Review : ETUDE Party in a box

เมื่อตอนปลายปีที่ผ่านมา ทางบริษัทคอสเมก้าได้ส่งของขวัญปีใหม่มาให้ เป็นเซท Party in a box 2010 นี่ล่ะ แพคเกจไม่ต้องพูดถึง ชนะเลิศ…. ในครั้งเลยแว้บมารีวิวให้ชมกันค่า ในกล่องนี้บรรจุไอเท็มน่ารักๆมากมายด้านใน เรียกได้ว่า กล่องเดียวครบ สวยได้เลยล่ะ การเลือกสีสันของแต่ละไอเท็มก็เข้ากันได้ดีค่ะ เราไปชมกันเลย… กล่องเป็นกระดาษแข็งสกรีนลาย มีเชือกสีเงินวิ้งๆ หิ้วได้ด้วยล่ะ หน้ากล่องติดด้วยแม่เหล็กค่ะ แกะเอาของออกแล้วก็ยังใช้กล่องต่อได้ด้วย ด้านในกล่องประกอบไปด้วย Proof10 Mascara#1 Dear Darling Couple#1 Lucidarling Fantastic Gradation Cheek#3 Lucidarling Fantastic Gradation EYE#1 และ กิ๊บมงกุฏวิ้งๆ มาดูกันที่ Eye shadow กัน สีที่อยู่ในกล่องเป็นเบอร์ 1 โทนชมพูค่ะ สีชมพูอ่อน แมทช์กับสีเงินและดำ เนื้อค่อนข้างละเอียด วิ้งพอประมาณสวยดีค่ะ มีสีเงินอันเดียวที่เนื้อจะต่างออกไป เป็นวิ้งใหญ่และเนื้อไม่ละเอียดเท่าสีอื่น ต่อกันที่ Proof10 Mascara#1 มาสค่าร่าเพิ่มความหนาของขนตา กันน้ำได้ดี หัวแปรงแปลกดีค่ะ ชอบแพคเกจนะ สีสันสดใส เนื้อมาสคาร่าปัดแล้วขนตาดูดำขึ้น หนาขึ้นปานกลาง ไม่เลอะเทอะระหว่างวันค่ะ ใช้ 2 item นี้ แต่งตาแล้วได้ประมาณนี้จ้า ลุคใสๆ ต่อกันที่ Blush Lucidarling Fantastic Gradation Cheek#3 บลัชสีน่ารักอีกแล้ว ปัดวนๆให้สีผสมกัน จะได้ออกสีชมพูกลางๆ ไม่อ่อนเกิน สีติดพอสมควรค่ะ ส่วนช่องสีขาวเอามาทำไฮไลท์ได้ด้วย ตอนปัดนี่ได้กลิ่นหอมหวานเลยล่ะ แอบกลัวแพ้เหมือนกัน []

Kirari’s BEST 2010 รวมที่สุดของปี

เผลอไม่ทันไร หมดปีซะแล้ว… ลองนั่งนึกย้อนๆไปปีๆนึงเราซื้อ หรือเราใช้พวกคสอ.เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ไม่อยากรวมตัวเลขเลย แต่ก็เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของผู้หญิงอย่างเรานี่เนอะ ถ้าซื้อในงบประมาณที่จัดไว้ ก็โอเคแหละ เราไม่เคยใช้เกินต่อเดือนเลย ^^ ในครั้งนี้เราขอมาสรุปเครื่องสำอางที่เราใช้ในปีนี้แล้วรู้สึกประทับใจที่สุด แน่นอนว่าเราใช้ดี ชอบมากๆ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้นะจ้ะ ความชอบและผิวหน้าอาจจะแตกต่างกันออกไป ยังไงก็ใช้วิจารณญาณในการรับชมนะคะ สภาพผิวของเรา ผิวขาวมาก มีรอยแดง ดำ จากสิวเยอะบริเวณแก้ม ใต้ตาคล้ำ ผิวหน้าค่อนข้างมีน้ำมันเยอะ แต่ช่วงนี้อากาศแห้งผิวจึงแห้งตามค่ะ **ในแต่ละไอเท็มจะบอกราคาไว้ ซึ่งเป็นราคาที่ทราบล่าสุด ณ ตอนนี้นะจ้ะ บางตัวไม่มีขายที่ไทยก็จะบอกเป็นราคาวอน และราคาเยน เรทล่าสุดตอนนี้ won 0.03, yen 0.37** BEST of Base Make up Shu uemura : STAGE PERFOMER Instant-glow Price: 1,950 บาท จะเรียกว่าเป็นครีมบำรุงก็ได้ แต่ส่วนตัวแล้วหลังจากใช้ให้ความรู้สึกว่าเป็นเบสมากกว่าล่ะ ตัวนี้ใช้แล้วหน้าเด้งมากๆ คือปรับสภาพผิวที่ดูไม่สดใส ให้ดูผิวดีได้ในไม่กี่นาทีเลย ราคาอาจจะแพงไปหน่อย แต่ใช้ได้นานค่ะ สำหรับเราแล้ว ถือว่าคุ้ม เพราะให้ผลที่แตกต่าง อย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับสาวนอนดึก งานเยอะอย่างเราที่สุด BEST of BB Cream Missha M perfect cover BB cream SPF 42 Price: 15,800 won (ประมาณ 474 บาท) บีบีตัวนี้เราชอบที่สุดค่ะ ใช้มาหลายหลอดมากๆ []

Haul: The Body Shop, LANCOME

ช่วงปลายเดือน – ต้นเดือนทีไร ร้านค้าต่างๆชอบลดกระหน่ำเรียกลูกค้าอยู่เรื่อย แน่นอน…เราเองก็เป็น 1 ในลูกค้าที่โดนดูดเข้าไปในร้าน เริ่มจาก TBS หรือ The Body Shop เราเป็นแฟนของร้านนี้คนนึงเหมือนกัน สกินแคร์พวกบอดี้โลชั่น หรือครีมอาบน้ำใช้ดีมากๆ โลชั่นที่เราใช้ประจำเป็นรุ่นน้ำหอม NEROJI JASMIN เป็นบอดี้โลชั่นเนื้อนมผสมน้ำหอม หอมมากๆๆๆๆ ซื้อมานานแล้วใช้ไม่หมดซักที แต่เนื่องจากในเดือนเกิด จะได้ลด 15% ทุกชิ้น เลยไม่พลาดที่จะไปดูซักหน่อย และแล้วก็ได้ของมา 2 ชิ้นค่ะ ช่วงนี้บอดี้ช้อปมีลดราคาพวกครีมอาบน้ำ 30 เปอร์เซนต์ แต่ก็ไม่ได้ซื้อมาค่ะ ที่บ้านยังมีอยู่เต็มเลย รอบนี้ที่ตั้งใจไปซื้อคือแปรงเขียนคิ้ว ถ้าจำได้เราปลื้มแปรงเขียนคิ้วของยี่ห้อนี้ที่สุด เท่าที่เคยใช้มาแล้ว แต่แปรงที่เราปลื้มเนี่ย มาจาก set Travel ค่ะ แปรงมันจะเล็กหน่อย วาดได้สวยและดีมากๆ ครั้นจะไปซื้อเซ็ทแปรงเล็กราคา พันกว่าบาท เพื่อแปรงเขียนคิ้วก็กระไรอยู่ รอบนี้เลยลองซื้อแปรงขนาดจริงดู เหลืออยู่อันเดียวด้วย ราคา 590 บาท แปรงของบอดี้ช้อปเราชอบที่มันตั้งได้ ไม่ทำร้านสัตว์ และล้างได้บ่อย โดยที่ขนแปรงไม่พัง เรามีแปรงหลายอันมากที่มาจากยี่ห้อนี้ แปรงที่อยากแนะนำคือแปรงเขียนคิ้ว กับแปรงเกลี่ยรองพื้นค่ะ สำหรับแปรงปัดแป้ง หรือบลัช เราซื้อมาแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แม้ว่ามันจะนุ่มมาก แต่ปัดแล้วสีไม่ค่อยสวย สู้แปรงขนแท้อย่าง RMK สุดรักไม่ได้เลย เมื่อเปรียบเทียบขนาดกับไซส์มินิสุดที่รัก ไซส์ใหญ่ หัวแปรงแบนกว่าเล็กน้อย และใหญ่กว่าค่ะ ส่วนตัวเราก็ยังคงชอบไซส์มินิมากกว่าเยอะ เขียนได้สวย เขียนง่าย เส้นคมกำลังดีค่ะ อีกชิ้นจาก TBS เป็นน้ำหอมค่ะ กลิ่น Japanese Blossom []

Hual: many thing…

ช่วงเดือนนี้เป็นเดือนพิเศษของเรา (วันเกิดนั่นเอง ปีนี้ 26 แล้วล่ะ แต่ใจหยุดที่ 18 นะก๊ะ เอิ๊กๆ) เดือนนี้เลยมีเรื่องให้ช้อปปิ้งมากมาย วันนี้เลยไม่ลืมมารีวิวเล็กๆ พร้อมเห่อหน่อยๆกับ item ต่างๆที่เพิ่งเก็บเข้าคลังสมบัติค่ะ เริ่มกันที่ของขวัญชิ้นพิเศษจากพี่โบว์สุดสวยยยย ป้ายร้านแฮนด์เมดสุดเก๋ น่ารักมากๆ นอกจากจะสวยแล้ว ฝีมือด้านศิลปะพี่โบว์ไม่เป็นรองใครเลย จำได้ว่าของแต่งร้านกาแฟ Tempo ของพี่โบว์เนี่ย ก็วาดเองหมดเลยเก๋มากๆ ต่อกันที่ทรงผมใหม่ๆที่เพิ่งตัดมาสดๆร้อนๆเลย เปลี่ยนจากลุคสาวหวาน มาเป็นสาวมั่นกันซักนิด เซ็ทผมไม่ยากด้วยทรงนี้ แค่ขยำๆแว๊กซ์กับฉีดเสปรย์อัดไม่ให้ผมฟีบ หลังจากตัดและทรีทเม้นท์เสร็จแล้ว ก็ซื้อ WAX เอาไว้ทันที ขอแนะนำสุดๆกับสาวผมสั้นหรือผมดัดที่ต้องการจัดทรงให้อยู่ทั้งวัน แต่ไม่ชอบให้เหนียวเหนอะ ตัวนี้แบบว่า…เจ๋งมากๆ ใช้มานานแล้วล่ะ แต่หมดไวเลยต้องสอยมา 2 สต๊อกไว้ซักหน่อย หาซื้อยากค่ะ ซื้อได้แค่ตามซาลอนญี่ปุ่น ตัว WAX เราใช้แค่สีส้มเท่านั้นเลย พลังการแต่งทรงดี แต่ไม่เหนียว (เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบสระผมทุกวัน 555) อีกอันเป็น Water wax spray ค่ะ เอาไว้ฉีดปิดท้าย เราชอบหัวสเปรย์นะ แค่หมุนก็เปิดปิดได้เลย พอหมุนเปิดหัวฉีดก็จะเด้งขึ้นมา หมุนปิดก็หายไปพกง่ายดีค่ะ มาที่ Peach miki สุดรัก ใช้ดีจริงๆเจ้าโฟมล้างหน้าไร้ฟองตัวนี้ ติดใจมาก ซื้อมาสองหลอดเลยเนื่องจากหมดไว อีกตัวนึงเป็น I ly dew Cleansing water ค่ะ เห็นใน CLEO แนะนำไว้ จะพลาดได้ไง… หลังจากใช้แล้วติดใจมาก ชอบมากกก คือมันลบได้ไวมาก แค่เทลงสำลีแล้วก็เช็ดออก แต่สำหรับมาสคาร่ากันน้ำอาจจะเอาออกยากนิดนึง เราใช้เช็ดหน้าอย่างเดียวค่ะ []

Hual: Beautilicious

เปิดกล่องหน่อยจิ๊… มาดูกันทีละไอเท็มดีกว่า เริ่มจากแป้งสุดรักของเราตอนนี้ Puff-up Souffle โทนสีเป็นโทนที่เราชอบมาก นั่นคือชมพู-ดำ ตัวตลับใหญ่แต่บางค่ะ แพคเกจน่ารักมากๆๆ ถูกใจเราที่สุดเลย เนื้อแป้งเรายอมรับเลยว่า เยี่ยมจริงๆค่ะ คือเนื้อมันผสมรองพื้นแต่ทาแล้วไม่หนัก ไม่หนา ที่สำคัญ มันคุมมันดีสุดๆ ก่อนหน้านี้เราใช้แป้งมาหลายรุ่นที่คุมมัน ทั้ง K-Palette, Beauty Credit, Coffret D’Or (summer collection) เราว่ามันก็คุมได้ระดับหนึ่ง แต่ beautilicious ทำได้มากกว่านั้น ซึ่งเราชอบมากก สำหรับการทดลองเรื่องการคุมมันเนี่ย เราทดลองดังนี้ค่ะ สกินแคร์และเมคอัพเบส ใช้แบบเดียวกันทุกวัน สภาพแวดล้อมเดียวกันทุกวัน (ออฟฟิส เปิดแอร์ตลอด) ทุกอย่างเหมือนกันต่างกันที่แป้งพัพที่เราเลือกใช้ ผลปรากฏว่า 2 วันที่เราใช้แป้งตลับนี้ ช่วงเช้าเราไม่ต้องซับมันเลย ซึ่งทุกที เราต้องซับประมาณ 1 -2 แผ่นค่ะ สำหรับข้อเสียของแป้งรุ่นนี้เราว่าอยู่ที่พัพล่ะ คือเราไม่ค่อยชอบพัพมันเลย มันเป็นฟองน้ำเนื้อพรุนแต่ไม่ค่อยนุ่มเท่าไหร่ พัพมันไม่ค่อยดูดแป้งด้วย ต้องทาซ้ำหลายทีเหมือนกัน รูปทรงฟองน้ำดูแปลกแต่จริงๆใช้ง่าย เพราะสามารถแตะแป้งในส่วนที่เข้ายากเช่นขอบตา ปีกจมูกได้ง่ายค่ะ รุ่นนี้ได้ยินว่าเป็นแบบทูเวย์คือใช้น้ำได้ด้วย แต่ยังไม่ได้ลองล่ะ ข้ามมาที่ไอเท็มอื่นต่อดีกว่า ตัวนี้ก็เจ๋ง Arch it right eyebrow kit เราอยากได้พาเลทแต่งคิ้วแบบนี้มานานแระ ก่อนหน้านี้เราเห็นของยี่ห้อ Model Co. แต่ราคาสูงเิกินไป เลยตัดใจไม่เอาดีกว่า พอมาเห็นยี่ห้อนี้ราคา 600กว่าๆก็เลยตัดสินใจไม่ยาก ตัวนี้ได้เป็น The winner ของ CLEO beauty hall of fame ด้วย []

Hual-Review:Impress, Lunasol, Dejavu, Caretrico

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายไอเท็มที่เข้ามาอยู่ในกรุเพียบเลย วันนี้ขอมาเห่อและรีวิวในบางส่วนนะคะ เริ่มกันที่ของรางวัลที่ได้จากเวบจีบันกันก่อน จากที่ได้ร่วมสนุกกับฮาวทู Save the world และได้รับรางวัลจากคาเนโบ ต้องขอบคุณมากๆเลยค่ะ ของที่ได้มามีทั้งหมด 2 ชิ้นค่ะ เป็น Impress IC Revitalizing moist up essence (2800 บาท) และ Lunasol Full Glamour Lip S (31 Medium Coral Rose) (1050 บาท) สำหรับตัว Impress IC ตัวนี้ Package เีรียบหรูเหมาะกับราคาหรูๆจริงๆ เปิดออกมาจะเป็นจุกปั๊มค่ะ คุณสมบัติเด่นคือการบำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับส่วนที่ลึกที่สุดของผิวชั้นนอก ความรู้สึกหลังใช้ หลังจากแตะๆตามหน้าและนวดตามวิธีใช้แล้ว รู้สึกว่ามันซึมเข้าไวมากๆ ผิวรู้สึกนุ่มและสดชื่นในทันทีค่ะ แล้วกลิ่นก็หอมด้วย สำหรับวิธีการนวดหน้าด้วยตัวเอง จิ้มที่นี่เลย เค้าทำเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วย วิธีการนวดหน้า มาต่อกันที่อีกชิ้นจากคาเนโบกันบ้าง Lunasol Full Glamour Lip S (31 Medium Coral Rose) เปิดมาถึงกับอึ้งกับกากเพชรระยิบระยับ วิ้งๆสวยมากค่ะ สีนี้ออกชมพูกุหลาบ หากทาจากแท่งจะติดกากเพชร วิ้งพอสมควรเลย แต่ถ้าหากใช้แปรงทาจะไ่ม่ค่อยวิ้งมากค่ะ เนื้อนุ่มมากๆ ทาแล้วปากไม่แห้งเลย สรุปว่าชอบสุดๆค่ะ ตอนที่ไปรับของรางวัลก็เกือบเสียทรัพย์ให้กับ ลิปรุ่นนี้เบอร์ 21 Sugar pink สีน่ารักมาก และก็ eye shadow รุ่น []

Review: Lavshuca Dramatic memory rouge, concealer

Dramatic memory rouge เพิ่งออกสีใหม่มาสองสี เลยฝากซื้อมาสีนึง PK4 ในรูปมันดูชมพูนู้ดนะ แต่พอใช้จริง มันเบจนู้ดเลยล่ะ น่าจะเป็นรหัส BE มากกว่า สีค่อนข้างเบจเข้มเหมือนกันค่ะ สีที่สองเป็น PK3 สีประจำตัวเราก็ว่าได้ หมดไปหลายแท่งมากๆ สีชมพูนู้ดเล็กน้อย สีสวยที่สุดดดดดด สีที่สามก็เป็น OR1 สีโทนส้ม ส้มจริงจังเหมือนกัน แต่สวยดีค่ะ รุ่นนี้ไม่มีวิ้งนะคะ สีจะไม่จัดมาก ทาง่ายค่ะ สีไม่จัดแต่ติดทนนะ จริงๆมีอีกแท่งโทนแดง แต่ให้คุณแม่ไปแล้วค่ะ อดเอามาโชว์ ฮ่าๆ ลองกับท้องแขนสีจะเพี้ยนนิดหน่อยน๊า เอาไว้ค่อยมารีวิวบนปากอีกที สีจริงๆที่ได้บนปากเนี่ย เหมือนสีในแท่งอ่ะค่ะ ข้ามมาอีกรุ่นเป็นรุ่น Jewelry N แท่งจิ๋วมากก ซื้อมาซักพักแล้วล่ะ เป็นสีโทนเบจค่ะ รุ่นนี้เด่นที่วิ้งมาก วิ้งจริงจังเลยล่ะ แต่ทาบนปากก็ไม่เท่าไหร่นะ กำลังดีค่ะ ทาไปทามาจะเริ่มรู้สึกเหมือนสครับปาก เพราะวิ้งมันเยอะ ฮ่าๆ ข้ามมาที่ Concealer สุดร้ากก รอบนี้ถอยสีอ่อนสุดมาค่ะ Light Beige รอบที่แล้วซื้อ Natural Beige ให้คุณแม่ รู้สึกสีเข้มไปนิดสำหรับเรา เลยเอาสีอ่อนกว่าซักหน่อย ตัวนี้เป็นลิปคอนได้ดีเลยอ่ะ ไม่ตกร่อง ปากนุ่มเลย มีรูปที่ถ่ายไว้ รูปซ้ายใช้ PK4 และด้านขวาใช้ Lavshuca concealer ทาแล้วก็ ลงกลอสค่ะ อันนึงนู้ดเบจอมชมพู อันนึงนู้ดเบจซีดๆ รูปล่างนี้ใช้ PK3 ค่ะ นู้ดๆ สีชมพูอ่อน มันเข้ากับการแต่งหน้าได้หลายแบบมากเลย เป็นสีที่เราชอบที่สุดค่ะ (สำหรับสาวผิวแทน []

Review: Maybelline Baby Lips ลิปแคร์สุดน่ารัก Best Cosme 2010 อันดับ 2 ในญี่ปุ่น

หลังจากปล่อยรูปลิปแท่งยักษ์ไปในเฟสบุ๊ค เพื่อนๆก็เข้ามาขำกันใหญ่ ลิปอาร๊ายยใหญ่มากๆ เจ้าลิปยักษ์แท่งนี้ใช้จริงไม่ได้หรอกจ้า เป็นกล่องของขวัญที่ทางเมเบอร์ลีนส่งมา ให้ลองใช้เล่น แกะออกมาก็กรี๊ด เย่… Baby Lips เข้าไทยแล้ว แหม..ลุ้นตั้งนานแน่ะ นึกว่าจะไม่มาซะอีก หากใครที่ติดตามเทรนด์เครื่องสำอางและสกินแคร์ของญี่ปุ่น คงรู้จักเวบ @Cosme (www.cosme.net) กันเป็นอย่างดี เราเป็นคนนึงที่ติดตามเวบนี้มาตลอด อะไรติดอันดับ ก็ลองซื้อมาใช้อยู่เรื่อย และ MAYBELLINE Baby lips ก็คว้ารางวัลใหญ่ปลายปี 2010 มาด้วยล่ะ เป็น Best Lip care อันดับที่ 2 ด้วย ที่ญี่ปุ่นวางขายมาเมื่อต้นเดือนกันยาปีที่แล้วโน่นแน่ะ ด้วยราคา 315 เยน มีทั้งหมด 6 กลิ่นค่ะ (ขอเรียกชื่อกลิ่นตามแบบญี่ปุ่นนะคะ) 

Review: BIODERMA Cleansing water กลับมาแล้ว!!!

สาวๆที่รักผิวหลายๆคนคงพอจะคุ้นหูกับแบรนด์ BIODERMA กันมาบ้าง แบรนด์นี้เคยวางขายในไทยจนทำให้เราติดใจแล้วจู่ๆก็หายแว้บไป หาซื้อกันไม่ได้ ต้องฝากหิ้วกันยกใหญ่ แต่ในวันนี้ เค้ากลับมาแล้ว เย่… Cleansing Water ที่แสนโด่งดัง กลับมาให้เราหาซื้อกันได้ง่ายๆเหมือนเดิมแล้วค่ะ ดังไม่ดังยังไง…เค้าโฆษณากันว่า ยอดจำหน่ายทั่วโลกในทุกๆนาที จะขายได้ 15 ขวดเลยทีเดียว   สำหรับ Cleansing water จะมี 2 สูตรให้เลือกค่ะ คือสีชมพู สูตร Sensibio H2O จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ อ่อนโยนเหมือนน้ำ สะดวกในขั้นตอนเดียว ทั้งเช็ดทำความสะอาดผิวรอบดวงตา และผิวหน้า ทั้งยังไม่มีสารก่อให้เกิดการระคายเคือง Oil-free, Soap-free, Alcohol-free, Perfum-free และด้วยนวัตกรรม Micelle ทำให้ไม่ต้องล้างซ้ำด้วยน้ำ สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้ง – ธรรมดา ผิวแพ้ง่าย ผิวที่เพิ่งผ่านการเลเซอร์ มีพวกรอยแดง หรืออักเสบ ในสูตรนี้จะมีส่วนผสมของ Laminiaria จะช่วยยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง และ Enoxolone ช่วยต่อต้านการอักเสบ ลดอาการแดงของผิว ทั้งสองส่วนผสมนี้เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BIODERMA ค่ะ ส่วนอีกสูตรนึง คือสีเขียว สูตร Sebium H2O จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ สำหรับสูตรนี้จะช่วยทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน ขจัดน้ำมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ตัวนี้ Oil-free, Soap-free, Alcohol-free และเป็น Non-comedogenic ไม่ทำให้อุดตัน สูตรนี้จะเหมาะกับผิวผสม – ผิวมัน หรือผิวที่เป็นสิวได้ง่าย ผิวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ในสูตรนี้จะมีส่วนผสมของธรรมชาติที่ช่วยในเรื่องการคุมต่อมไขมัน Ginko []

Review: Hand cream สุดน่ารักจาก ETUDE & Tonymoly

ตอนนี้เรามี Hand cream สุดน่ารัก 3 ชิ้นที่เพิ่งเข้ามาเป็นน้องใหม่ในกรุ อยากแนะนำจริงๆเพราะหอมมาก และก็น่ารักมากกก ชิ้นแรกเริ่มที่ ETUDE Missing U Hand cream ไม่ได้เลือกที่กลิ่นเลย ฮ่าๆ เห็นแพนด้าน่ารักก็เลยเอาเบอร์นี้แหละ #3 This is “Panda Story” กระปุกจริงเล็กมากๆนะจ้ะ แค่ 30ml เท่านั้น ควักไม่กี่ทีก็หมด แต่ด้วยราคาที่ไม่แพง เลยสอยมาแบบไม่คิด (อันนี้ฝากเพื่อนซื้อที่เกาหลีค่ะ 4500 วอนเองล่ะ) กลิ่นหอมพีชอ่อนๆ แต่ก็ยังมีกลิ่นครีมๆบ้าง จะว่าหอมก็หอมนะ แต่กลิ่นอ่อนมาก คนที่ชอบกลิ่นบางๆน่าจะชอบค่ะ กระปุกน่ารักมาก เป็นฝาเกลียว แค่วางประดับโต๊ะ ก็เพิ่มความน่ารักแล้ว ชอบจัง เนื้อครีมซึมไว ไม่เหนอะ ไม่เหนียว ไม่ค่อยทำให้มือลื่นค่ะ ดีทีเดียว แต่ก็เหมือนว่ามันไม่ได้บำรุงลึกนะ แค่เคลือบผิว ผ่านไปแ้ป้ปนึงก็ต้องทาใหม่ค่ะ มาดูอีกชิ้น… Tony Moly Hand cream ชื่อรุ่นอ่านไม่ออก เป็นภาษาเกาหลีหมดเลย ชิ้นนี้พี่มิ้มซื้อมาฝากจากเกาหลี เพราะชิ้นนี้แหละ ทำให้ ETUDE ที่ว่าหอม ชิดซ้ายไปเลย… อันนี้หอมจริง กลิ่นแรง ติดทน แพคเกจก็บ่งบอก ว่าชั้นน่ะ พีชตัวจริง !! หอมหวานมาก แต่แฟนได้กลิ่นบอกว่าครีมอะไร กลิ่นเหมือนมะม่วงสุก ??? เออแฮะ…บางจังหวะกลิ่นก็เหมือนจริงๆ ฮ่าๆ เนื้อครีมสีชมพูอ่อน ข้นพอสมควร บำรุงได้ดีค่ะ มือจะมันกว่าตัวแรก แต่ก็ไม่เหนอะ เป็นแฮนด์ครีมที่เราชอบอีกชิ้นเลยล่ะ []

รู้จักผิวหน้าของตัวเองอย่างแท้จริงครั้งแรกกับ dermalogica

เมื่อหลายวันที่ผ่านมาเราได้แวะไปที่เคาท์เตอร์ dermalogica เป็นครั้งแรก หลังจากที่เคยได้ยินชื่อนี้มาบ้างใน Aster Spring และก็เห็นเพื่อนๆ beauty blogger พูดถึงแบรนด์นี้กันหลายคนว่าวิเคราะห์ผิวหน้าได้ลึก และแตกต่างจากแบรนด์อื่น ด้วยความอยากรู้เลยอดที่จะแวะไปเยี่ยมไม่ได้ ครั้งนี้เราไปที่สาขาพารากอนค่ะ เคาท์เตอร์สีขาวสะอาดตา จัดวางสินค้าโชว์อย่างเป็นระเบียบ ไปถึงก็เจอคุณก้อย PR สาวสวยผิวดี๊ดียืนอยู่พอดี เลยขอแชะซักภาพ ก่อนที่จะวิเคราะห์สภาพผิวกับเครื่อง Face Mapping เราก็ต้องกรอกข้อมูล พร้อมกับตอบแบบสอบถามเรื่องผิวหน้าและปัญหา รวมถึงสิ่งที่ทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นข้อมูลคร่าวๆให้กับทางผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาผิวเรา หน้าตาเครื่อง Face Mapping เป็นแบบนี้ค่ะ ด้านในที่เห็นเป็นแสงฟ้าๆม่วงๆ เป็น แบลคไลท์ไม่อันตรายต่อผิว ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ เครื่อง Face Mapping เนี่ยเป็นการวิเคราะห์ผิวที่เป็นเอกลักษณ์ของ dermalogica สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพผิวของเราอย่างแท้จริง การวิเคราะห์จะแบ่งออกเป็นโซนๆค่ะ ผู้ที่ทำการวิเคราะห์ให้เราก็จะบอกว่าแต่ละจุดเรามีปัญหาอะไร และควรป้องกันหรือแก้ไขอย่างไร การวิเคราะห์ด้วย Face Mapping พอเราส่องที่กระจกในเครื่องจะเห็นเป็นสีๆดังนี้ สีน้ำเงิน คือ สุขภาพผิวดี สีขาวหรือแถบขาว คือ มีการคั่งค้างของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สีม่วงอ่อน คือ ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น สีม่วง คือ ผิวที่ขาดน้ำมันและความชุ่มชื่น สีน้ำตาลอ่อน คือ การเริ่มเป็นฝ้าที่ใต้ผิวหน้า สีน้ำตาลเข้ม คือ การเป็นฝ้า หรือ กระที่บนผิวหน้า สีส้มอ่อน คือ ผิวมัน สีแดง คือ ผิวเป็นสิวอุดตัน และสิวเสี้ยน และแล้ว ผลการวิเคราะห์ของเราก็ออกมา….. จากเดิมที่เราคิดเองอยู่เสมอว่าเราเป็นคนผิวมัน แต่แท้ที่จริงแล้ว ตอนนี้ผิวเราแห้ง ที่หน้ามันเป็นเพียงการขับน้ำมันเพื่อเคลือบผิวช่วงที่เราอยู่ห้องแอร์ (ซึ่งก็ทั้งวัน) แต่ผิวด้านในจริงๆแล้วแห้งมาก []

Kirarista: sweet winter

เมื่อเริ่มมีลมหนาวก็ขอหยิบเสื้อผ้าน่ารักๆมาใส่บ้าง เดรส 2 ชั้น เน้นที่ลูกไม้หวานๆ สีสันอ่อนโยน แมทช์กับเมคอัพบางใส ดูเบาสบาย Enjoy! Kirarista~

Kirarista: Leopard Lover

เมื่อพูดถึงลายสัตว์ต่างๆ ซีซั่นนี้คงหนีไม่พ้นลายเสือ และลายม้าลาย แป้งเป็นคนชอบลายเสือมากๆ ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ญี่ปุ่นก็จะชอบแบรนด์ Rose FAN FAN เป็นแบรนด์วัยรุ่น เปิดตัวด้วยลายเสือสีชมพูค่ะ มาถึงตอนนี้เราก็ยังชอบลายเสือไม่เปลี่ยนแปลง ให้ความรู้สึกว่าเป็นสาวที่มั่นใจ แม้ไม่ต้องแต่งอะไรโป๊ จะใส่เป็นเดรสยาว เสื้อสูทยาว ก็ยังมีคนทักว่า วันนี้เซ็กซี่นะ ไม่ต้องเปิดให้มาก ก็ดูเปรี้ยว เท่ได้ แค่เลือกลายเสื้อผ้าที่สวมใส่ค่ะ วันนี้หยิบเอาสไตล์ลายเสือมาฝากกัน จะใส่เดรสสั้นหรือยาวก็เก๋ได้ค่ะ รองเท้าลายเสือตอนนี้พลาดไม่ได้กับคอเลคชั่นลายเสือล่าสุดของแบรนด์โปรดอีกแบรนด์ค่ะ “CHARLS & KEITH” Enjoy your days! Kirarista