รีวิวเครื่องผลักวิตามินใหม่ล่าสุด จาก llexam มาพร้อมเซ็นเซอร์ล้ำๆ | Kirari Gadget

 

หลังจากที่แป้งซื้อเครื่องผลักวิตามินของพานามาเมื่อ3 ปีก่อน

ก็ใช้มาตลอดจนกลายเป็นของที่ขาดไม่ได้ เพราะมันทำให้ครีมแพงๆที่ซื้อมา

เห็นผลมากขึ้นจนเห็นได้ชัด แต่ในครั้งนี้ llexamไม่ได้มาแค่ฟีเจอร์พื้นฐาน

แต่มาพร้อม built in Spot DetectionSensor ที่คอยตรวจจับจุดด่างดำ,

กระ, รอยสิว, รอยแผลเป็นที่หมองคล้ำ เพื่อเน้นย้ำในส่วนนั้นเป็นพิเศษด้วย

และนี่ก็เป็นเครื่องผลักวิตามินรุ่นใหม่ล่าสุด ที่แป้งกำลังใช้อยู่ค่ะ

มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง มาชมกันเลย

 

 

แบรนด์ llexam (เล็กแซม) ของประเทศไหน??

ชื่อแบรนด์อาจจะดูแปลกอยู่บ้าง แบรนด์ llexam คือแบรนด์ที่เน้นBeauty Gadget

จากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นแบรนด์ Maxellค่ะ

ชื่อนี้คงคุ้นเคยกันอยู่บ้าง เพราะในไทยก็มีบางอย่างที่นำเข้ามาขาย

แต่ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นเนี่ย แบรนด์นี้รู้จักกันทุกคนน Maxellอยู่คู่คนญี่ปุ่นมานานมากๆ

บอกเลยว่าแบรนด์นี้ของล้ำๆเยอะ นอกจากเครื่องผลักวิตามินนี้,

ก็ยังมีไดร์ความร้อนต่ำแต่ใช้พลังงานแสงเข้ามาช่วย ชิ้นนี้ก็ล้ำมากก อยากซื้อมาก

แต่…ยังไม่รองรับกระแสไฟในไทย อดเลย มีฝักบัวน้ำไฮโดรเจนด้วยนะ บำรุงผิว

ตั้งแต่ตอนอาบน้ำเลย ชิ้นนี้รอชมรีวิวได้เร็วๆนี้ด้วย ล้ำเวอร์

 

จุดเด่นของ llexam MXFC-1000

การแข่งขันของ Facial Device ที่ญี่ปุ่นสูงมาก ดังนั้นถ้าไม่มีจุดเด่นที่ต่างจากคู่แข่ง

ก็ไม่สามารถโดดเด่นได้ในตลาดแน่นอน

ในรุ่นล่าสุด llexam MXFC-1000เพิ่งเปิดตัวที่ญี่ปุ่นไปเมื่อปลายปี

ในไทยตอนนี้ยังไม่มีจำหน่าย แต่อาจจะนำเข้าเร็วๆนี้ค่ะ

รุ่นนี้จะมาพร้อมเซ็นเซอร์สีม่วง“Spot Detection”

ที่จะคอยตรวจจับจุดด่างดำ, กระ, รอยสิว หรือแผลสิว เพื่อปรับระดับการสั่น

และความร้อนออโต้ เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวบริเวณนั้นๆ

มันจะเวิร์คมากเมื่อเราใช้ร่วมกับวิตามินซี หรือสกินแคร์เพื่อผิวกระจ่างใส

และใช้ร่วมกับอุปกรณ์นี้ พวกจุดด่างดำต่างๆจะจางลงได้เร็วกว่าการทาปกติ

 

ในกล่องจะมี ตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์, หัวล็อคสำลี และคู่มือ (ภาษาญี่ปุ่น)

แต่แม้ว่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่นก็ใช้งานได้ง่ายมากค่ะ ที่ตัวอุปกรณ์เป็นภาษาอังกฤษนะ

เลือกโหมดได้ง่าย ไม่พลาด ไม่ต้องเดา

 

ตัวเครื่องขนาดไม่ใหญ่แบบแบรนด์อื่นค่ะ พกพาได้ไม่ยาก

มี 2 หัวในเครื่องเดียวกัน

 

Thermal Head:ด้านหน้าจะเป็นหัวแบบร้อนทำจาก Titanium  พร้อมเซ็นเซอร์

Cool Head :ด้านหลังจะเป็นหัวแบบเย็น ทำจากอะลูมิเนียม และเพลทสำหรับจับ

ทำจาก Titaniumเช่นกัน (เพลทนี้ต้องจับตลอดเมื่อใช้ จะได้ปล่อยประจุได้

ยกเว้นโหมดเย็น ไม่ต้องจับค่ะ)

4 Skincare MODES 

เครื่องรุ่นนี้มีทั้งหมด 4 โหมดค่ะ

 

Cleansing Modeโหมดทำความสะอาด

ในโหมดนี้ตัวเครื่องจะปล่อยประจุ+ เพื่อดูดสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขนขึ้นมา

บางทีเราคิดว่าเช็ดเครื่องสำอางสะอาดแล้ว แต่พอลองใช้โหมดนี้ สิ่งสกปรกดำๆโผล่มาเต็มเลยล่ะ

วิธีใช้: หลังจากล้างหน้าเสร็จ เช็ดหน้าให้สะอาด แล้ววางสำลีที่หัวแบบร้อน จากนั้นใช้คลิป ล็อคให้แน่น

เทโลชั่น หรือโทนเนอร์ที่สำลี แล้วเลือกที่โหมด “Cleansing” โหมดนี้เครื่องจะอุ่นถึง 40 องศา

ค่อยๆเคลื่อนสำลีไปให้ทั่วผิวหน้า เมื่อครบ 3นาที เครื่องจะดับอัตโนมัติ

(ทุกๆ 45วินาที จะมีเสียงปี๊ปเตือนค่ะ ไม่ต้องตกใจ)

 

 

Moist Mode โหมดผลักวิตามินบำรุงผิว

ในโหมดนี้เครื่องจะเปิดฟีเจอร์Spot Detection อัตโนมัติ เพื่อตรวจจับผิวบริเวณที่มีปัญหา

จุดด่างดำ, รอยสิว, กระต่างๆ เพื่อกระตุ้นและเพิ่มแรงของการสั่นและการผลักลงผิวให้มากขึ้น

โดยใช้ประจุ – ในการผลักสารบำรุงลงสู่ผิว ซึ่งจากผลวิจัยของทาง maxell นั้น

 

เมื่อใช้เครื่อง จะทำให้ผิวชุ่มชื้นมากกว่าการทาด้วยมือเฉลี่ย 1.3 เท่า ตลอดระยะ 8 ชม.

เมื่อใช้เครื่อง จะทำให้สารบำรุงผิว/วิตามินซี ลงลึกเข้าสู่ผิวได้มากกว่าการทาด้วยมือ 1.8 เท่า

วิธีใช้ : โหมดนี้จะใช้กับโลชั่นที่เป็นลักษณะน้ำ หรือเจล หากกังวลเรื่องจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ

ให้ใช้สกินแคร์ที่ผสมวิตามินซี แต่ถ้ากังวลเรื่องความชุ่มชื้น ให้เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ

ไฮยารูรอน หรือคอลลาเจน ทาสกินแคร์ให้ทั่วผิวหน้า แล้วกดเลือกที่โหมด

“Moist” ค่อยๆเลื่อนที่ผิว โดยเริ่มจากแก้มทั้งสองข้าง จากนั้นที่ T-Zone

และปิดท้ายที่บริเวณลำคอ จนครบ 3 นาที

 

 

Mask Mode โหมดใช้กับชีทมาส์ก/ อีมัลชั่น

โหมดนี้จะใช้การปล่อยประจุ+ และ – สลับกัน พร้อมๆกับการสั่นที่ถี่ และความร้อน 40องศา

จะทำให้สกินแคร์ที่มีเนื้อเข้มข้นซึมลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

วิธีใช้ : สามารถใช้ต่อจากโหมดMoist หรือเลือกใช้โหมดนี้ในการบำรุงเลยก็ได้

หากใช้สกินแคร์ที่มีเนื้ออีมัลชั่น หรือมาส์ก

Cool Mode โหมดทำความเย็น

โหมดนี้ไม่มีการปล่อยประจุใดๆ ไม่ต้องใช้สกินแคร์ และเป็นโหมดที่แป้งชอบมากอีกโหมดค่ะ

เพราะใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ตั้งแต่ตอนเช้าที่ตื่นมาแล้วหน้าบวมๆ

ก็ใช้โหมดเย็นนี่แหละ ประคบ จะช่วยทำให้หายหน้าบวมตอนเช้าได้

ความเย็นของโหมดนี้อยู่ที่15 องศา

และการปิดท้ายการบำรุงผิวเมื่อเราใช้ความร้อนในการผลักวิตามิน

และปิดด้วยความเย็นทันที จะช่วยทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีมากยิ่งขึ้น

รูขุมขนกระชับมากยิ่งขึ้นด้วย

 

สำหรับเครื่องนี้สามารถหาซื้อได้ที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปในญี่ปุ่น

ราคา 40,000 เยน (ราวๆ 12,000 บาท) ส่วนในเมืองไทยยังไม่มีขาย แต่สามารถไปลองกันได้

ในงานASEANbeauty 2019โซน JAPAN RECOMMEND

ที่จะจัดในวันที่ 2 – 4 พ.ค.นี้ ที่ไบเทค บางนา

ติดตามรายละเอียดได้ที่  https://www.facebook.com/JapanRecommend/

1 reply »

  1. ติดตามอยู่นะคะ แอบสนใจเครื่องนี้มากบอกเลย แต่อ่านภาษญี่ปุ่นไม่ออก และไม่รู้เลยว่าเขาจะนำเข้าเมื่อไหร่ >.<

Leave a Reply