี๊ดเลย บรรยากาศดีเวอร์….
ที่นี่จะมีร้านอาหารแยกตามอาคารอยู่หลายร้าน ต้องเดินไปที่ Reception ด้านในก่อน
แต่ถ้าไปแท๊กซี่ ส่วนมากเค้าจะจอดหน้า Reception อยู่แล้วค่ะ
เดินเข้าไปก็บอกเค้าว่า กินเจงกิสข่านได้เลย ที่นี่เมื่อรับบัตรคิวแล้วก็ต้องเดินเข้าไปทานเลย
แค่บอกว่าจะทานร้านไหน และกี่คนเท่านั้นเองค่ะ
เจงกิสข่านฮอลล์ค่ะ ด้านนอกก็สวยแล้ว ด้านในบรรยากาศน่านั่งมากๆ
เดินเข้ามาปุ้ป พนักงานก็รีบเอาถุงพลาสติกมาให้ บอกว่าให้รีบใส่เสื้อ
กับกระเป๋า จะได้ไม่มีกลิ่นติดไป บริการดีจัง…
หลังจากนั้นก็ดูเมนู สั่งอาหารได้เลยค่ะ
เมนูที่นี่จะเน้นเนื้อแกะ มีหมู กับไก่ด้วยค่ะ เนื้อแกะส่วนไหล่อร่อยค่ะ เหนียวนุ่มกำลังดี
(อันที่เค้าวงกรอบไว้ 1900 เยนค่ะ ส่วนราคาล่างจะเป็นราคาไม่รวมผัก)
ค่อยๆลองสั่งกันมาทีละอย่าง อันไหนอร่อยก็เพิ่มค่ะ
เนื้อแกะที่นี่มีกลิ่นค่อนข้างน้อย น้ำจิ้มอร่อยค่ะ
หอยเชลล์ตัวใหญ่มาก สด และไม่แพงเลยค่ะ (1,250 เยน)
ไม่ใช่แค่เนื้อที่อร่อย แต่เบียร์ที่นี่ก็อร่อยมากๆด้วย
แน่ล่ะ…ก็เป็นแหล่งกำเนิดนินา ใครได้มาแนะนำให้สั่ง Hokkaido Limited Draft Beer
มาลองซักแก้ว จะหวานๆ รสไม่เข้ม ดื่มง่ายมากๆ
ส่วนใครไม่ดื่มเบียร์สั่งน้ำเปล่าก็ได้ แก้วน่ารักมากกกก อยากฉกกลับมาใช้จัง
หมีน้อยตัวนี้เป็นมาสค๊อตประจำที่นี่ค่ะ
ญี่ปุ่นเมืองแห่งหมีจริงๆ
Kirari’s Review: อาหารอร่อยมาก เบียร์อร่อยมาก บรรยากาศครึกครื้น
การเดินทางอาจจะลำบากหน่อยเพราะต้องนั่งแท๊กซี่ แต่คุ้มค่าที่จะมาค่ะ
เป็นร้านที่ชอบมากๆอีกร้านเลย
ความอร่อย : 9.5/10
ความสะอาด, บรรยากาศ : 9/10
การบริการ : 9/10
ความพึงพอใจโดยรวม A
.
.
หลังจากอิ่มอร่อยกันแล้ว ก็กลับออกมาไม่ยากเลยค่ะ เพราะบริเวณข้างๆ Reception
จะมีคิวแท๊กซี่ยาวเหยียดคอยบริการ เดินทางสะดวกค่ะ
Tips: เข้าพักโรงแรมไหนก็หยิบนามบัตรรร.ติดตัวไว้ค่ะ ถ้าพูดญี่ปุ่นไม่ได้
ก็ยื่นนามบัตรรร.ให้แท๊กซี่ได้เลย ไม่หลงแน่นอน
.
.
สำหรับทริปวันแรกก็จบลงเท่านี้ค่ะ ติดตามต่อในวันต่อๆไปนะคะ
Coming Up Next: Otaru เมืองท่าเก่าแก่ ในบรรยากาศชิลๆ
.
.
.
Related Posts
.
.
ย้อนอ่านบทความท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตอนอื่นๆได้ที่นี่
Categories: Dining & Traveling
english version pleaseeeee