มาต่อกันที่ Tokyo Winter Trip ในวันที่ 2
ในวันนี้จะไปกันที่ย่าน Kichijoji เพื่อไปเล่นกับน้องเหมียวที่ Calico Cat Cafe’
ช้อปปิ้งย่านของน่ารักราคาไม่แพง และต่อด้วยการไปชิลๆกันที่ Tokyo Disney Sea
ในวันที่สองนี้เริ่มจากการไปเล่นกับน้องเหมียวที่ Calico กันก่อน
ตอนแรกก็ลังเลว่าจะไปที่สาขา Shinjuku ดีมั้ย เพราะสาขานั้น มีแมวอยู่ 50 กว่าตัว
เป็น Cat Cafe’ อันดับหนึ่งในโตเกียวด้วย แต่เดินไกลจากสถานี
เราเลยไปอีกสาขานึงที่อยู่ย่าน Kichijoji (吉祥寺) ย่านนี้เรามาเดินกับเพื่อนๆบ่อย
เพราะเป็นย่านที่ของน่ารัก ช้อปเพลิน ราคาไม่แพง
และก็มีสวนสาธาณะให้เดินเล่นชิลๆด้วย
Calico ที่สาขา Kichijoji นี้มีแมวอยู่ 25 ตัวค่ะ เดินใกล้สถานีมาก (ถ้าไม่หลง55)
How to go: นั่งรถไฟสาย Chuo 中央線快速 (สายสีส้ม) จาก Shinjuku
ลงสถานี Kichijoji 吉祥寺 ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นออกทางออก Kou En 公園 (Park)
หรือ South Exit เดินออกทางออกไปทางขวาจนเจอร้านราเมงด้านล่าง
ตรงนั้นจะเห็นป้ายแมวอยู่ ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 4 Calico ได้เลย
ขึ้นมาบรรยากาศร้านเป็นแบบนี้ ต้องล้างมือและถอดรองเท้าก่อนค่ะ
จากนั้นก็ชำระค่าบริการ ที่นี่จะคิดเป็นชม. ขั้นต่ำ 1 ชม. 1,000 JPY ในวันธรรมดา
และ 1,200 JPY ในวันหยุด ถ้าจะเล่นต่อ เกินเวลาก็คิด 10 นาที 150 JPY ค่ะ
ที่นี่เปิดบริการ 10 โมงเช้าค่ะ เราไปถึงประมาณ 10:15 คนไม่ค่อยมีเลยค่ะ ชิลๆ
ที่นี่จะมี Book แนะนำชื่อและประวัติของเด็กๆในสังกัดทั้งหมด
หรือใครอยากจะเข้าไปดูเต็มๆได้ที่เวบไซต์ก็ได้นะคะ เค้าเขียนบล๊อกด้วย อ่านเพลินเลย
แมวคาเฟ่ ก็เหมือนกันทุกที่ คือจะไม่ค่อยสนใจ ไม่อ้อนคน
เว้นแต่… ตอนที่เรามีขนมในมือ
น้อง Kukuru สีเทา หน้าบูด
น้อง Komugi ว่องไวสุดๆ
ตอนแรกก็ไปนั่งเล่นๆ ดื่มเครื่องดื่มปกติ
มันก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก ก็เลยเดินไปที่เคาท์เตอร์ ซื้อขนมแมว
เท่านั้นแหละ ทุกตัวมอง เดินมาอ้อนขอ นั่งเฝ้ากันเลยทีเดียว
เจอกองทัพแมวกดดัน มันก็เกร็งนะ…
แมวบางตัวก็อ้อนนิสัยดีค่ะ แต่บางตัวก็เกเร เอาเล็บจิกก็มี ตัวไหนจิก ก็ไล่
ไปไกลๆเลย ไม่ชอบแมวดื้อ มันก็รู้นะ หายไปพักนึงแล้วค่อยมาใหม่
น้อง Alice (ตัวที่ใส่เสื้อชมพู) ตัวนี้งกสุด ขอขนมตลอด
น้อง Tamako หน้าบู้ แต่ขี้อ้อน
ตัวนี้อ้อนพี่หมีตอน เอามือแตะ ขอขนมเก๊าหน่อย น๊าๆๆๆ เอามือแตะเบาๆ น่าร้ากกก
น้อง Osechi แมวเทามีพลัง
ตัวนี้ตะปปขอขนมแบบเบาๆ จงเอามานะ!
ส่วนตัวที่นิสัยไม่ดีสุด คือตัวนี้เลย Aoba
เจอเราตีไปทีนึง มันจิกด้วยสองมือ เอาขนมม๊า!!! ไม่ให้ว้อยย ไปๆๆๆ
เด็กไม่ดีก็อดกินโอเค๊…
เป็นกับทุกคน เอาเล็บจิกเนี่ย นิสัยไม่ดี
Munchkin ก็ตลกดีเนอะ มีขาก็เหมือนไม่มี เหมือนเป็นตุ่มอะไรยื่นจากตัวมากกว่า
ตัวนี้ชื่อ Yotsuba ไม่ค่อยชอบเล่น
ตัวนี้ก็สวย Chocora
ชอบแมวที่มีแผงคอจัง
น้องหูพับ Kurumi อ้อนเบาๆ เรียกร้องความสนใจ
ทำหน้าแบบนี้ ขอขนมล่ะสิ….
แต่แมวที่นี่ก็แปลกนะ หน้าอ้อน แต่แอบดูโหด เอาขนมมา….
สองรูปล่างนี้เราขำมาก เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างจริงๆ
พร้อมใจกันจ้อง และพร้อมใจกันเมิน
.
.
จบจากภารกิจฟัดน้องเหมียวก็เดินเล่นกันต่อที่ Kichijoji Sun Road
เป็นถนนคนเดิน สองฝั่งมีร้านค้ามากมาย ราคาไม่แพงด้วย ช้อปเพลินเลย
จากนั้นก็เอาของยัดลง Locker แล้วนั่งรถไฟไป Tokyo Disney Sea
.
How to go: จาก Kichijoji 吉祥寺 นั่งรถไฟสาย Chuo 中央線快速 สีส้มสายเดิม
ไปลงที่สถานี Tokyo 東京 (ใช้เวลา 29 นาที)
แล้วต่อรถไฟสาย Musashino 武蔵野線 (ในสถานีเดินไกลม๊ากก) กรุณาเตรียมใจ
ลงที่สถานี Maihama 舞浜 (ใช้เวลา 16นาที ไม่รวมเดินอีก 8 นาที)
หลังจากลงแล้ว ก็เดินไปต่อรถไฟของ Disney Resort ลงที่ Disney Sea ค่ะ
ทั้งหมดนี้ใช้บัตร Suica ได้ตลอดทางเลย
รถไฟยังน่ารักเลยอ่า ห่วงจับ หน้าต่าง เป็นมิกกี้หมดเลย
ค่าเข้า One day pass 6,200 JPY ค่ะ เดินกันจนปวดหลัง
มันใหญ่นะ ใครว่าซีเล็ก ไม่เลย เดินไม่ทั่วเลย เมื่อยขาซะก่อน
ก่อนหน้าที่จะเดินเล่น แนะนำให้ดูโปรแกรมโชว์ก่อนว่าอยากดูโชว์ไหน
เรา mark ไว้เรียบร้อย ใกล้ๆเวลาก็ค่อยเดินไปตรงที่เค้าจัดโชว์
แต่ถ้าเดินไปแล้วเจอคนนั่งรอก่อนเป็นชม.ๆ ก็ไม่ต้องตกใจ เป็นเรื่องปกติของญี่ปุ่นค่ะ
.
.
เดินมาอีกด้านที่แสงยามเย็นสาด ก็สวยไปอีกแบบนะ
ตึกนี้น่าเล่นอ่ะ แต่คนเยอะมากกกกกก
เป็นเครื่องเล่นที่ให้นั่งแล้วตกลงจากที่สูงไรงี้ แต่ไม่โหดมากเท่าไหร่
พอพระอาทิตย์ตกปุ้ป บรรยากาศเปลี่ยนเป็นคนละฟีลเลย
ชอบที่สุด….
มุมด้านล่างนี้คนต่อคิวกันถ่ายเยอะเหมือนกัน เป็นมิกกี้กับมินนี่เวอร์ชั่นฤดูหนาวค่ะ
น่ารักมากๆ
บรรยากาศยามค่ำคืนเริ่มมา แม้ว่าจะเพิ่ง 5 โมงกว่าๆเอง
อากาศเริ่มหนาวแล้วค่ะ
.
.
มาที่มุมเรือบังคับ เราไม่ต้องบังคับเอง เค้าบังคับให้ไม่ชนกัน แสงฟ้าๆสวยดีค่ะ
แต่คิวยาวมาก เลยไม่ต่อคิวเล่นซักอย่าง
เราชอบเล่นอะไรโหดๆมากกว่า คงไปรอต่อคิวที่ Fuji Q ดีกว่ารู้สึกคุ้มที่ต่อเป็นชม.
ถ้าสังเกตดีดีๆ รูปล่างนี้เรามีบางอย่างหายไป….
ติ๊กต่อกๆๆๆ ….
.
.
where’s my legging? ใช่แล้ว วอร์มเมอร์เลกกิ้งเราหายไป
ไม่ได้หลุดหายหรอกแต่เราถอดทิ้งมันเอง
ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งเตือนใจนะ เลกกิ้งตัวนี้เราซื้อที่ญี่ปุ่น เป็นผ้าวูล ซื้อมานานแล้ว
และก็ไม่ได้หยิบมาใส่สองปีได้ละ ทริปนี้เห็นว่าที่นี่หนาวเลยหยิบมาจะใส่
สรุปคือยางยืดมันเลื่อมจ่ะ… เดินไปกางเกงจะหลุดไป แถมจะดึงเกงในหลุดมาอีก
เลยเข้าห้องน้ำถอดทิ้งเลย ณ ตอนนี้อุณหภูมิตัวเดียว ช่วงล่างหนาวมาก 555
.
.
เดินไปหนาวไป ไปดู Show กันดีกว่า
“Fantasmic”
.
.
ดูโชว์จบก็เดินเล่นไปมุมต่างๆต่อ
มาช่วงปลายปีมันเริ่ดตรงที่ประดับไฟเป็นรูปเกล็ดหิมะ เป็นลายที่เราชอบมากๆเลยนะ
จากนั้นก็เดินไปดูอีกโชว์นึงค่ะ เป็นโชว์พิเศษสั้นๆ
“Color of Christmas”
ปิดท้ายถ้วยพลุปิดโชว์
จบค่ำคืนแห่งเท้าระบม…
แหม…ไม่อยากจะคิดถึงตอนเดินกลับ สถานีโตเกียวอันแสนไกล….
.
.
ชอบทุกอย่างที่นี่เว้นแต่คนเยอะเกินไปนี่แหละ
ตาลาย และรู้สึกเสียพลังไปเยอะมาก แต่ก็ยังเป็นอีกที่ที่ชอบนะ
ในตอนหน้า วันที่ 3 จะพาไปชมวิวต้นอิโจว (ต้นแปะก๊วย) ที่ขึ้นทิวเหลืองสวยสุดดๆๆๆ
พาชิม Tonkatsu ที่เราชอบที่สุด, ไปไหว้พระที่ Asakusa
และพาไปดูไฟปลายปีกันที่ Tokyo Tower, Tokyo Midtown และ สถานที่แห่งความทรงจำ
Yebisu Garden Place ค่ะ
.
.
To be continued…
.
.
.
ย้อนอ่านบทความท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตอนอื่นๆได้ที่นี่
Categories: Dining & Traveling
2 replies »