รีเควสกันมาเยอะ พอประกาศปุ๊ปก็รีบมาอัพเดทให้ชมกันค่ะ
เผื่อใครไปญี่ปุ่น ไม่รู้จะซื้ออะไร ซื้อตามนี้ไปเลย ไม่ผิดหวัง ชอบจริงๆของตาม ranking เนี่ย
ช้อปเพลินมาก บล๊อกนี้มาพร้อมราคา และมินิรีวิวในชิ้นที่เราเคยใช้แล้ว
*ราคาที่เขียนไว้ ยังไม่รวม TAX 8% นะจ้ะ
เริ่มจากรางวัลใหญ่ของครึ่งปีแรก เป็นรางวัลที่คัดเลือกมาว่าเป็นที่สุด ของที่สุดในครึ่งปี ได้แก่
Lip Tint จาก OPERA
ลิปที่เนื้อนุ่ม ชุ่มชื้น เนื้อแวววาว ได้สีใสๆแบบทิ้นท์ และติดทน (1,500 JPY)
.
Shu Uemura คว้า BEST CLEANSING ไปครองค่ะ
Ultime8 Sublime Beauty Cleansing Oil (4,400 JPY/ 11,500 JPY)
ต้องเป็นรุ่นนี้ด้วยนะ Ultime8 เราเคยรีวิวไว้แล้ว ใช้ดีมากจริงๆ ลบได้สะอาด
อ่อนโยน พร้อมกับบำรุงผิวด้วย ผิวนุ่มเลยล่ะ
ดูรีวิวที่นี่ >> https://youtu.be/6QZSEQg3370
.
BEST LOTION ได้แก่ Diorsnow Essence of Light (6,900 JPY)
เน้นจัดการกับเมลานิน เพื่อผิวขาวกระจ่าง เราว่าช่วงปีนี้ดิออร์มาแรงมากในญี่ปุ่น
.
Best Moisturizer ได้แก่ ONE by KOSE (5,000 JPY/ 8,500 JPY)
ชิ้นนี้เราว่าน่าสนใจ เพราะเป็นอีกชิ้นที่เน้นความชุ่มชื้น และลดริ้วรอยเป็นหลัก
โดยใช้ส่วนผสมจากข้าว No.11 เป็นข้าวสายพันธุ์ที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่อผิวสูงสุด
ราคาก็แรงประมาณนึง (120ml 8,500 JPY) เอาไว้รอบหน้าไปแล้วจะซื้อมาลองดู
อันดับ 2 นี่เห็นในแมกกาซีนทุกเล่ม
POLA Wrinkle Shot Medical Serum (15,000 JPY)
ราคารุนแรงมาก แต่ช่วยลดริ้วรอยได้จริงตั้งแต่หลังใช้ทันที
เมื่อใช้ต่อเนื่องริ้วรอยก็ยิ่งจางลง ยิ่งอ่านรีวิวของสาวญี่ปุ่นยิ่งอยากใช้
เค้าบอกกันว่า ใช้ต่อเนื่องมาเดือนนึงหมดหลอดพอดี เส้นริ้วรอยต่างจางลง
โดยเฉพาะร่องแก้ม เส้นมันบางลง และหดสั้นลงด้วย น่าลองมากกก
อันดับ 3 เป็นเซรั่มหมวด whitening ชิ้นเดียวใน Ranking
ได้แก่ DECORTE whitelogist bright express (15,000 JPY / 18,000 JPY)
เซรั่มที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างด้วยการจัดการเมลานินอย่างตรงจุด
.
Best Cleanser ได้แก่ ORBIS AQUA FORCE (1,300 JPY)
เน้นเรื่องทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจด รูขุมขน แต่ไม่ทำลายความชุ่มชื้นในผิว
.
Best Sunscreen ได้แก่ DECORTE Sun Shelter SPF50+ PA++++
(3,000JPY/ 4,200 JPY)
กันแดดตัวล่าสุดที่เพิ่งวางขายเมื่อต้นปี แต่ฮิตมาก
เพราะกันแดดได้ด้วย กันฝุ่นก็ได้ และยังลดความเครียดในผิว ที่จะทำให้ผิวดูหมอง ดูสุขภาพไม่ดี
เป็นอีกชิ้นที่ปักหมุดไว้ว่าอยากลองมากๆ
.
อันดับสองก็น่าสนใจ เพราะเป็นแบรนด์ราคาเบาๆอย่าง นีเวีย แต่รุ่นนี้เนี่ย เข้าไทยยังนะ?
ถ้าใครเห็นฝากบอกด้วย จะไปซื้อมาลองใช้ดู
.
Best Lip care ได้แก่ Dior Addict Scrub & Balm (3,600 JPY)
.
Best Sheet Mask ได้แก่ Saborino Morning Mask white (1,300 JPY)
ชิ้นนี้ก็ฮือฮา ออกมาเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาค่ะ มี 28 แผ่น ราคาเบามากแค่ 1,300 เยน
เป็นชีทมาส์กที่ใช้ตอนเช้าของทุกวัน ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เมคอัพติดทนขึ้น มาส์กแค่ 60 วินาทีก็ได้ผิวดีๆแล้ว
.
Mask อันดับ 2 จำได้ว่าซื้อมาแจกลูกเพจกันด้วย เพราะมันฮิตจริงอะไรจริง (3 แผ่น 690 JPY)
จากแบรนด์ My Beauty Diary ของไต้หวัน แต่รุ่นนี้ใช้ส่วนผสมจากญี่ปุ่น เป็นรุ่น Premium ค่ะ
เน้นชุ่มชื้นระดับสูงสุด ให้ผิวใส เด้ง
.
Best Base ได้แก่ EXCEL Glow Luminizer UV
35g 1,700 JPY
เบสที่ปรับผิวโกลว์สวย ช่วยพรางรูขุมขนให้ดูเล็กลง
หรือจะใช้ปิดท้ายเป็นไฮไลท์เนื้อครีมก็ได้
.
Best Powder Foundation ได้แก่ CHANEL Le Blanc Compact Radiance (7,500 JPY)
แป้งผสมรองพื้นเนื้อเนียนกริบ ที่แม้ว่าจะโดนเหงื่อ โดนน้ำ ก็ไม่เยิ้ม ไม่แตก
ให้ผิวที่ดูสวย เรียบเนียนทั้งวัน (สาวๆเค้ารีวิวกันว่าแบบนี้แหละ น่าซื้อจัง)
อันดับ 2 ก็น่าสนใจ แหม๊…สอยเบสยี่ห้อนี้มาครบ ดันไม่ยอมสอยแป้งมาด้วย เสียดายจัง
ของ SOFINA Primavista Powder Foundation (3,800 JPY)
รุ่นนี้เน้นหนักเรื่องการปกปิดรูขุมขนค่ะ เมื่อใช้แล้วจะดูอายุผิวน้อยลง
แบรนด์นี้จะดังในหมู่สาวๆที่อายุ 25ปีขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่ผิวเริ่มเกิดปัญหา
.
Best Liquid Foundation ได้แก่ SHISEIDO Synchro Skin Glow Fluid Foundation
30ml 5,000 JPY
รองพื้นที่เนื้อเนียนเวอร์มากกกกก ใช้แล้วผิวสวยดูมีประกาย รุ่นนี้ไม่คุมมันนะจ้ะ
คนไทยอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ แต่สาวญี่ปุ่นชอบมาก ทาแล้วผิวสวย สุขภาพดี
จะบอกว่ารุ่นนี้น่ะ ก็มีคุชชั่นออกมาด้วย แล้วก็กอดคอคว้าอันดับ 1 ไปพร้อมกันเลย ของเค้าดีจริงๆ
.
อันดับ 2 คือ KATE Secret Skin maker zero (30ml 1,600 JPY)
รองพื้นรุ่นนี้เน้นเรื่องการปกปิดผิว ให้ดูเนียนกริบในขั้นตอนเดียว
ยังไม่ได้ไปลองเลยยังพูดอะไรมากไม่ได้ ขอไปลองก่อนนะ
ส่วนอันดับ 3 ในตอนนี้ แต่เป็นรองพื้นที่เราให้เป็นอันดับ 1 ในใจของครึ่งปีแรกนี้นะ
นั่นก็คือของ SHU UEMURA Petal Skin Liquid Foundation
เนื้อมันเนียนมากกก ปกปิดมากกกก แต่ไม่หนาเตอะ ไม่ได้ดูโบก
คือใช้แล้วผิวดี๊ดี ดูฉ่ำน้ำ แต่ไมได้มันเยิ้ม
.
Best Cushion ได้แก่ SHISEIDO Synchro Skin Glow Cushion compact
12g 5,500 JPY
คุชชั่นที่เราชอบบบมากกกอีกรุ่นนึง เพราะเนื้อดีมากกก ไม่ว่าจะเจออากาศร้อน หรือหนาวก็
ยังทำให้ผิวสวย โกลว์อยู่ ไม่ได้คุมมันมากนักนะ แต่ไม่ได้ทำให้หน้ามันเยิ้ม
อันดับ 2 เป็นคุชชั่นจาก Dior รุ่นล่าสุดค่ะ DiorSkin Forever Cushion (6,500 JPY)
รุ่นนี้ก็เนื้อดี ปกปิดน้อยกว่า Shiseido หน่อยนึง เน้นผิวเรียบเนียน
ถ้าเทียบกันเราว่าพอๆกันกับของชิเซโด้นะ ถ้าให้เลือกเราก็ยังเลือกชิอยู่ดี เพราะได้การปกปิดด้วย
แต่สาวญี่ปุ่นหลายคน ชอบแนวผิวเนียนๆ ไม่ต้องปกปิดมาก เน้นเผยผิวก็จะชอบตัวนี้
.
อันดับ 3 คือ LANCOME Blanc Expert Cushion Compact H (6,500 JPY)
อันนี้ก็ดีงาม แบบว่าต้องมี! เพราะเป็นรุ่นที่เนื้อเนียนไปกับผิว
ปกป้องผิวจากฝุ่นได้ด้วย ง่ายๆคือกัน PM2.5 ได้ด้วย ช่วงที่เราไปญี่ปุ่นก็ใช้รุ่นนี้ตลอด
เริ่ดเวอร์ ผิวไม่เป็นสิวผดจากอาการแพ้ฝุ่นและละอองเกษรด้วย
.
มันพอดี๊พอดีที่เราเคยทำคลิปเทียบคุชชั่นไฮแบรนด์ไว้ให้แล้ว มีครบเลยล่ะ (แต่ลังโคมเป็นอีกรุ่นนะจ้ะ
ตอนนั้นรุ่น Blanc ยังไม่ออก)
.
Best Stick Foundation ได้แก่ CLE DE PEAU BEAUTE tent stick éclat
9g 8,000 JPY
ชิ้นนี้ในไทยมาแล้วนะ ถ้าจำไม่ผิดราคาราวๆ 3,500 บาทค่ะ มีอยู่ในกรุแล้ว
แต่ยังไม่ทันรีวิวเล้ยยย ของไทยเพิ่งเข้าเลย เดี๋ยวรีบทำรีวิวให้นะ
แต่สั้นๆสรุปได้ว่า มันบางมาก เนื้อจะฉ่ำๆหน่อย ได้ผิวแบบโกลว์สวย
เหมาะกับคนที่ผิวดีเป็นทุนเดิม หรือคนที่อยากได้ลุคเหมือนไม่แต่งหน้ามาก
.
Best Powder ได้แก่ Maquillage Dramatic Mood Veil (silky) 3,500 JPY
แป้งอัดแข็งที่สาวญี่ปุ่นเทคะแนนหมดหน้าตัก บอกว่ามันทาแล้วเสริมให้ผิวสวยมาก
โกลว์สวย ดูมีมิติ ไม่แบน ไม่ด้านแบบแป้งตัวอื่น
.
Best Concealer ได้แก่ NARS Soft Matte Complete Concealer (3,400 JPY)
คอนซีลเลอร์เนื้อครีมที่เม็ดสีแน่น ปกปิดได้เนียนกริบ เวลาใช้ต้องวอ์มเล็กน้อย
เนื้อไม่ได้หนามาก แต่สามารถทาทับๆกันเพื่อเพิ่มการปกปิด
.
อันดับ 2 ก็น่าสนใจนะ ชิ้นนี้ราคาเบาๆ ใช้ได้ดีเกินราคา
CEZANNE Control Concealer (600 JPY)
ชิ้นนี้เหมาะกับคนที่มีผิวแดงๆ ต้องการปกปิด เนื้อจะเป็นพาวเดอร์ครีมสีเขียวอ่อนๆ
เมื่อทาไปแล้วจะกลบรอยแดงที่ผิวหน้าได้ดี
.
Best BB Cream ได้แก่ LANCOME UV Expert BB Complete
กระแส BB ครีมในญี่ปุ่นไม่ได้แรงมากนักแล้วล่ะ เพราะคุชชั่นมาแทน
ปีนี้ลังโคมก็ยังคงครองอันดับ 1 ด้วยเนื้อที่บางเบา ปกปิดกลางๆ กันแดดได้ดี
แล้วก็ไม่ไหลเยิ้มระหว่างวัน เลยคว้าอันดับหนึ่งไป
.
Best Eyeshadow ได้แก่ SUQQU Designing Color Eyes (6,800 JPY)
จัดว่าเป็นแบรนด์ที่เมคอัพแพงที่สุดอันดับต้นๆของแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นเลยล่ะ
แต่สีที่ได้สวย และติดทน แบรนด์นี้จะเน้นวัยทำงานขึ้นไปที่ต้องการโทนสีที่ใช้ได้ทุกวัน
ติดทนแม้เปลือกตาแห้ง สีไม่ตกร่อง สำหรับเราลองใช้แล้วมันก็ดีนะ แต่ว่าด้วยราคาที่สูงมาก
เลยไม่ค่อยได้ซื้อมาลองบ่อยๆ
อันดับ 2 นี่ต้องลองเลย!
CANMAKE Wink Glow Eyes (500 JPY)
ชิ้นนี้เป็น Gloss eyeshadow ค่ะ สีจะบางมาก แต่วาวมากกก
เทรนด์ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมันก็แบบนี้แหละ ช่วงนี้แต่งตากันสีเบามากกพอกับเกาหลีเลย
เน้นความแวววาวของเปลือกตา มีออกสีนิดๆ ดูน่ารัก แล้วชิ้นนี้ก็ราคาเบามากกก ขายดีสุดๆ
อันดับ 3 ได้แก่ Coffret D,Or Beauty Aura Eyes (3,500 JPY)
นี่ก็เป็นอีกแบรนด์อายแชโดว์ที่เราชอบมาก และซื้อบ่อยมาก ราคาไม่แรงเกินไป
แต่สีที่ให้มาในพาเลท เรียกว่า พกตลับเดียวจบเลย แปรงก็ไม่ต้องพก เพราะให้มาพร้อม
อุปกรณ์ในพาเลทคือดีมากๆ ใช้ได้จริง สีสวยด้วย แล้วพาเลทนี้มาครบมากๆ เป็น 4 สีที่แต่งได้ตามีมิติ
.
Best Eyeliner ได้แก่ KATE Super Sharp Liner EX (1,100 JPY)
ชิ้นนี้เป็นไลน์เนอร์รุ่นใหม่ที่วาดง่ายที่สุดชิ้นนึงของเคท หัวแปรงเรียว แน่น
วาดเส้นได้สวย สีดำสนิท
อันดับ 2 ได้แก่ CANMAKE Lasting Liquid Liner (900 JPY)
ไลน์เนอร์ที่พู่กันเรียวเล็กมากๆ สำหรับเราคือเล็กไปหน่อย
แต่สาวๆญี่ปุ่นที่เน้นการแต่งหน้าแบบสาวน้อย เค้าชอบกันมากๆ
เพราะวาดแล้วได้ตาที่ดูธรรมชาติ สีดำสนิท ไม่ลบระหว่างวัน
อันดับ 3 ก็ยังคงเป็น CANMAKE
รุ่น Ready Rich Liner (550 JPY)
ชิ้นนี้เดี๋ยวต้องไปซื้อมาลอง เป็นไลน์เนอร์สีเมทัลลิคค่ะ สีที่กำลังนิยมตอนนี้ก็ต้อง
Rose Grey สีมุกๆชมพูอมเทา
.
Best Mascara ได้แก่ OPERA My lash (950 JPY)
มาสคาร่าที่ปัดแล้วขนตาเรียงเส้นสวย เหมือนเป็นขนตาจริงๆ ไม่เกาะเป็นก้อน
เนื้อมาสคาร่าเคลือบขนตาได้สวย
.
Best Eyebrow ได้แก่ K-Palette Lasting Eyebrow Tint (1,200 JPY)
ชิ้นนี้ต้องมี! มาแรงสุดๆ สำหรับทิ้นท์เขียนคิ้ว ที่วาดแล้วทิ้งไว้ ค่อยลอกออก
หัวแปรงวาดได้ง่าย เท่าที่เราใช้มา ของค่ายญี่ปุ่นก็ชอบอันนี้กับ Fujiko Mayu tint สองแบรนด์นี้
ใช้ได้ดีมาก แต่ของ K-Palette เคลมว่าอยู่ได้ 7 วันนานสุดในตลาดตอนนี้
(ถ้าใช้พวก remover ที่ผสมออยล์ ยังไงก็อยู่ไม่ถึงนะ) แต่ที่ใช้เนี่ย เราชอบกว่าของฝั่งเกาหลี
ตรงที่หัวแปรงวาดง่ายกว่า แล้วเนื้อทิ้นท์อยู่ได้นานกว่า
.
Best Lipstick ได้แก่ OPERA Lip Tint (1,500 JPY)
ชิ้นนี้ได้รางวัลใหญ่เป็น Best of the Best ของครึ่งปีแรกไปแล้ว
ไม่ต้องคิดมากเลยล่ะ เนื้อฉ่ำเนียน สีแบบทิ้นท์ ใสๆ ออกสีบางๆแต่ติดทน
อันดับ 2 ได้แก่ YSL Volupte tint in Balm (4,300 JPY)
ในไทยขายอยู่ 1,500 บาท เราเคยรีวิวไว้แล้วจ้า
https://kirarista.com/2017/02/17/ysl-volupte-tint-in-balm-swatch/
เนื้อแนวทิ้นท์มาจริงๆ สาวๆฮิตกันมาก แบบว่าสีไม่ต้องแน่นมาก แต่เห็นสีบางๆ
เหมือนกับเป็นสีริมฝีปากของเรา แล้วเนื้อต้องฉ่ำวาว ถึงจะอินนะช่วงนี้
.
Best Cheek / Face Color ได้แก่ IPSA Designing Face Color Palette (5,800 JPY)
พาเลทนี้สาวๆญี่ปุ่นเทคะแนนให้เพราะพกพาเลทเดียว ครบ! ทั้ง Blush, Shading, Highlight
มาพร้อมแปรงสองหัวขนนุ่ม
อันดับ 2 คือ Maquillage Cheek Color (Clear) 2,800 JPY
บลัชของค่ายนี้สีสวยมาก เป็นเฉดที่เหมาะกับสาวเอเชีย ปัดแล้วดูสุขภาพดี
.
Best Hand Cream ได้แก่ L’OCCITANE Intensive hand cream (3,600 JPY)
ชิ้นนี้เหมาะกับคนที่มือแห้งมากๆ มือเหี่ยวมากๆ เพราะผสม Shea Butter ถึง 25%
สำหรับอากาศบ้านเราน่าจะเหนอะไปหน่อย แต่บำรุงได้ดีจริงๆ เหมาะกับทาตอนกลางคืน
แต่ถ้าไปเมืองหนาวก็ควรพกเลยล่ะ
อันดับ 2 ได้แก่ JILL STUART Crystal Bloom Perfume Hand cream (2,400 JPY)
เป็นแฮนด์ครีมที่แพคเกจสวยที่สุดเท่าที่เห็นมาแล้วล่ะ เนื้อไม่หนักมาก ในไทยใช้ได้สบาย
แต่ที่เริ่ดกว่านั้นคือ แค่เปิดฝา ก็กลิ่นหอมฟุ้งแล้ว ทาที่มือนิดเดียว มือหอมไปนาน
เราชอบมากๆเลยรุ่นนี้
.
Best Body Wash ได้แก่ Bouncia Body Whip Elegant Relax
ครีมอาบน้ำกลิ่นออกใหม่ล่าสุด เด่นตรงที่วิปโฟมมันนุ่ม ใช้แล้วผิวไม่แห้ง
แถมกลิ่นที่ออกมาใหม่ก็หอมกุหลาบ อโรม่าสุดๆ
.
Best Perfume ได้แก่ JILL STUART Crystal Bloom Aura dream EDP (5,500 JPY /7,500 JPY)
น้ำหอมกลิ่นที่ทุกคนชอบ เพราะมันไม่แรงเกินไป ได้กลิ่นแล้วรู้สึกถึงความอ่อนโยน
ความอินโนเซนส์ ในบรรดาน้ำหอมของ JILL STUART เราเองก็ชอบขวดนี้มากที่สุดนะ
หอมมากจริงๆ
.
Best Beauty Goods ได้แก่ SHU UEMURA Petal 55 Foundation Brush (6,000 JPY)
แปรงที่ขายดีและขาดตลาดทั่วโลก!! มันเป็นแปรงลงรองพื้นที่ขนนุ่ม แน่นที่สุดชิ้นนึง
แค่ปาดลงที่ผิวก็เรียบเนียนแบบไม่ต้องใช้ฟองน้ำซ้ำเลย เราชอบมากๆเลยชิ้นนี้
ยิ่งใช้คู่กับรองพื้นรุ่น Petal skin ของ SHU ยิ่งกริบ
อีกแบรนด์ที่ฟีลคล้ายๆกันคือแปรงของ JILL STUART นะ แต่แบรนด์นั้นดันไปโปรโมทด้านลงแป้งรองพื้น
ก็เลยไม่ปังเท่า แต่ทาออกมา ฟีลคล้ายกันเลยล่ะ
.
Best Beauty Gadget ได้แก่ PANASONIC Beauty EH-SG90
รุ่นนี้เห็นวางขายอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้ซื้อกลับมา น่าจะใช้ไฟบ้านเราไม่ได้
มันเป็นเครื่องปล่อย Tanzan หรือเรียกง่ายๆว่า โซดาน่ะแหละ
คือมันบูมมากกกกในญี่ปุ่น เพราะะช่วยทำให้ผิวใส ผิวเด้ง และชุ่มชื้น
ใช้บ่อยๆจะช่วยให้ผิวดูขาวอมชมพูขึ้น เพราะกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดี
.
สำหรับครึ่งปีแรกนี้ก็มีประมาณนี้แหละที่น่าสนใจ ใครอยากดูแบบเต็มๆ
ก็หาอ่านได้ที่เว็บ http://www.cosme.net/ ต่อได้เลย (ภาษาญี่ปุ่น)
แล้วมารออัพเดทกันอีกที รางวัลใหญ่ปลายปีนะจ้ะ
Categories: Gadget/ New items, Make Up, Skincare
Opera หาซื้อที่ไหนคะ ไปเดินมาทั่วmatsumoto แล้วหาไม่เจอเลยค่ะ หรือว่ามันเป็นเคาเตอร์แบรนคะ
matsumoto, sundry, plaza มีเยอะมากค่ะ ส่วนมากตามสาขาใหญ่
เขียนดีจัง อ่านเพลินมากค่ะพี่แป้ง อยากได้ไปหมดเลยย555