ในที่สุดก็ได้ลงใต้ไปคิวชูซักครั้ง ปีนี้ที่บ้านชวนไป Fukuoka
ก็เลยได้โอกาสดีไปเที่ยวเมืองนี้ดูบ้าง เพราะตอนที่เรียนเราก็ไม่ได้ลงใต้มาถึงคิวชูเลย
ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้ไปคิวชูค่ะ และยิ่งรู้มาว่า Fukuoka เป็นเมืองที่ได้รับการโหวตว่า
เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเอเชีย ก็เลยยิ่งอยากไปเลยล่ะ
ทริปครั้งนี้มีเวลาไม่มาก เพราะลางานได้ไม่เยอะ เราเลยไปได้แค่ 5 วัน 4 คืนค่ะ
แต่เป็นทริปสั้นๆที่สวย อร่อย สนุกมากๆ
ก่อนการเดินทาง เราแทบไม่มีเวลาเตรียมตัวมากว่าจะไปไหน
งานเยอะสุดๆ แต่ก็โชคดีเพราะคุณพ่อเป็นคนที่ชอบหาข้อมูล ก็เลยช่วยกันหาที่เที่ยว
ส่วนเราเน้นเรื่องการเดินทาง เพราะตารางเวลา ข้อมูลต่างๆส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่น
เราชอบใช้เวบ Jorudan ซึ่งแค่พิมพ์ว่าจะไปสถานีไหน จากสถานีไหน ก็จะจัดการบอก
ตารางเวลารถไฟ พร้อมข้อมูลต่างๆ ทั้งระยะทาง เวลา จำนวนการเปลี่ยนสายให้เสร็จ
เวบนี้เราใช้ตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว ตอนนี้หน้าตาก็แทบไม่เปลี่ยนแปลง เลยรู้สึกว่าเป็นเวบที่
ใช้ง่ายที่สุดนะ ไม่รู้เป็นเพราะความคุ้นเคยหรือเปล่า…
.
.
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
ก่อนเดินทางแนะนำให้เช็คสภาพอากาศตอนใกล้ๆไป ซัก 1 สัปดาห์
เวบที่เราว่าแม่นสุดก็คงเป็น Yahoo Japan ค่ะ แต่แม้ว่าจะดูแล้วก็ยังมีอากาศเหวี่ยงๆ
จู่ๆฝนก็กระหน่ำ อุณหภูมิลดต่ำลง จากที่เราเช็คสัปดาห์ก่อนเดินทาง
อุณหภูมิอยู่ที่ 13-22 ซึ่งถือว่าชิลมาก เสื้อตัวเดียวกับแจ็คเก็ตก็พอ
แต่พอถึงวันที่ไปจริง อากาศลดต่ำลงเป็น 6-16 ค่ะ หนาวกันไป…
.
นอกจากชุด ก็มีพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ญี่ปุ่นไฟฟ้าต่างจากเราค่ะ
ไฟของเค้า 110 V และเป็นหัวปลั๊กแบนสองขา ดังนั้นเตรียมพร้อมกันเรื่องนี้ด้วยนะคะ
.
ถ้าไปในช่วงที่อากาศหนาวมากๆ ยิ่งติดลบ เครื่องใช้ไฟฟ้าจะปล่อยประจุไว
ทำให้แบตหมดไวกว่าปกติเท่าตัว พกแบตสำรองไปก็อุ่นใจกว่านะคะ
.
ถ้าคิดจะไปตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ไม่ควรใส่ส้นสูงไปค่ะ
เราเคยมาหลายทีแระ ตอนที่อยู่ที่นั่น ใส่บู้ทส้นสูงไป กะว่าภาพกลางทุ่งดอกไม้สวยแน่ๆ
กลายเป็นว่าต้องหารองเท้าเปลี่ยน เพราะเดินขึ้นเนินแล้วส้นพัง = =’
แต่ถ้าไปชิลโตเกียวสวยๆ ก็ส้นเข็มเต็มที่ แค่ระวังตกรูฝาท่อก็แล้วกัน (เคยมาหมดแล้ว)
.
.
พร้อมแล้วก็ ออกเดินทางกันเลย…
.
.
6 April 2013
เราออกเดินทางด้วย TG648 เวลา 00:50 ไปถึงที่สนามบิน Fukuoka ตอน 8 โมงเช้า
ใครที่จะนั่ง subway ก็ต้องนั่ง shuttle bus ไปขึ้นใต้ดินกันที่ Domestic Terminal นะคะ
ไปถึงที่พักก็เก็บกระเป๋ากันแล้วก็ออกเที่ยว โดยเลือกไปที่ Dazaifu กันอย่างแรก
Dazaifu Tenmanguu (太宰府天満宮) เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังมากใน Fukuoka
มีความงามด้านธรรมชาติ ทั้งต้นไม้และสวนหินค่ะ วันนี้เซ็งมากเพราะฝนกระหน่ำ
ฟ้าเน่า ทำให้ถ่ายภาพมาไม่สวยเลย T T
(กดที่รูปเพื่อขยาย และค่อยกด Back เพื่ออ่านต่อได้นะคะ)
How to go: เราซื้อบัตร Subway 1 day pass ราคา 500 JPY ในวันหยุด
ตั้งต้นกันที่ Hakata Station นั่งใต้ดินไปลง Tenjin station
เพื่อเปลี่ยนเป็นสาย Nishitetsu Fukuoka (西鉄福岡)
แล้วลงที่สถานี Dazaifu (太宰府) ได้เลย ใช้เวลา 1 ชม.ค่ะ
จากนั้นก็เดินจากสถานีประมาณ 700 m ก็จะถึง
แต่ก่อนหน้านั้น ขอแวะเติมพลังข้างทางกันก่อน เป็นร้านโซบะเล็กๆ แต่อร่อยมากๆ
ทั้ง Udon, Soba, Oyakodon
Mentaiko (明太子) หรือไข่ปลาค็อด เป็นของขึ้นชื่อของ Fukuoka ค่ะ ใครมาก็ต้องลอง
700 m ไม่ต้องกลัวเหงา สองข้างทางที่เดินมีแต่ร้านขนม และของที่ระลึกค่ะ
แม้ฝนตกหนักมาก แต่ผู้คนก็มาไม่ขาดสาย ส่วนมากเป็นชาวญี่ปุ่นนี่แหละ
มาขอพรกันในด้านการทำให้ประสบความสำเร็จ เด็กๆก็พามาขอพรให้สอบผ่าน
ตามร้านของที่ระลึกก็จะมีของที่ขายเกี่ยวกับเครื่องลางให้สอบผ่าน
เช่น ปลาหมึก (Octopus) ในภาษาญี่ปุ่นจะพ้องกับเสียงว่า Pass (o-ku-to-pa-su)
และของอร่อยที่พลาดไม่ได้ก็คือโมจิย่างค่ะ ร้านแรกหัวมุมหลังจากเดินออกจากวัด
เราว่าอร่อยสุดนะ แป้งย่างกรอบนอกนุ่มใน มีกลิ่นไหม้นิดๆ
นอกจากนี้ก็มีโมจิกับสตอเบอร์รี่เสียบไม้ขายกันเยอะแยะ สตอเบอร์รี่อร่อยค่ะ
ส่วนโมจิปั้นก้อน เราเฉยๆนะ แบบย่างอร่อยกว่า
เนื่องจากฝนตกหนักมาก ก็ไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ เพราะจากประสบการณ์ฝนที่นี่
ไม่เหมือนเมืองไทยค่ะ ไม่ต้องหวังว่าตกหนักแป้ปเดียวเดี๋ยวก็หยุด ยากมากเลย
มันชอบตกไม่หนักมาก แต่ตกทั้งวัน เราก็เลยเดินเล่นแถวนี้แล้วก็กลับไปเดินห้างดัง
Canal City ที่ตัวเมือง Fukuoka ดีกว่า อุณหภูมิวันนี้ 8 – 16 ค่ะ
ก่อนถึงห้างก็แวะซื้อครัวซองอร่อยเทพ (เทพจริงขอบอกกกก)
อยู่ตรงสถานี Hakata ชื่อร้าน il FORNO del MIGNON
หาไม่ยากเพราะคนต่อคิวยาวตลอดเวลาค่ะ เค้าขายเป็นกรัม ตกชิ้นละ 10 บาทค่ะ
การเดินทางไป Canal City จะเดินจาก Gion station ก็ได้ หรือจะนั่ง Taxi (550 JPY)
หรือ 100 Yen Bus ก็ได้ค่ะ ลงหน้าห้าง แต่เราไปสามคนเลยเรียกพี่แท็กไป ไม่อยากรอบัส
แวะมาเจอ NB คุณพ่อกับคุณแม่เลยได้กันไปคนละคู่ รุ่นทั่วๆไปราคาอยู่ที่
8,100 – 8,500 ค่ะ (model 574) อย่าลืมโชว์ Passport -5% ค่ะ
หลังจากเดินช้อปกันสนุกสนาน ก็ขึ้นมาชั้นบนของห้าง เป็น Ramen Stadium
รวมเอาร้านราเมงชั้นนำมาไว้ที่เดียวกัน เราก็ไม่รู้หรอกร้านไหนดัง
ดูจากลูกค้าในร้านก็พอเดาออกว่าร้านไหนดัง และอร่อย ก็พุ่งตัวเข้าร้านนั้นเลย
ร้านที่เราเลือกชื่อร้าน Shodai Hidechan (初代秀ちゃん)
ร้านนี้คนแน่นร้านมาก เวลาสั่งอาหารก็กดตู้ด้านนอกเอาค่ะ แล้วก็เดินเข้ามานั่ง
พอเข้ามาแทบกรี๊ด วงโปรดเรา GLAY และศิลปินดังๆมากินร้านนี้กันเพียบ
ลายเซ็นแปะแน่นร้าน เป็นร้าน Hakata Ramen ที่ฮอตไม่เบา
Hakata Ramen เป็นราเมงอีกชนิดที่คนญี่ปุ่นโหวตว่าอร่อยที่สุดชนิดหนึ่ง
ด้วยเส้นที่เล็กกว่าราเมงปกติ แนะนำให้ลวกเส้นแบบ Hard จะได้เส้นที่กรุบขึ้น
น้ำซุปจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้นมากกกกก และแนะนำให้ใส่ไข่ต้มยางมะตูมนะคะ
เริ่ด…..
เกี๋ยวซ่าก็โอเคค่ะ อร่อยใช้ได้
หลังจากอิ่มอร่อยกันแล้วก็เดินช้อปกันอีกแป้ป แล้วก็กลับโรงแรมพักผ่อน
พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า ไปลุยเมืองบ่อน้ำร้อนกันที่ Beppu จังหวัด Oita ค่ะ
.
.
.
7 April 2013
วันนี้ตื่นแต่เช้าไปที่สถานี Hakata เพื่อนั่งรถไฟไปจังหวัด Oita ค่ะ
อ้อ…ใครที่จะไป Yufuin (湯布院町) แนะนำให้นั่งรถไฟสายโรแมนติก
ขบวนเขียวนี้นะคะ นอกจากจะเร็วแล้ว ก็เป็นรถไฟสายหนึ่งที่สวยมากกกกกกกกกก
ขึ้นจาก Hakata (博多) ไปลงที่ Yufuin (由布院 แปลกใจว่าทำไมใช้คันจิคนละตัว)
หรือจะนั่งสุดสายลงที่ Beppu ก็ได้ค่ะ ใช้เวลา 2 ชม. 8 นาที ราคา 4,430 JPY
เราแนะนำให้ซื้อบัตร JR Kyushu Rail Pass ค่ะ เราซื้อ North Kyushu
3 days 7,000 JPY เท่านั้นเอง แค่ไปกลับก็คุ้มแล้ว ซื้อแล้วก็นั่งได้ทุกสายของ JR
รวมทั้งชินคันเซนด้วยค่ะ บัตร Pass ต้องซื้อที่ต่างประเทศเท่านั้นค่ะ
ส่วนคนญี่ปุ่นสามารถซื้อได้ ถ้าแต่งงานกับคนไทย หรือ
มีที่อยู่ Permanent Resident ในไทยค่ะ
และถ้าตั้งใจนั่งรถไฟขบวนนี้ แนะนำให้จองล่วงหน้าค่ะ
เราโทรจองจากไทย เค้าไม่รับจองทางโทรศัพท์ T T ต้องไปจองหน้าเคาท์เตอร์วันที่ไปถึง
เลยรีบไปจองล่วงหน้า ( 1 วัน) เกือบไม่ได้ไป เพราะที่นั่งเหลือน้อยมากแล้ว
มาเช้าก็เดินเล่นไปดูของกินข้างล่าง… ชอบสถานีนี้จัง ของกินตึมมม
เราชอบตาลุง Pietro นี้จัง หน้าลุงได้อารมณ์มากๆ
Signature น่ารักจริงๆ
เอาล่ะ นั่งรถไฟกันเถอะ…
ต้องขึ้นที่ชานชลาไหนก็มาดูที่บอร์ดนี้ รอจังหวะให้มันเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ แว้บนึง
มาแล้ว… มาก่อนเวลาประมาณ 5 นาที จอดรอแป้ปนึงแล้วก็ออกตรงเวลาเป๊ะนะคะ
สังเกตมั้ยคะว่าทุกอย่างตกแต่งด้วยไม้หมดเลย เป็นไม้โทนสีอ่อน
ให้อารมณ์อบอุ่นอ่อนโยน
วิวสองข้างก็สวยมากๆ ธรรมชาติสวยงามจริงๆ
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของรถไฟขบวนนี้คือ ขนมค่ะ…
ไอศครีม กับ พุดดิ้ง และชาเขียวรุ่น Limited คือเป้าหมายอีกอย่างของเรา
ระหว่างที่รอของที่สั่งไป ก็มีมุมถ่ายรูปเล็กๆ พร้อม Prop ที่ทางรถไฟมีให้
หมวกสารพัดแบบ ของเราหยิบเอาหมวกนายสถานีมา 55
ได้มาแล้ว… พุดดิ้งรสปกติ กับ รสชาเขียว อร่อยมากค่ะ
อร่อยจนต้องเดินกลับไปซื้อกันอีกรอบ
แต่ที่เราช้อบชอบ คือชาเขียวเย็น Osampo cha ขวดน่ารักมากๆ
เป็นไอเท็มลิมิเต็ดของ Yufuin เค้าล่ะ
และก่อนลงจากรถไฟทางโฮสเตสก็ถือป้ายมาบริการให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย
.
.
.
ถึงแล้วค่ะ Yufuin ออกจากรถไฟแทบกรี๊ด เห้ยยยหนาวไปนะเนี่ย ลมแรงมาก
ถ้าไม่มีลมก็โอเค เย็นๆ แต่ลมมานี่หนาวมากเลย ฝนปรอยๆสลับกับแดดเปรี้ยง = =’
ดูแล้วเสื้อผ้าเราบางเบาสุดในจังหวัดรึเปล่าเนี่ย ทุกคนใส่ดาวน์ ใส่โค้ทจัดเต็มกันหมด
แต่เสื้อกั๊กเราอุ่นมาก หนาวมือ หนาวหน้า มือแข็งจนชาเลยล่ะ
ร้านค้าต่างๆ น่ารักมากๆ เป็นเมืองที่เรียบง่าย แต่สบายตา
วันนี้อากาศหนาวเล็กน้อย แต่ลมแรงมาก อุณหภูมิ 6-10 ค่ะ
อีกหนึ่งเป้าหมายของการมา Yufuin คือร้าน Roll Cake “B-Speak”
ร้านนี้ดังมากๆ จากสถานี Yufuin ก็เดินตรงอย่างเดียวเลยค่ะ เดินมาเรื่อยๆ
ก็เจอเอง อยู่ทางขวามือ หัวมุมสีแยกพอดีเลย
เรามาตอนเที่ยง ของหมดซะส่วนใหญ่ ขายดีเว่อร์ไปมั้ย
มีแต่ snack ที่เป็นถั่ว กับ เมล็ดกาแฟเคลือบช็อคโกแลต
หลังจากเสร็จภารกิจพิชิต บี สปีค ก็ออกมาเดินเล่นกันต่อ
ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ
ร้านนี้แมวอ้วนฟู น่าฟัดมากๆ
เดินเพลิน ลืมเวลา บ่ายสองแล้ว หาร้านด่วน…
หลังจากเดินวนอยู่หลายรอบ ก็ตัดสินใจ ลองร้านนี้ค่ะ เมนูเยอะดี ร้านดูเก่าแก่
Nenrin (季節の料理 ねんりん)
ร้านนี้โอเคเลยค่ะ พนักงาน เชฟ ทุกคนในร้านไม่อายุไม่ต่ำกว่า 50-60 แน่ๆ
อาหารอร่อยทุกอย่างเลย แล้วราคาไม่แพงมากด้วย
เซ็ทกุ้งทอดของเรา มี Black tiger แน่นๆมา 2 ตัว มีซาชิมิ และของต้มเสียบไม้
เป็นเนื้อกับกุ้ง อร่อยมาก เนื้อเค้าเอาไปทอดให้กรอบเกรียม แล้วนำไปต้มให้เข้าเนื้อ
ทำให้รสชาติอร่อยมากๆค่ะ
อีกจากนึงเป็น Wagyu Steak รสชาติดีมากๆ เนื้อมีความเหนียวปานกลาง ไม่ถึงกับนุ่มเวอร์
ของแกล้มก็อร่อยมากๆ
และอีกเมนูคือ อุด้งของป่า เป็นผักที่เก็บจากภูเขาค่ะ
อิ่ม อร่อยกันแล้ว ก็ช้อปปิ้งของจุกจิกก่อนเดินทางต่อไปยังเมือง Beppu
เมืองแห่งออนเซ็นค่ะ
เราตั้งใจว่าเราจะเริ่มสะสมน้อง Rilakkumu strap ตามเมืองต่างๆที่ได้ไป
เสียดายตอนที่เราอยู่ที่นี่น้องหมีมันยังไม่ดัง มีแต่คิตตี้ ก็เลยไม่ได้สะสม
ตอนนี้ว่าจะเก็บเป็นคอเลคชั่นน้องหมีทั่วญี่ปุ่นล่ะ
และอีกมาสคอตที่ดังสุดของ Kyushu ต้องยกให้ KUMAMON ค่ะ
เป็นมาสคอตประจำจังหวัด KUMAMOTO ที่เราจะไปในวันถัดๆไป
เดี๋ยวค่อยกล่าวถึงอีกทีนะคะ แต่เราหมดกับคุมะม่อนคิตตี้ฝากเพื่อนๆไปหลายตังค์ทีเดียว
มันน่ารัก น่าซื้อฝากนินา…
แล้วก็ซื้อ Umeshu (เหล้าบ๊วย) กับ ซาเก และก็Cheese cake ของ Yufuin มา
เหล้าบ๊วยขวดนี้ 900 เยน ขวดสวยแต่เราดันชอบ Choya มากกว่าอ่ะ 555
ส่วนเค้ก โอเคค่ะ แพคเกจเริ่ดมาก รสชาติก็คล้ายๆยูโร่คัสตาร์ดบ้านเรา
.
.
วันนี้เหนื่อยละ…ขอมาเล่าต่อในตอนหน้า
จะพาไปชมบ่อน้ำร้อนในเมือง Beppu และเดินเที่ยวในตัวเมืองกันค่ะ
ติดตามชมในตอนหน้านะคะ
To Be Continued….
.
ย้อนอ่านบทความท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตอนอื่นๆได้ที่นี่
Categories: Dining & Traveling, Travel trip
รบกวนถามค่า…ถ้าลงเครื่อง 8 am ..แล้วเราจะสามารถผ่านขบวนการ จนเข้าเมืองมาจอวและขึ้น yufurin no mori เวลา 10.25 am ทันไหมคะ หรือว่าควรจะจองเป็นวันรุ่งขึ้น (พอดี ไม่อยากไป yufuin กะ beppu วัน ส อา…กลัวคนเยอะ อะคะ)
ขอบคุณมากคะ
ปล. เจ้าของกระทู้ น่ารักมากๆ อ่าน และดูรูปเพลินเลย 😄
ทันค่ะ เพราะตจากแอร์พอร์ตมาที่ฮากาตะใช้เวลาแค่5-10นาทีก็ถึง แต่ถ้าต้องแวะเก็บกระเป๋าที่รร. ก็น่าจะเร่งๆค่ะ
สวัสดีค่ะ เข้ามาก็ถามเลย มีข้อสงสัยว่า ที่สถานี้ JR Yufuin มีตู้ให้เช่าเก็บกระเป๋าเดินทางด้วยหรือป่าวคะ
เคยอ่านเจอผ่านๆ ไม่แน่ใจว่าที่ Yufuin มีไหม
ขอบคุณค่ะ
ต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่ทันได้สังเกตเลยอ่ะค่ะ แต่ที่นี่สถานีใหญ่พอสมควร คิดว่าน่าจะมี ต้องลองหาข้อมูลอีกทีค่ะ
จะไปยูฟูอิน จะซื้อ JR ต้องซื้อที่ไหนคะ
ที่สถานี JR ได้ทุกที่เลยค่ะ
ขอสอบถามครับ เนื่องจากจะไปกรกฏาคม อยากทราบว่าเราสามารถสอบถามเรื่องเวลาเดินของรถไฟและจองล่วงหน้าได้เลยที่ศูนย์เปลี่ยนเป็น JR PASS ตัวจริงได้หรือไม่ครับ เห็นว่าคุณไปจองรถไฟสีเขียวก่อน 1 วันไป Yufuin
ขอบคุณครับ
ตัว JR Pass เราซื้อที่ไทยแต่ต้องไปแลกเป็นตั๋วที่ญี่ปุ่นก่อน ถึงจะจองตั๋วทุกอย่างได้น่ะค่ะ
ไม่สามารถจองล่วงหน้าได้ หากยังไม่ได้แลกเป็นพาสค่ะ
หากว่าไปถึงที่นั่นแล้ว และแลกพาสแล้วก็สามารถจองล่วงหน้าได้เป็นเดือนๆค่า
ขอบคุณมากมากครับ ถ้ามีอะไรสงสัยขอเข้ามาถามอีกนะครับ ขอบคุณมากครับ
อ่านแล้วสนุกมาก คุณแป้งมีที่พักแนะนำด้วยมั้ยคะ
ถ้าเน้นราคาไม่แพง ใกล้สถานี แนะนำ Toyoko Inn เลยค่ะ ชิลๆ
ขอถามว่าตอน reserved seatไปยูฟุอินต้องเสียเงินเพิ่มรึเปล่าครับ
หากซื้อเป็น pass ไม่ต้องเสียเพิ่มเลยค่ะ reserve ได้หมด ยกเว้นโบกี้ที่เป็น Green เท่านั้นค่ะที่แพงกว่าปกติ
อ่านมาหลายโพสต์ ชอบโพสต์นี้สุดๆเลยค่ะ คนพาไปก้อน่ารัก เลือกสถานที่ก้อดี ถูกใจไปหมด….อิอิ..ตอนแรกว่าจะไป sapporo สงสัยจะเปลี่ยนใจไป fukuoka แทนค่ะ ข้อสำคัญจะพาพ่อแม่อายุ 80 ไปด้วย คงน่าจะเหมาะกว่า แต่อาจจะต้องตัดบาง trip ไปค่ะ ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณมากๆค่า เที่ยวให้สนุกนะคะ
ส่วนตัวแป้งชอบทั้งคู่ แต่เอียงไปทาง Sapporo เยอะกว่าเล็กน้อย เพราะของอร่อยเต็มเมือง
ลองอ่านในไดอารี่ของทริป sapporo ได้ค่า
http://kirarista.com/2013/08/05/kirari-japan-trip-hokkaido-sapporo/
เป็นประโยชน์มากเลย เี่ยี่ยมไปเลยครับ รูปสวยมาก
ขอบคุณค่า