มาตามรีเควสค่า แจกแพลนทริป SAKURA TRIP 2019 ที่เราเพิ่งกลับมาจ้า
ปีนี้บอกเลยว่าฟินที่สุดเท่าที่ไปญี่ปุ่นมาแระ เพราะได้เจอทั้งซากุระและหิมะในเวลาเดียวกัน
หายากมากๆที่จะได้วิวแบบนี้ ถือว่าปีนี้แต้มบุญสูงจริงๆ ทริปครั้งนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมากค่ะ
กะไปพักผ่อน เลยจะใช้มือถือถ่าย กับกล้องพี่หมีแค่นั้น (Galaxy S10+ และ SONY A7iii)
รูปสวยๆดูได้ใน Instagram เลยนะคะ ส่วนใครชอบดู Vlog แบบวิดิโอ ดูได้ที่นี่เลย
ช่วงเวลาเดินทาง 8 APR 2019 – 17 APR 2019
BKK – HND
รอบนี้จองตั๋วลงที่ฮาเนดะ ตั๋วถูกกว่า แถมประหยัดค่าเดินทางจากสนามบินได้อีก
ปกติเราจะพักที่ย่าน Ikebukuro แต่รอบนี้ดูแพลนแล้ว ต้องขึ้นรถไฟรอบเช้าแถวสถานีโตเกียว
เลยเลือกพักที่ย่าน Shinagawa
มี 2 โรงแรมที่แนะนำ คือ Prince Hotel N Tower เดินข้ามถนนมาก็ถึงเลย ตึกนี้เป็นตึกใหม่
ราคาเบากว่าตึกหลัก ล้ำๆด้วยระบบหุ่นยนต์ส่งของ (คืนนึงราวๆ 4,000 – 6,000 บาท)
แต่เราปุปปัปจองตั๋วเลยห้องเต็มหมด เลยมาพักที่ Keikyu EX Hotel ไม่ไกลจากสถานีเช่นกัน ราวๆ 200 เมตร
โรงแรมนี้ห้องกว้าง เป็นจุดขายของที่นี่ (25-30 sqm) และห้องเยอะ รร.ใหญ่มาก
ล่าสุดที่เข้าพัก เรทอยู่ที่คืนละ 4,500 บาท
**แต่ถ้าใครงบน้อยกว่านี้ก็เลือก Keikyu Inn ก็ได้ เป็นรร. Business hotel ฝั่งตรงกันข้าม ห้องเล็ก
แต่ก็ถูกกว่าเยอะพอสมควร
การเดินทาง : จาก haneda เดินมาที่ Keikyu แล้วขึ้นรถไฟได้เลย แนะนำให้เลือกแบบ Rapid แค่ 13 นาทีก็ถึง
ค่าโดยสาร 410 เยน ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน
SAKURA SPOT : Inokashira Park (井の頭公園), Tokyo
ช่วงที่เราไปจู่ๆก็มีลมหนาวมาล็อคซากุระไว้ กลายเป็นว่ามันบานนานกว่าทุกๆปี
ทำให้ครั้งนี้ยังหลงเหลือให้ได้ชมกรุบกริบในโตเกียวด้วย (จริงๆช่วงเมษามันหมดแล้ว)
ก็เลยเลือกไปเดินเล่นที่ย่าน Kichijoji 吉祥寺 ย่านประจำของเรา
ซึ่งย่านนี้ถูกโหวตให้เป็นย่านน่าอยู่ที่สุดในโตเกียวมาหลายปี มันก็น่าอยู่จริงๆอ่ะ มีครบหมดเลย
ไม่แออัดเกินไป ซึ่งสวนดังของที่นี่ก็คือ Inokashira Koen (อิโนะคาชิระ โคเอ็ง)
การเดินทาง : นั่ง JR สาย CHUO สีส้มมาลงได้เลย หรือจะนั่งสาย Keio ก็ได้
สวนนี้มีเรือให้พาย มีเรือหงส์ให้ปั่นเล่น ขนาดมันร่วงโรยแล้ว ก็ยังถือว่าคนเยอะอยู่เลย
และถ้ามาที่ย่านนี้ ก็ขอแนะนำร้านเสต็กร้านนี้เลย เรทติ้งดีงามไม่ตก
STEAK HOUSE SATOU ステーキハウスさとう
ร้านเสต็กที่ใช้เนื้อคุโรเกะวากิว โดยเชฟประสบการณ์สูง อร่อยจริงๆ
ร้านค่อนข้างเล็ก แนะนำว่ามาช่วงเปิดร้านจะได้นั่ง ไม่งั้นก็ต้องยืนรอค่ะ
ของดังอีกอย่างแต่ขายด้านนอกคือคัตสึเนื้อบด แต่คิวยาวมากกก ใครไม่รีบก็ไปต่อคิวซื้อกันดู อร่อยจริงๆ
ในส่วนที่เที่ยวในโตเกียวอื่นๆ ขอข้ามไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะมาเขียนอีกที บล๊อกนี้ขอโฟกัสที่จุดชมซากุระ
มาครั้งนี้ เราซื้อ JR East Pass (Tohoku Area) ราคาคนละ 19,000 เยน จะเลือกใช้แบบ flexible day 5 วัน
พื้นที่ที่ไปได้กว้างมาก ถ้าใครเน้นคุ้มก็เที่ยวได้ทั่วเลยค่ะ แต่เราไปแค่สองเมืองเท่านั้น แต่ถึงจะไปแค่นี้
ถ้าคิดจากราคาที่คนญี่ปุ่นต้องจ่ายแล้ว ก็ถือว่าคุ้มมากๆแล้วค่ะ
คำแนะนำ : JR PASS ควรซื้อจากไทยตัวแทนที่ไหนก็ได้ราคาเท่ากัน เราซื้อจาก H.I.S ใกล้บ้าน
เมื่อไปถึง Haneda คนต่อคิวเยอะมากๆ และใช้เวลานานมากในการแลกพาส แนะนำว่าไปแลกที่ JR อื่นๆดีกว่า
**แต่ถ้าใครจะนั่ง monorail จากสนามบิน มันสามารถใช้ Pass ขึ้นฟรีได้นะ
สาย Keikyu ที่เรานั่งมา เป็นของเอกชนไม่สามารถใช้พาสได้
เมื่อแลกพาสแล้ว แนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้า เพราะคนแน่นมากๆๆๆๆ
จองอะไรได้จอง แลกตั๋วจองที่นั่งรถไฟให้เสร็จเลยค่ะ
TOKYO >> FUKUSHIMA
จังหวัดนี้เราโดนตกเข้าอย่างจัง ไปมารอบที่ 4 ในช่วงปีกว่าๆ สวยมากโดยเฉพาะ winter
ลองเข้าไปดูรูปกันได้ >> KirarixFukushima <<
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไปช่วง Spring ก็มีความตื่นเต้นเบาๆนะ
การเดินทาง : นั่งชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo (ต้นสาย) จะเลือกนั่ง Yamabiko ก็ได้ หรือ
Tsubasa ก็ได้ ไปพร้อมกัน (มันจุ๊บกันอยู่ ค่อยไปแยกสายอีกที) ลงที่สถานี Fukushima
ทางเรานั้นได้ทดลองมาแล้วจ้ะ ขาไปนั่ง Yamabiko ขากลับนั่ง Tsubasa
สรุปว่า… Yamabiko ที่นั่งกว้างกว่า สบายกว่า ใหม่กว่า Tsubasa
แต่ทั้งคู่ไม่มีจุดเก็บกระเป๋าเดินทางทั้งคู่นะ ใบใหญ่ใช้วิธีวางนอนที่ตรงทางเชื่อมเอา
ดูไม่ปลอดภัยสุดๆ แต่มันไม่มีที่ไว้ และจนท.ก็บอกให้วางแหมะตรงนี้แหละ
ในรถไฟไม่มีเบนโตะขาย แนะนำว่าซื้อเอาขึ้นไปทานได้เลย
เมื่อมาถึงเราก็เช็คอินที่โรงแรมค่ะ ไม่มีโรงแรมไหนจะใกล้เท่าที่นี่แล้ว แนะนำเลย
JR-EAST Hotel Mets Fukushima
รร.นี้เป็นตึกที่ติดกับ JR Fukushima station เลย (East Exit) สะดวกสุดๆ แนะนำพักแบบ Twin Room
จะได้ห้องที่กว้าง คืนนึงราวๆ 3,000 บาทรวมอาหารเช้า รร.ที่จังหวัดนี้คือราคาน่าร๊ากกก
ด้านล่างโรงแรมจะมีร้านเกี๊ยวซ่าที่ดังม๊ากกก คนแน่นตลอดเวลาอยู่ แนะนำให้มาลอง
Gyoza Terui 餃子 照井 福島駅東口店
ร้านนี้จะเป็นเกี๊ยวซ่าแบบเอ็มบัน (ถาดกลม) เป็นเกี๊ยวซ่าขึ้นชื่อของจังหวัดฟุคุชิม่า
ใครจะทานร้านนี้ต้องทำใจรอนานหน่อย ขนาดเราไปรอบคนไม่แน่นล้นออกมาหน้าร้าน
ก็ยืนรอเกือบครึ่งชม.ได้ แต่อร่อยคุ้มค่ารอค่ะ
*ร้านเปิดปิดเป็นรอบๆนะ รอบเที่ยง กับรอบเย็น
เราสั่งแบบจานใหญ่ 22 ชิ้น 1,300 เยน
กินอิ่มแล้วก็เดินไปขึ้นบัสค่ะ ไม่ต้องจองอะไรเลย สังเกตป้ายซากุระ และจนท.ยืนประกาศ
จะเป็น shuttle bus วิ่งตรงไปที่สวน Hanamiyama ค่ารถไปกลับ 500 เยนเท่านั้นเอง
SAKURA SPOT : Hanamiyama Park 花見山公園, Fukushima
สวนนี้เป็นสวนดังอันดับต้นๆของจังหวัด และเป็นสวนที่มีดอกไม้กว่า 70 พันธุ์ที่ปลูกอยู่
คนไทยจะรู้จักในนาม “หุบเขาสีชมพู” เราลัคกี้มากๆได้มาจังหวะดี เมื่อวานพายุหิมะลง อากาศปิด
แต่วันนี้หิมะหยุด และฟ้าเปิด ทำให้ได้วิวฟรุ้งฟริ้ง สีสันน่ารักแบบนี้
สวนนี้ไม่มีค่าเข้าค่ะ ชาวบ้านและอาสา ช่วยกันดูแล ทุกคนน่ารักมากๆๆๆๆ
จากด้านล่างก็ว่าสวยแล้ว ใครมีเวลาก็แนะนำเดินขึ้นเขาค่ะ
จะมีคอร์สให้เลือก 30-45-60 นาที เราถามคุณป้าแนะนำเส้นทาง
เค้าบอกว่าคอร์ส 30 นาทีกับ 60 นาทีสวย แต่… 60 เนี่ยมันจะมีทางชันมากๆ (ตรงเบอร์ 5)
ต้องใส่รองเท้าผ้าใบ และวันนี้ไม่แนะนำนะ เพราะหิมะยังเหลืออยู่ มันลื่น เราก็เลยเลือกคอร์ส 30 นาทีชิลๆ
รูประหว่างทาง ประมาณนี้ค่ะ
SAKURA SPOT : Ogawara Sakura Festival 2019, Miyagi
จุดนี้มีหลายชื่อเรียกค่ะ บางคนก็จะเรียกว่า Shiroishi Riverside หรือถ้าเป็นคนญี่ปุ่น
จะเรียกกันว่า “Hitome Senbonzakura” 一目千本桜 ฮิโตเมะ เซ็งบงซากุระ
ช่วงเทศกาล 3 April – 18 April 2019
Map: https://goo.gl/maps/io3bd631GEmjTZJA7
จุดนี้จะมีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้น ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ Shiroishi (ชิโรอิชิ) ระยะทาง 8 กม.
และแต่ละต้นมีอายุมากกว่า 80 ปี ทำให้มีกิ่งก้านที่สวยงาม อลังการมากๆ
ตอนแรกก็คิดว่าทางจังหวัดเป็นคนมาปลูกไว้ แต่พอเข้าไปอ่านความเป็นมาแล้วไม่ใช่เลย
ต้นซากุระสองฝั่งแม่น้ำนั้นเกิดจากเกษตรกรท้องถิ่น คุณ Takayama Kaijiro ได้ปลูกไว้ในปี 1923
ด้วยความรู้สึกที่อยากทำให้เป็นจุดชมซากุระของบ้านเกิด สุดยอดจริงๆ
การเดินทาง : จากสถานี Fukushima นั่ง JR มาลงที่สถานี Ogawara
ใช้เวลา 41 นาที แล้วเดินต่อราวๆ 300 เมตร
Route ที่แนะนำ : นั่งมาลงที่ Ogawara แล้วเดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ จนถึง Fukaokajoshi Park
ขึ้น Slope car เพื่อชมวิวด้านบน แล้วขากลับเดินต่อไปยังสถานี Funaoka Station เพื่อนั่ง JR กลับ
จุดนี้เป็นจุดที่พีคคคคมาก แม้ว่าวันนี้อากาศจะแปรปรวน เมฆเยอะ แดดมาๆหายๆ ก็ยังสวย
การชมซากุระสไตล์เราคือหอบเสื่อ หอบของกินไปปิคนิคค่ะ แต่สวนนี้บอกเลยไม่ต้องหอบของกินมานะ
เพราะเป็นเทศกาลเลยล่ะ ของกินเพียบบบบ
เราชอบต้นซากุระที่นี่มาก เพราะสูงใหญ่ สวย และกิ่งก้านโน้มมาตามแนวเนิน เหมือนเป็นอุโมงค์ซากุระ
ใครเดินมากไม่ไหว ก็แนะนำให้เดินกลับไปยังสถานีก็ได้ค่ะ
แล้วนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Funaoka แล้วเดินมายัง Funaokajoshi Koen
แต่ส่วนตัวเราว่าอาจจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ สู้เดินไปเลยดีกว่า ไกลขึ้นอีกหน่อย
SAKURA SPOT : Funaokajoshi Koen 船岡城址公園, Miyagi
หรือชื่อในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Funaoka Castle Ruin Park
Map: https://goo.gl/maps/2iDFV3eVtNyqocEZ8
จุดนี้ก็เป็นอีกไฮไลท์ที่หลายๆคนต้องมา เพราะจะเป็นจุดที่เราสามารถขึ้นยอดเขา
ไปชมวิวของเมืองได้ และยังได้เห็น Mt.Zao ด้วย
การเดินทาง : ลงที่สถานี Funaoka จะใกล้สุด เดินราวๆ 15 นาที (1 กม.)
แต่เราเดินมาจากสถานี Ogawara เลียบแม่น้ำมา ระยะทางรวมๆ 3 กม.
วันนี้ใช้พลังงานเยอะมาก แต่ลืมเหนื่อยเพราะวิวสวยมากจริงๆ
เมื่อมาที่นี่แล้ว แนะนำให้ขึ้น Slope Car จะซื้อขาเดียวแบบเราก็ได้
ขากลับจะได้เดินชิลๆชมวิวลงมา
คำแนะนำ : เมื่อเดินมาถึง ยังไม่ต้องต่อคิว ต้องเดินไปซื้อตั๋วก่อน แล้วค่อยมาต่อคิวนะคะ
คิวยาวเป็นปกติ เราใช้เวลารอคิวราวๆ 30-40 นาที
ระยะทางของอุโมงค์ซากุระแค่ 300 เมตรเท่านั้น แต่รถมันช้าาาาาาา ช้าาาาาามากกก มากจริงๆ
ไม่ต้องกลัวถ่ายรูปไม่ทัน ได้ทุกช็อตเลยล่ะ
วันนี้ขึ้นไปเจอน้องเก้า เลยขอแชะเป็นที่ระลึก
มุมตรงนี้คือต้องมานะคะ เจ้าหินก้อนนี้มุมดีสุดๆๆๆๆๆ
พอเดินขึ้นไปก็จะมีเจ้าแม่กวนอิมค่ะ แวะขึ้นไปสักการะกันได้
วันถัดมา ลังเลๆว่าจะไปต่อที่ Koriyama ดีมั้ย (Fukushima) เพราะ full bloom กำลังสวย
แต่สำหรับปีนี้ 2-3 จุดที่เราแวะนั้นก็พีคมากๆแล้ว เลยจบแค่นี้
เดินทางกลับโตเกียวไปเที่ยว ไปช้อปกันต่อ
ปกติเวลาเราไปโตเกียวก็จะพักย่าน Ikebukuro อย่างที่บอกไป
รอบนี้ก็เลยจองรร.ประจำที่พัก ก็คือ The B Ikebukuro
เดินทางสะดวกสุดๆ และรอบๆก็ไม่อดตาย ของขายเพียบ คืนนึงราว 4,700 บาท
(เราเลือกห้องกว้างหน่อย แบบ Superior Double ถ้าเป็น type อื่นจะแคบกว่า)
แต่สำหรับคนไปครั้งแรกๆ อาจจะไม่ชอบย่านนี้นะคะ เพราะเดินยาก ทางออกเยอะ คนเยอะ
แต่เราชอบมาก อยู่จนชินตั้งแต่สมัยเรียนแล้วล่ะ
ขากลับถ้าไม่ได้พักโซนสถานี Tokyo ก็กลับแบบเราก็ได้ค่ะ ลงที่ Omiya แล้วต่อรถไฟสาย Shonan-Shinjuku
จอดป้ายน้อยมากๆ ถือว่าเร็วเลยล่ะ ไปที่ Ike จอดแค่ 4 ป้ายเอง
สำหรับที่เที่ยวอื่นๆในโตเกียว เดี๋ยวจะมาทยอยเล่าให้ฟังนะคะ
พักหลังเน้นพักผ่อน ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาฝากกัน แต่รีเควสกันมาเยอะมาก จัดให้แล้วนะ หวังว่าจะถูกใจกัน
See you next Trip!
Categories: Dining & Traveling, Kirari TV, Travel trip