ครั้งนี้จัดเต็ม 4 รีวิวใน 1 Blog เป็นการรวมเอา 4 เทพจาก SHU UEMURA

ที่เราชอบที่สุดในตอนนี้มารวมไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

บีบี…BB perfector skin smoothing beauty cream SPF 30 PA++

รองพื้น…The Lightbulb  Fluid Foundation

ฟองน้ำ…The Lightbulb Sponge

แป้งตลับ…Dual Fit Pressed powder

ทั้ง 4 ไอเท็มมีความโดดเด่นที่แตกต่าง และรู้สึก fit กับผิวเรามากๆ

จึงกล้าพูดได้ว่า SHU UEMURA เป็นแบรนด์ด้าน Base Makeup ที่เรารักที่สุดค่ะ

มาเริ่มกันที่ชิ้นแรกกันก่อน ซึ่งเป็นไฮไลท์ของซีซั่นนี้ก็ว่าได้

นั่นคือรองพื้นตัวใหม่ล่าสุดจาก SHU UEMURA

The Lightbulb  Fluid Foundation (27ml  1,950 บาท)

รองพื้นตัวนี้ได้รับการยกย่องในญี่ปุ่นว่าเป็น “รองพื้นที่ดีที่สุดของ SHU UEMURA”

ที่ญี่ปุ่นมีการ Pre Launch ไประยะหนึ่งแล้ว และฟีดแบคดีมากๆ

และวันนี้วางขายอย่างเป็นทางการวันแรก ก็พุ่งไปยังอันดับ 2 ของ Ranking รองพื้น

ในเวบ @cosme เวบไซต์อันดับ 1 ในด้านบิวตี้ของญี่ปุ่นค่ะ

ได้ยินแบบนี้หูผึ่งเลย…ก่อนหน้านี้เราปลื้มรุ่น Face Architect มากๆ

มาครั้งนี้จะมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ไปชมกันค่ะ….

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

ปกปิดขั้นสูง แต่ยังคงความ Glow ให้ผิว ชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชม.

 multi-glow oil complex และ buildable oil complex

ช่วยในการปกปิด แต่ยังคงความเปล่งปลั่งให้กับผิว

.

หลากหลายรองพื้นที่ได้ใช้มา ไม่ว่าจะจาก SHU เองก็ตาม เราจะรู้สึกได้ว่า

ถ้าเป็นรองพื้นที่เน้นการปกปิดขั้นสูงสุด มักจะหนาเกินไปจนดูไม่ธรรมชาติ

บางแบรนด์ก็ทำให้หน้ามันเยิ้มง่าย หรือถ้าเป็นรุ่นแมท ก็จะแห้งเกินไปดูไม่สดใส

หรือถ้าเป็นรองพื้นที่เนื้อเนียนบาง แนบสนิทไปกับผิว ก็จะไม่ค่อยปกปิด

ตามหามานานกับรองพื้นที่อยู่กึ่งกลางความพอดี จนในที่สุด SHU ก็ได้พัฒนาสูตรรองพื้น

ที่ตอบโจทย์นี้ออกมา อย่าเพิ่งเชื่อในคำพูดหรือความประทับใจของเรา

จนกว่าจะได้ลองเองนะคะ อยากให้ได้ลอง เพราะมันดีมากจริงๆ

.

.

รองพื้นรุ่นใหม่นี้ ออกมาพร้อมกับฟองน้ำรุ่นใหม่ค่ะ

คือรุ่น The Lightbulb Sponge แต่ก่อนจะไปพูดถึงฟองน้ำ ขอพูดถึงรองพื้นกันก่อน

รองพื้นรุ่นใหม่นี้จะเน้นหนักในความเปล่งปลั่ง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงใดก็ยังดูสวย

ในแสงสีต่างๆจะมีอุณหภูมิสีที่ต่างกัน รองพื้นที่ดีจึงต้องปรับผิวให้สวยไม่ว่าจะอยู่ในแสงใด

แสงเทียน – แสงสีเหลือง – แสงแดด – แสงสีขาว

จากรูปด้านบน แถวบนคือผิวที่ไม่ได้ลงรองพื้น และแถวล่างคือผิวที่ลงรองพื้นตัวใหม่นี้

.

.

Kirari’s Review: ครั้งแรกที่ได้ลอง บอกได้เลยว่า ประทับใจมาก

เนื้อแบบฟลูอิด เบาบาง แต่ปกปิดได้ดีมาก เมื่อทาทั่วใบหน้า แล้วลงต่อด้วยแป้งฝุ่น

(SHU UEMURA Face Powder Sheer) ใบหน้าดูโกลว์แบบธรรมชาติ

ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ดูหน้าแห้งจนเกินไป ทุกอย่างสมดุล

การใช้รองพื้นรุ่นนี้กับฟองน้ำที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ จะทำให้การลงรองพื้นง่าย

และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น แต่ใครที่ไม่ถนัดใช้อุปกรณ์ ก็ใช้แปรง หรือนิ้วมือลงได้เช่นกัน

อีกสิ่งหนึ่งที่เรากรี๊ดมากคือ…ในที่สุดที่ไทยมีเฉดสีที่เราใช้ได้แล้ว (784 Fair Beige)

ทุกที ในไทยจะมีเบอร์ที่สว่างสุดแค่ 774 ซึ่งเราใช้แล้วหน้าจะคล้ำหน่อย

ชอบรุ่นไหนก็ต้องไปซื้อเอาที่ญี่ปุ่นหรือฮ่องกงซะส่วนใหญ่

แต่รุ่นนี้นำเข้ามาถึง 974 ที่เป็นเฉดสว่างสุดเลย สาวผิวขาวใช้ได้สบายค่ะ

ในรูปลงเพียงแค่รองพื้นอย่างเดียว ไม่มีคอนซีลเลอร์หรือสิ่งอื่นค่ะ

ปกปิดได้ดีมาก และไม่ดูหนาค่ะ

.

.

สรุป

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับใคร… ทุกสภาพผิว

จุดเด่น… ปกปิด เรียบเนียน และทำให้ผิว Glow อย่างธรรมชาติ

จุดด้อย… ไม่มีส่วนผสมของสารกันแดด

.

.

ถัดมาก็ขอพูดถึงฟองน้ำรุ่นใหม่  The Lightbulb Sponge (แถมกับรองพื้นรุ่น lightbulb)

เรียกได้ว่าเป็นฟองน้ำลงรองพื้นที่ดีที่สุดชิ้นนึงก็ว่าได้ และทำยากที่สุดชิ้นนึง

แต่ละชิ้นคัดสรรวัสดุอย่างดี และใช้มือตัดแต่งทรงทุกชิ้น จึงกว่าจะได้มา

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

ฟองน้ำที่เป็นการรวมเอาคุณสมบัติของแปรงสองชนิดไว้ด้วยกัน

ช่วยในการลงรองพื้นได้ง่ายและเรียบเนียน

วัสดุเป็นยางคุณภาพสูง (NBR) มีความหนาแน่น ป้องกันแบคทีเรียและ รังสี UV

จึงมีความทนทาน นุ่มสบายผิว

ที่มาของรูปร่างฟองน้ำก็ตามภาพด้านบนเลยค่ะ

ด้านกว้างจะต้านการซึมผ่านของน้ำมัน ทำให้ลงรองพื้นแล้วผิวยังคงความเปล่งปลั่ง

ด้านเรียวเล็ก จะเคลือบผิวพิเศษเพื่อดูดซับน้ำมันส่วนเกิน ใช้ในการลงบริเวณซอกเล็กๆ

หรือการเกลี่ยรองพื้นให้แนบกับผิวในบริเวณตา ร่องแก้ม หรือมุมปาก

วิธีการใช้ฟองน้ำให้ได้ประสิทธิภาพ

Kirari’s Review: ฟองน้ำเนื้อนุ่ม แน่นระดับปานกลาง มีการเคลือบพิเศษทำให้

เวลาใช้ฟองน้ำนี้ลงรองพื้น รู้สึกแตกต่างจากฟองน้ำรุ่นเก่าอย่างมาก

(ฟองน้ำ 5 เหลี่ยมจาก SHU UEMURA) ฟองน้ำทั่วๆไปจะดูซับเอาเนื้อรองพื้น

ไปค่อนข้างเยอะ เวลาใช้ฟองน้ำในการลงรองพื้นจึงเปลืองกว่าปกติ

ซึ่งรุ่นนี้ดูดซับน้อยกว่าค่ะ แต่ยังคงความนุ่มสบายเวลาลงที่ผิวหน้า

ส่วนตัวแล้ว ชอบมากกว่าฟองน้ำห้าเหลี่ยมที่ใช้อยู่ หรือฟองน้ำหยดน้ำราคาแพง

ของหลายๆยี่ห้อ น่าแปลกใจที่เป็นฟองน้ำทำมือ ทำยากขนาดนี้ แต่ราคาไม่แรง

อย่างที่คิด เป็นอีกชิ้นที่แนะนำค่ะ

.

สรุป

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับใคร… คนที่ใช้รองพื้นลักษณะ Fluid, Liquid โดยเฉพาะ

รองพื้นรุ่นใหม่จาก SHU UEMURA

จุดเด่น… คุณภาพสูง แน่น นิ่ม ลงรองพื้นได้แนบสนิทกับผิว

จุดด้อย… ซักทำความสะอาดให้หมดจดค่อนข้างยาก

.

.

มาต่อกันที่

BB perfector skin smoothing beauty cream SPF 30 PA++ (1,500 บาท)

บีบีครีมรุ่นแรกจาก SHU และทำออกมาได้ดีมากค่ะ

แม้วว่าเฉดสีจะมีแค่เฉดกลางสีเดียว สำหรับโทนสีผิวเราใช้ได้

แต่หน้าจะไม่ดูโกลว์เท่าไหร่ เหมาะกับการใช้ในทุกๆวันหรือวันที่มีการถ่ายภาพ

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

ซ่อมแซม… ส่วนผสมจากถั่วเหลืองและวิตามินอี ช่วยลดริ้วรอย กระชับผิว

ชุ่มชื้น… Marine Herb Complex ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว

เตรียมพร้อมผิว… Smoothing Veil Technology ปรับโทนสีให้สม่ำเสมอ

คุมความมัน และอำพรางรูขุมขน

ปกปิด… Ultra Fit Technology สามารถปกปิดรอยต่างๆได้ เพียงแค่แตะย้ำ

กระจ่างใส… ด้วยเทคโนโลยี Lumipearl

Kirari’s Review: สำหรับบีบีครีมหลอดนี้เราใช้จนจะหมดหลอดแล้วค่ะ

ใช้แทบทุกวัน พกง่าย เนื้อเกลี่ยง่ายมาก จะใช้นิ้วหรือฟองน้ำก็เรียบเนียน

เมื่อเทียบกับรองพื้นแล้ว เนื้อบีบีจะเบาบางกว่า และให้ความชุ่มชื้นมากกว่า

พร้อมกับมีสารกันแดดในตัว แต่ในด้านการปกปิด ก็ยังสู้รองพื้นไม่ได้อยู่ดีค่ะ

แต่เมื่อเทียบกับบีบีครีมยี่ห้ออื่นๆแล้ว ของชูเนื้อจะบางเบา ปกปิดสูงกว่า

แต่ข้อเสียเดียวนั่นคือไม่มีเฉดสีให้เลือกค่ะ

สรุป

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับใคร…ทุกสภาพผิว ต้องการบำรุงพร้อมกับการปกปิด

จุดเด่น… เนียนบาง แต่ปกปิดได้ดี เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ

จุดด้อย…ไม่มีเฉดสีให้เลือก

.

.

และมาถึงชิ้นสุดท้ายค่ะ  Dual Fit Pressed powder

(Refill powder 1,050 บาท และ ตลับพร้อมแปรง 600 บาท)

แป้งอัดแข็งสองเนื้อในตลับเดียว มาในรูปแบบแปรง ชิ้นนี้ก็เป็นอีกชิ้นเด็ดของชูค่ะ

เราใช้สี Beige ค่ะ (จริงๆ Sand ก็ได้เหมือนกัน ออกโทนชมพู แต่จะเข้มกว่าหน่อย)

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

แป้งอัดแข็ง ไม่ผสมรองพื้น คนที่แพ้ง่าย หรือเป็นสิวง่ายสามารถใช้ได้

เนื้อแป้งสองเนื้อ ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนกลมกลืน ไม่มันวาว แต่ยังคงความชุ่มชื้น

มาในตลับกะทัดรัด และแปรงขนนุ่ม

silky moisture powder ให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับบริเวณยูโซนที่ขาดความชุ่มชื้น

anti-shine powder ช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินและป้องกันความมันเงา

เหมาะสำหรับบริเวณทีโซนซึ่งมันง่าย

Kirari’s Review: แป้งเนื้อเนียน มีสองเนื้อทำให้คุมมันได้ในระดับพอดี

ตลับน่ารัก พกสะดวก ตัวแปรงเป็นแปรงขนสัตว์ นุ่ม และปัดได้ง่าย

เนื้อแป้งไม่ผสมรองพื้น เหมาะกับการปัดทับรองพื้น หรือระหว่างวัน

ช่วยปกปิดรูขุมขนและดูดซับความมันได้ดี แต่ถ้าวันไหนไม่แต่งหน้า

ก็ปัดบางๆเพื่อคุมไม่ให้หน้ามันเยิ้มก็ได้ค่ะ รุ่นนี้ไม่ผสมรองพื้น อาจจะติดทนสู้แบบ

ผสมรองพื้นไม่ได้ แต่สามารถปัดทับได้เรื่อยๆโดยไม่ทำให้เกิดคราบค่ะ

.

.

สรุป

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับใคร… ทุกสภาพผิว รวมทั้งผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย

จุดเด่น… ไม่ผสมรองพื้น อ่อนโยนต่อผิว เนื้อแป้งสองแบบคุมมันได้ในระดับสมดุล

จุดด้อย.. เท่าที่ใช้มา ยังไม่พบค่ะ

สรุปแล้วทั้ง 4 ชิ้นนี้ คือ 4 ชิ้นที่เราขอยกให้เป็น Kirari Recommended items

เพราะใช้แล้วชอบมาก ด้วยราคาระดับกลาง แต่ให้คุณภาพระดับสูง (ถึงสูงสุด)

เราว่าคุ้มค่ามาก ทุกชิ้นเมื่อหมดแล้วเราคง Repeat ซื้อใช้ต่อแน่นอนค่ะ

.

.

Product Information

The Lightbulb  Fluid Foundation (27ml  1,950 บาท)

The Lightbulb Sponge (แถมจากรองพื้น)

BB perfector skin smoothing beauty cream

SPF 30 PA++ (1,500 บาท)

Dual Fit Pressed powder

(Refill powder 1,050 บาท และ ตลับพร้อมแปรง 600 บาท)

หาซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ SHU UEMURA ทุกสาขา