Kirari Trip: Japan Spring’13 Part 3 (Suizenji, Kumamoto, Fukuoka)

kirari trip Kumamoto

มาต่อกันที่ตอนจบค่ะ ในไดอารี่นี้จะพาไปเที่ยวกันที่จังหวัด Kumamoto

ซึ่งพอพูดถึงจังหวัดนี้ก็จะนึกถึง Kumamon อันดับแรกเลย 555 หมีเกลื่อนเมือง

นอกจากปราสาทคุมาโมโตที่ต้องไปแล้ว สวน Suizenji เราแนะนำมากๆ สวยมากจริงๆ

หลังจากเดินเล่นกันที่คุมาโมโตแล้วก็กลับมาหาของหรูๆทานกันที่ Fukuoka

เป็นการส่งท้าย มื้อนี้จัดเต็มกับเนื้อย่างอร่อยเทพๆ และของหวานสุดน่ารักค่ะ

ก่อนการเดินทางไป Kumamoto ช่วงเช้ามีเวลานิดหน่อย จำได้ว่าไม่ไกลจากที่พัก

มีศาลเจ้าสวยๆตั้งเด่นอยู่  “Fukuoka Daibutsu”

เราไปเช้าเกิน เค้ายังไม่เปิดเลยเดินดูรอบๆ ก็สงบดีค่ะ แม้ว่ารอบข้างเต็มไปด้วยตึกสูง

DSC02433

DSC02428

ภายในบริเวณศาลเจ้า ปลูกต้นไม้หลายชนิด หลากสี เสียดายที่มาไม่ทันซากุระ

ไม่งั้นคงสวยกว่านี้ ตอนที่ไปมันโรยหมดแล้วค่ะ

DSC02424DSC02439

หลังจากนั้นก็ไปขึ้น Shinkansen กันค่ะ เส้นทาง Hakata – Kumamoto

  ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

ค่าตั๋วไม่เสีย เพราะใช้ JR Pass เช่นเคย คุ้มมากกก ต้องซื้อนะคะ!

DSC02475

DSC02456

ขบวนยาวมากๆๆๆๆ ดูที่ตั๋วดีดีนะคะว่าอยู่โบกี้ไหน ไม่งั้นวิ่งกันเหนื่อย

DSC02477

มาถึงสถานี Kumamoto แล้วค่ะ เจอป้ายน้อง  Aso-boy! เป็นน้องหมา

มาสคอตของเมือง Aso และรถไฟสาย Aso-boy!

จริงๆก็น่าไปมากๆนะคะ แต่ได้ยินมาว่าตอนนี้ทางยังซ่อมไม่เสร็จดี จะเสียเวลาเดินทางเยอะ

ก็เลยตัดทริป Aso ออกไปก่อน

DSC02653

การเดินทางไป Kumamoto Castle ไม่ยากค่ะ แต่ต้องดวงดี กะจังหวะรถได้ดี

เพราะรถที่นี่สายไม่เยอะ ทั้ง Tram (รถราง) หรือรถบัส

ตอนที่เราจะไปที่ปราสาท ก็กะว่านั่งรถ Kumamoto Castle shuttle bus ไป

เพราะได้ยินว่าเดินใกล้สุดๆ แต่พอไปถามลุงที่ขับ Tram ที่สถานี ก็บอกว่า

Tram นี่แหละไป ใกล้ๆ เอ้า…งงเลย แต่พอเวลามันเร่งๆ ก็เลยเชื่อลุง

เพราะหาป้ายรถเมล์ที่บัสจอดไม่เจอ แล้วก็ถึงเวลารถออกแล้ว เลยขึ้น Tram กันไปค่ะ

ข้อควรระวังอีกอย่างคือ…รถรางที่นี่มี 2 สาย ให้ดูดีดีนะคะ ค่าโดยสาร 150 เยนต่อครั้ง

ลุ้นหลายทีมาก เพราะสองสายนี้ชอบอยู่คนละฟากถนน เวลาจะขึ้นรถ ก็ต้องรอไฟแดง

ซึ่งถ้าพลาด รอเงกค่ะ… 15-20 นาทีต่อคัน

DSC02480

เมื่อลงที่ป้าย Shiyakusho Mae แล้วก็เดินต่อไปอีกเป็นกิโลค่ะ ขึ้นเนินเขากัน

สองข้างเขียวชอุ่มด้วยต้นซากุระ T T จะบานเร็วไปมั้ยปีนี้เนี่ย!

DSC02485

ถึงแล้วค่ะ ทางเข้า Kumamoto Castle (熊本城)

เสียค่าเข้าคนละ 500 เยนค่ะ

ปราสาทแห่งนี้มีมายาวนานกว่า 400 ปี และมีการบูรณะใหม่ในปี 1960 ที่ผ่านมา

จุดเด่นของปราสาทคือ หิน และ ไม้ ที่ประกอบกันอย่างพิถีพิถัน

สวยงาม และใหญ่โตค่ะ

DSC02491

DSC02513

แนะนำให้ไปเช้าๆ นอกจากแสงที่ส่องด้านหน้าของปราสาทจะสวยกว่าแล้ว

ก็ยังไม่เจอกรุปทัวร์ลงด้วยค่ะ คนโล่งดีทีเดียวเลย

DSC02527

เขยิบมาอีกหน่อยก็เจอกับ Higomaru’kun วางไว้ให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ขนาดสถานที่ประวัติศาสตร์ก็ยังมีมุมน่ารักๆได้ ชอบจริงๆ

DSC02516

ด้านข้างปราสาทก็มีจุดชมวิวเมืองอยู่ค่ะ แต่เราจะเดินไปก็เจอเจ้านกสองตัวนี้

กำลังกุ๊กกิ๊กกันอยู่ พอจะเดินเข้าไปก็ร้องใส่ เอ๊ะ! ยังไง ประมาณว่า นี่พื้นที่ชั้นนะ

นกที่นี่เยอะมากๆ แล้วก็คุ้นเคยกับคนมากๆค่ะ

DSC02522

โอเค๊…ชั้นถ่ายพวกเธอเป็น Prop ไปก็ได้ ก็น่ารักไปอีกแบบ

DSC02532

หลังจากสนุกสนานกับการถ่ายรูปแล้ว ก็ลงเขาไปต่อกันที่สวนที่ขึ้นชื่อว่า

สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น “Suizenji Park”  水前寺成趣園

DSC02540

เราเห็นดอกไม้ชนิดนี้เต็มเมืองไปหมด รวมทั้งสลักอยู่ตามฝาท่อ สะพานต่างๆ

ดอก Tsubaki หรือเปล่านะ ไม่แน่ใจ

ตามสะพานมองลองไป ตกกะใจ…ปลาเต็มเลย น้ำใสกิ๊ง

DSC02543

การเดินทางไปสวน Suizenji เราก็นั่ง Tram ไปค่ะ ลงที่ป้าย Suizenji เลย

เดินต่อเข้าไปอีกนิดหน่อยก็ถึงแล้ว ที่นี่ไม่เจอทัวร์เลยนะคะ ชิลมากๆ

DSC02549

อัยย่ะ น้องคุมะม่อนมายืนต้อนรับ ชอบน้องหมีประจำจังหวัดนี่มากๆ

น่ารักจริงๆเลย

(คลิกเพื่อดูรูปที่ใหญ่ขึ้นได้นะคะ)

DSC02553

ภาพรวมของสวยแห่งนี้ สวยมากจริงๆ องค์ประกอบลงตัว

DSC02598

DSC02569

DSC02557

DSC02561

DSC02579

DSC02571DSC02576

DSC02584

DSC02589

นอกจากสวนจะสวยแล้ว ในบ่อน้ำที่ใสกิ๊งนี้ ปลาอยู่เยอะมากๆค่ะ นางเอกของเรา

คือปลาตัวสีฟ้าขาว เหมือนเครื่องลายครามจีนนี่แหละ เพิ่งเคยเห็น สวยจริงๆ

DSC02586

DSC02604

นกตัวนี้ขี้อายเหมือนกันค่ะ ตลกดี พอเดินไปใกล้ก็จะเอาหัวซุกพงหญ้า

ทำเหมือนนกกระจอกเทศเลยอ่ะ

DSC02600

ปลาตัวนี้สีทองอร่ามเลย สวยมากๆ

DSC02634

DSC02593

สวนสวยมากๆ สัตว์ทุกตัวก็คุ้นเคยกับคน วิ่งเข้าหา แม้แต่ปลา ก็จะว่ายมาทักทายด้วย

เป็นสวนหนึ่งที่เราชอบที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ สงบ ร่มรื่น บรรยากาศดีมากๆ

เอาล่ะ ออกเดินเล่นกันต่อ ออกมาจากสวนก็จะเจอกับร้านค้าสองฝั่ง รวมถึง

เจ้าคุมะม่อนตัวนี้ยืนยิ้มแป้นอยู่ด้วย ขอหยิกแก้มทีนะ

DSC02641

สินค้าที่ระลึกรูปแบบต่างๆ บ้านเราก็โดนไปตามระเบียบ

ได้ถุงน้องคุมะมาเพิ่มในคอเลคชั่นค่ะ

DSC02647

DSC02643

ดอกไม้ริมทางยังสวยเลยเมืองนี้ ปลูกกันเต็มเมืองไปหมด

DSC02653

หลังจากนั้นก็นั่ง Tram มาหาอะไรทานกันที่ถนนย่านกลางเมือง เป็นศูนย์รวมการ

ช้อปปิ้งของย่านนี้ค่ะ ลงที่ป้าย Suidōchō

DSC02654

ย่านนี้ของช้อปปิ้งเยอะแยะ ส่วนมากเป็นร้านเสื้อผ้า และมีร้านขายยาด้วย อิอิ

สองร้านราคาไม่เท่ากันค่ะ ต้องเดินเทียบกันหน่อยนึงนะคะ

เพราะที่เราซื้อมา ร้านนึงลด 30% อีกร้านลด 20% ค่ะ

และก็เข้าไปเดินในห้างพักนึง มีร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่นไม่มาก

สิ่งที่หอบกลับมาเยอะคือถุงน่องลายต่างๆ กับถุงเท้าที่เป็นลูกไม้ เมืองไทยไม่มีสวยๆเลย

ที่ญี่ปุ่นนี่ตรึมมาก ยังอยากกลับไปซื้ออีก ><

DSC02667

ตกเที่ยงก็ไม่รู้จะกินไหนดี ตอนแรกว่าจะหา Kumamoto Ramen

แต่คิดอีกที ก็กินราเมงมาบ่อยละ มองแว้บไปเห็นร้านนี้

คนเดินเข้าออกตลอด เลยเริ่มสนใจ สุดท้ายก็เดินตามกลุ่มคนเข้าไป

เป็นร้านเล็ก (มาก) ที่ขายยากิโซบะ กับโอโคโนะมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น)

อ๊ะ…อยากกินพอดี เราเป็นคนชอบยากิโซบะมากๆค่ะ

ร้านนี้ให้ผัดเองด้วยล่ะ สนุกสนานกันไป

DSC02656

DSC02657

มองป้ายราคาก็ตกใจ ทำไมถูกจังงงงงงงง

680 – 800 เยนเองอ่ะ

DSC02666

รสชาดดีค่ะ อร่อยทีเดียว ได้ผัดเองร้อนๆอีก

ไม่แปลกใจทำไมคนเยอะ มีคิวตลอด ไม่แพงแล้วก็โอเคทีเดียวค่ะ

หลังจากเดินเล่น และอิ่มอร่อยกันแล้ว ก็ได้เวลากลับ Fukuoka ค่ะ

ก่อนกลับก็แวะช้อปน้องคุมะม่อนซักหน่อย

DSC02668

DSC02669

DSC02670DSC02671

DSC02675

DSC02674

DSC02676

แกงกะหรี่ก็มีนะคะ มีทุกอย่างจริงๆคุมะม่อน

ใครที่อยากช้อปก็ไม่ต้องไปไกลค่ะ เราซื้อกันที่สถานี JR Kumamoto นี่แหละ ร้านใหญ่เลย

.

.

หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟกลับค่ะ แล้วก็แวะเดินห้างแถวๆ  Hakata

ที่สถานีนี้บริเวณชั้น 9, 10 เป็นโซนร้านอาหารเริ่ดๆ หลายร้านดังๆก็อยู่ที่นี่ค่ะ

และแน่นอนว่า มื้อเย็นวันนี้ขอเป็นเนื้อย่างแบบ Special ซักหน่อย

DSC02681

DSC02682

ร้านที่เลือกเข้าในครั้งนี้คือร้าน Yakiniku Champion ค่ะ

ร้านนี้มีอยู่ไม่กี่สาขา สาขาหลักอยู่ที่โตเกียวค่ะ และที่ฟุกุโอกะก็มีเช่นกัน เย่

ราคาแพงพอสมควรค่ะ แต่ก็ใช้เนื้อคุณภาพดี

ขอเล่าหน่อยว่าตอนแรกเดินวนๆอยู่กับอีกร้านนึง ซึ่งเห็นว่าเป็นเนื้อเหมือนกัน

แต่เอ๊ะ…เนื้อมันสีเข้มๆ แปลกๆนะ ดูเมนูแล้วก็น่าทานแฮะ แต่เค้าเน้นเป็นเนื้อดิบด้วย

สรุปว่ามันไม่ใช่เนื้อวัวค่ะ เป็นเนื้อม้า ต้องระวังกันนิดนึง เพราะที่ฟุกุโอกะ เนื้อม้าเค้าดัง

DSC02685

เข้าไปก็จะมีเมนูทั้งภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นค่ะ

ส่วนเนื้อต่างๆ จะมีแค่ญี่ปุ่นค่ะ ใครอยากทานส่วนไหนก็จิ้มเอาได้เลย

ที่ร้านนี้เค้าขายเป็นชิ้นค่ะ 1 จาน 6 ชิ้น หรือ Half  ก็  3 ชิ้นค่ะ

ราคาตามภาพเลย

DSC02688

DSC02689

เราขอให้เค้า Recommend มาให้ แน่นอนว่าไม่พลาดส่วน Zabuton

เป็นเนื้อส่วนที่ฮิต และดีที่สุดส่วนหนึ่ง (เนื้อส่วนไหล่ด้านล่าง)

อร่อยมากกกก นุ่มมาก แต่ไม่นุ่มเกินไปจนขาดความเป็นเนื้อ

และ Jo Karubi (Special Kalbi) แนะนำว่าห้ามพลาดค่ะ อร่อยมากเลย

ด้านราคาก็เงิบอยู่เหมือนกัน คำนึง ตก 200 บาท แพง แต่อร่อยน้ำตาไหลเลยล่ะ

DSC02693

DSC02695

ถ้วยนี้เป็น  Signature dish ของเค้าค่ะ เป็นเนื้อตุ๋นเผ็ดๆหน่อย

ก็อร่อยดีนะคะ

DSC02703

ในที่สุดเนื้อก็มาแล้ว เย่…….

สไลด์บางพอประมาณ เนื้อดีมากๆเลยค่ะ

DSC02700

DSC02711

หลังจากอิ่มจากเนื้อย่างแล้ว ตอนที่เดินหาร้าน ก็แว้บไปเห็นร้านขนมร้านนึง

น่ารัก น่าทานมากก แต่ราคาก็แรงมากเหมือนกัน

มาเที่ยวทั้งที ขอลองซักหน่อยแล้วกันค่ะ

“Campbell Early”

DSC02716

หน้าร้านตกแต่งสวยงามด้วยผลไม้สด เราไปขอเค้าซื้อสตอเบอร์รี่ด้วยค่ะ

พอถ่ายรูปลงใน Instagram เพื่อนก็บอกว่า เห้ยนี่ของสวนดังเลยนะ

อร่อยแน่นอน…

DSC02717

บ้านเราโดนดึงดูดด้วยป้ายเมนูนี้หน้าร้านค่ะ

จานนี้ 1,300 เยน ก็ตก 400 บาทเลย แพงแฮะ แต่ได้สตอเบอร์รี่หวานๆ สดๆ เอ้าาา…ลอง

DSC02719

แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ

มาเป๊ะๆตามรูปหน้าร้านเลย อร่อยมากค่ะ แป้งแพนเค้ก หอมนุ่ม

สตอเบอร์รี่หวาน สด หอมมากๆ

DSC02726

และสุดท้ายก็ซื้อสตอเบอร์รี่กลับไปทานต่อกันที่ห้องพักค่ะ

ชิลมากๆ หอมหวานมากๆ ยังไม่อยากกลับเลย

เมืองนี้มีแต่ของอร่อยจริงๆ ใครที่ไปโตเกียวกันจนทั่วแล้ว

ลองลงมาเที่ยวที่เกาะทางใต้อย่าง Kyushu บ้างนะคะ บ้านเมืองเค้าน่ารัก

คนใจเย็น ไม่เร่งรีบ ไม่วุ่นวาย แสงสีอาจจะไม่มาก แต่ก็เป็นเมืองที่สงบและน่าอยู่

สมกับที่ Fukuoka ได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดใน ASIA

DSC02731

.

.

แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าค่ะ

เดือน กค นี้มีแพลนว่าจะไปชมทุ่งสวนดอกไม้ที่ Hokkaido  แต่ยังติดปัญหาเรื่องตั๋วอยู่

เต็มตั้งแต่ไก่โห่ ก็ต้องรอลุ้นต่อไปว่าจะได้กลับมาเขียนทริปไดอารี่ให้ได้อ่านกันหรือเปล่า

See you next trip ka

fukuoka_1

fukuoka_2

fukuoka_3

.

ย้อนอ่านบทความท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตอนอื่นๆได้ที่นี่

japan diary

3 replies »

Leave a Reply