Let’s Go…KOREA!!!! ตอน Autumn in my heart

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่า
หลังจากหนีเที่ยวไปแดนโสมมาอาทิตย์นึง ก็เก็บภาพสวยๆมาฝาก
แถมทริคดีดีในการเตรียมตัวไปเกาหลีค่ะ
และก็จะมาตอบโจทย์สาวๆหลายๆคนที่ว่า ไปเกาหลีซื้ออะไรดีคะ?
ทั้งหมดนี้คงเล่าในไดอารี่เดียวไม่หมด เราขอแบ่งเป็น 2 ตอนด้วยกัน
โดยตอนนี้จะเน้นการเที่ยวชมวิว ส่วนตอนหน้าจะแนะนำสินค้าและย่านช้อปปิ้งค่ะ

ครั้งนี้ที่ไปเราซื้อแพคเกจทัวร์เหมือนครั้งก่อนๆ เพราะสะดวกกว่าการเดินทางไปเองมาก
ช่วงที่ไปเราเลือกช่วงกลางใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงพีคสุดๆในการท่องเที่ยวเกาหลี
เพราะใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ส้ม แดงกันทั่วเมือง
แถมอากาศก็กำลังดีค่ะ ไม่หนาวไม่ร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยช่วงที่เราไปประมาณ 7 – 20 องศา

ก่อนที่จะพาเที่ยว เรามาเก็บทริคในการเตรียมตัวไปเกาหลีกันก่อนดีกว่า

1. Passport และเอกสารต่างๆ : สำหรับคนไทยที่จะไปเกาหลีไม่ต้องใช้ VISA ค่ะ
แต่ Passport ต้องเหลืออายุอย่างน้อย 6 เดือนนะคะ
และสำหรับผู้หญิงที่จะเดินทางเข้าเกาหลี ทาง Immigration ค่อนข้างเข้มงวด
เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมากับทัวร์หรือมาเป็นครอบครัวก็แล้วแต่
หากไม่ค่อยได้เดินทางไปไหน (ใน Passport โล่งๆ) ก็ควรเตรียมเอกสารรับรอง
จากทางสถาบันหรือทางบริษัทที่ทำงานอยู่ เพราะถ้าหากโดนกักตัวแล้วจะต้อง
เสียเวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงในการสัมภาษณ์ และถ้าหากโดนถูกส่งกลับไทย
ก็จะไม่สามารถเข้าประเทศเกาหลีได้อีกอย่างน้อย 6 ปีค่ะ

2. ของใช้ที่จำเป็นหากไปในช่วงอากาศเย็น : ที่้ เกาหลีเป็นประเทศที่หนาวลมค่ะ
ถ้าเป็นคนที่ขี้หนาวแล้วล่ะก็ แนะนำให้หาแจ๊คเก็ตที่สามารถกันลมได้
หรือถ้าไม่มีก็อาศัยการใส่เสื้อแขนยาวซ้อนกันหลายๆชั้น
เพื่อให้ลมหนาวผ่านเข้าสู่ร่างกายได้น้อยที่สุด

3. อาหาร : ครั้ง นี้ที่ไปเกาหลี อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าซื้อแพคเกจที่เน้นการ
เที่ยวและกินมากกว่าช้อปปิ้ง โปรแกรมการกินจึงถูกคัดสรรมาอย่างดี
เป็นร้านดังๆทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม สำหรับเราแล้ว ขนาดหิวแบบสุดๆ
ยังกินไม่อร่อยซักมื้อเลย ก่อนไปเกาหลีเราขอแนะนำให้พกผงโรยข้าว
หรือ ฟุริคาเคะ ไปด้วยค่ะ หรือบางคนชอบกินน้ำพริกเอาไปด้วยก็ดีค่ะ

เพราะอาหารเกาหลีเป็นอาหารที่เน้นคุณค่า ไม่เน้นรสชาติ
(กรุณาอย่าเทียบกับอาหารเกาหลีที่ประเทศอื่นๆ เพราะว่าอร่อยกว่า
อาหารที่ประเทศเกาหลีมากค่ะ)

4. เครื่องใช้ไฟฟ้า : ปลั๊กที่เกาหลีเป็นแบบหัวกลมค่ะ
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่นบางยี่ห้อจะนิยมเป็นหัวแบน
ก่อนนำไปใช้ก็ตรวจดูดีดีค่ะ

5. การแลกเงิน : ที่เกาหลีใช้สกุลเงินวอน ซึ่งเรท ณ ปัจจุบันจะอยู่ที่ 1000 วอน
เท่ากับ 35-38 บาท ในกรุงโซลบางร้านจะตั้งราคาเป็น US dollar
หากเจอร้านประเภทนี้ ใช้บัตรเครดิตรูด หรือใช้เงินดอลล่าห์จะถูกกว่าค่ะ

6. เตรียมใจ : สำหรับเราต้องเตรียมใจกับค่านิยมหรือนิสัยของ
คนเกาหลีพอสมควร คนเกาหลีเป็นคนตรงมากๆ มารยาทหรือการบริการของ
คนเกาหลีไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชีย หากใครประทับใจกับ
บริการของชาวญี่ปุ่นที่เทคแคร์และให้เกียรติลูกค้าสุดๆ หากไปเกาหลีต้องทำใจ
เล็กน้อย เพราะเค้าทำได้แค่ 1 ใน 5 ค่ะ

เรื่องการบริการหรือวิธีการขายของของคนเกาหลีขอเก็บไปคุยในไดอารี่หน้า
แล้วกันนะจ้ะ

เตรียมตัวเสร็จแล้วก็… Let’s Go!!!

ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สถานที่ยอดฮิตที่ทั้งชาวไทยและชาวเกาหลี
ต่างมาเที่ยวคงหนีไม่พ้น…เกาะนามิ(Nami Island)

การเดินทางเข้าสู่เกาะนามิต้องนั่งเรือเฟอร์รี่ค่ะ เกาะแห่งนี้โด่งดังมากในเรื่อง
“Winter Love Song” หรือ เพลงรักในสายลมหนาว เกาะนามิจะมีรูปร่างคล้าย
ใบไม้ลอยอยู่ในแม่น้ำฮั่นทางตอนเหนือ จุดเด่นของเกาะนี้คือจะปลูกต้นแปะก๊วย
เป็นแนวยาวตลอดทาง
มองไปทางไหนก็เห็นคนมาเป็นคู่ๆ เห็นแล้วอิจฉาจริงๆ (>

The National Folk Museum of Korea
หากต้องการไปชมวัฒนธรรมพื้นเมืองสมัยก่อนของเกาหลี
ก็ไปเดินชมได้ที่นี่เลยค่ะ

อีกที่หนึ่งที่เราชอบมากๆในเกาหลีคือ…ฟาร์มเลี้ยงแกะแทควัลยอง (Daegwallyeong Sheep Farm)

ที่ฟาร์มแห่งนี้มีเนื้อที่มากถึง 155 ไร่ ใช้เวลาเดินขึ้นเขาที่ค่อนข้างชัน (มาก)
ประมาณ 10-15 นาทีก็จะพบกับฝูงแกะมากกว่า 200 ตัว
ที่นี่เลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติเปิดเพลงให้ฟัง
และมีกิจกรรมให้อาหารแกะกับมือ และที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่ใช้ถ่ายทำละคร Autumn in my heart หรือละครต่างๆมากมาย

ไม่ไกลจากฟาร์มแกะมากนัก ก็จะมี Teddy Bear Farm
เป็นฟาร์มเล็กๆของเจ้าหมีTeddy bear ที่นี่ได้รวมเอาหมีเท็ดดี้จากทั่วทุกมุมโลก
มาจัดแสดงไว้ค่ะ

น้องหมีน่ารักน่าหิ้วกลับทุกตัวเลย

หากมาเกาหลีช่วง Autumn ก็ต้องห้ามพลาดไป อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน
สถานที่แห่งนี้ชาวเกาหลีนิยมมาในช่วง Autumn –Winter ค่ะ
โดยมีความเชื่อที่ว่า อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีิวิตจะต้องขึ้นมาที่ยอดเขาแห่งนี้
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เทือกเขาแห่งนี้จัดว่าเป็นแนวเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
ในเกาหลี ในบริเวณอุทยานก็จะมี วัดชินฮึงซา ซึ่งสงบร่มเย็นมากๆ

มาเกาหลีกี่ทีก็ต้องแวะมาสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีแห่งนี้ทุกที
SAMSUNG EVERLAND

ช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาลฮัลโลวีน ภายในตกแต่งด้วยฟักทองน่ารักๆเต็มไปหมด
หากใครจะมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้มาวันธรรมดานะคะ
ขนาดเราไปวันธรรมดาตั้งแต่เปิดสวนสนุกคนยังเยอะเลย
เครื่องเล่นดังๆอย่าง T-Express ที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน
คนเข้าคิวยาวเหยียด เราได้เป็นคิวแรกเพราะไปรอตั้งแต่ 10.30 (มันเปิด 11.00)
หลังจากเล่นแล้วติดใจเลยไปต่อคิวอีกที คราวนี้รอไปอีก 40 นาทีเลยค่ะ
กว่าจะได้เล่นอีกรอบ เสน่ห์ของเครื่องเล่นนี้อยู่ที่ความ Classic
เนื่องจากเป็นรางไม้ และที่สำคัญวิ่งนานมาก ใช้เวลานั่งเกือบๆ 3 นาทีแน่ะ !!!
รถไฟเหาะรางไม้อีกที่ที่โหดไม่แพ้กันนึกถึง Fujiyama ที่ Fuji Q Highland ที่ญี่ปุ่น

นี่ล่ะโฉมหน้า T-Express สำหรับสาวชอบเล่นแนวฮาร์ดคอร์อย่างเรา
ถือว่าสอบผ่านค่ะ แต่ถ้าเทียบความเสียวแล้วที่โน่นโหดกว่าอีกนะ

ICE Gallery
สถานที่แห่งนี้มีกิจกรรมสนุกๆโดยให้แต่ละคนแกะสลักก้อนน้ำแข็งให้เป็นแก้ว
ใส่น้ำหวาน
สำหรับคนที่ชนะก็จะได้เหรียญรางวัลด้วย (รอบนี้น้องชายเราได้ไป)
ส่วนเราแกะได้ห่วยสุดๆเลย ฮ่าๆ

หลังจากแกะน้ำแข็งแล้วก็ลงไปชั้นใต้ดินเข้าชมแกลลอลี่น้ำแข็งแกะสลักในอุณหภูมิติดลบ ไม่ต้องกลัวหนาวนะคะ เค้าเตรียมเสื้อไว้ใ้ห้ครบทุกคนเลย

ปิดท้ายสถานที่ท่องเที่ยวด้วย…หมู่บ้านฝรั่งเศสแห่งเกาหลี(La Provence)
ที่นี่มีบรรยากาศในแบบเมือง Provence ในประเทศฝรั่งเศส ตึกสีสันพาสเทล
มีทั้ง Café,ร้านขายของต่างๆ และแน่นอนว่าสถานที่น่ารักๆแห่งนี้ก็โด่งดังมาก
จากภาำำพยนต์เรื่อง Bithoven Virus

Categories: Dining & Traveling

Tagged as: , ,

Leave a Reply