ครั้งนี้เราขอมาเปิดเคล็ดลับการลง Base Make up ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุด
อย่างหนึ่งในการแต่งหน้าก็ว่าได้ เราเองเป็นคนที่มีปัญหาผิวเยอะมาก
ไม่ว่าจะเป็นสิว รอยสิว กระใต้ตา รอยแดง รอยดำ ริ้วรอยต่างๆ หลุมสิวอีก
แม้ว่าจะดูแลผิวแค่ไหน มันก็ฟื้นฟูได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป กว่าจะหายดีก็ใช้เวลา

แต่ทุกปัญหาเรามีทางลัด ด้วยการเมคอัพนี่แหละ จะเปลี่ยนผิวเสีย ให้ดูเป็นผิวสวย
ในไม่กี่นาที เพื่อนๆที่เคยไป Workshop ด้วยกันคงรู้ดีว่าเรามีปัญหาิผิวเยอะมากๆ
แต่ก็กลบได้เยอะพอสมควรล่ะ ….ครั้งนี้เป็นการเปิดทุกเคล็ดลับที่ใช้จริง
เห็นผลจริง มาให้เพื่อนๆได้เก็บทริคไปประยุกต์ใช้กันค่ะ

เกริ่นมาเยอะแล้ว ไปชมวิธีการลงรองพื้น
ซึ่งวันนี้เอามาฝาก 2 แบบ คือการลงด้วยแปรง และ การลงด้วยฟองน้ำค่ะ

ก่อนอื่นก็ต้องเปิดด้วยรูป Before – After ตามธรรมเนียม

ก่อนที่จะลงรองพื้น แนะนำให้ลง Base makeup เพื่อปรับสภาพผิว และ
ช่วยให้รองพื้นรวมทั้งเครื่องสำอางติดทน ลดการเป็นคราบ

ในครั้งนี้เราใช้เบสตัวใหม่จากชูค่ะ เหมาะกับผิวธรรมดาและ ผิวมันอย่างเรามาก
UV under base mousse ตัวเบสเป็นเนื้อมูสนุ่มๆ เราเลือกสีชมพูมาค่ะ
ทาแล้วซึมทันที เกลี่ยง่าย เนื้อนุ่มมากๆ หลังทาหน้าจะดูสว่างขึ้น ผิวเนียนขึ้นค่ะ

ก่อนใช้ต้องเขย่าๆก่อนแล้วค่อยกดมูสออกมา

หลังจากกดมูสลงบนฝ่ามือแล้ว ก็ค่อยๆใช้นิ้วปาดๆ เกลี่ยๆให้ทั่วใบหน้า
เนื้อมูสนุ่มๆสีชมพู ทาแล้วซึมทันทีค่ะ ไม่ทำให้หน้ามันเลย

ทาบนหน้าแล้ว สว่างขึ้นระดับนึงเลยล่ะ

หลังจากลงเบสเรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนการลงรองพื้น
แบบแรกเป็นการลงรองพื้นด้วย “แปรง”

อุปกรณ์และรองพื้นที่ใช้ในครั้งนี้ค่ะ

รองพื้นตัวใหม่จากชู รับประกันความเนียนเลยล่ะ เริ่ดมากกกกก
จะเริ่ดแค่ไหน เดี๋ยวดูภาพล่างๆได้เลยจ้ะ งานนี้พี่คอนซีลเลอร์แทบไม่ได้ออกโรง
นอกจากมีรองพื้นแล้ว ก็ต้องมีแปรง แนะนำให้ใช้แปรงขนสังเคราะห์ค่ะ
เพราะแปรงลงรองพื้นจำเป็นต้องล้างบ่อยๆ และขนสังเคราะห์นอกจากจะทนกว่า
ยังกินเนื้อรองพื้นน้อยกว่า และมีความยืดหยุ่นมากกว่าอีกด้วย

พายตักรองพื้น เราจะใช้กับรองพื้นทุกแบบเลย ไม่ว่าจะรุ่นครีมที่ต้องตักจากกระปุก
หรือรุ่นลิควิดที่เราจะกดลงบนฝ่ามือ แล้วใช้พายนี้ตักไปแตะบนหน้า 4 จุด

สุดท้ายก็เป็นฟองน้ำสำหรับรองพื้น เลือกที่เนื้อแน่นๆจะกดรองพื้นได้เนียนทีเดียว

รองพื้นที่เราใช้ครั้งนี้เป็นรุ่น Face architect illuminating moisture fluid foundation
โอ้ววว…ชื่อยาวได้ใจ รุ่นนี้เน้นที่การปกปิดและความชุ่มชื้นจากส่วนผสมธรรมชาติ
สองส่วนผสมที่โดดเด่นในรองพื้นตัวนี้คือ glow oil complex (ส่วนผสมจาก
น้ำมันเมล็ดแมคคาเดเมีย) ในอีกส่วนคือส่วนผสมที่เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
แน่นอนว่าไม่พ้นไฮยาลูรอนิคแอซิด นอกจากนี้ก็ยังมี Depsea water ที่เป็น
ส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ชูเลยล่ะ

สำหรับวิธีการลงรองพื้นด้วยแปรงในฉบับของ Kirari ก็มีดังนี้จ้า

เริ่มแรกด้วยการตักรองพื้นมาทาเป็นจุดๆทั้ง 4 จุดบนใบหน้า
(หน้าผาก แก้มทั้งสอง และคาง)
หลังจากนั้นก็เกลี่ยรองพื้นจากด้านในไปด้านนอกตามรูปเลยจ้ะ ในส่วนของ
จมูกจะใช้รองพื้นที่ติดแปรงมาทา เราจะไม่แตะรองพื้นที่จุดนี้
เนื่องจากบริเวณนี้หากลงรองพื้นเยอะเกินไปจะเป็นคราบได้ง่าย

สำหรับรองจมูกและปาก เราจะกลับเอาด้านข้างสันแปรงค่อยๆเกลี่ยค่ะ

หลังจากเกลี่ยด้วยแปรงแล้ว บางส่วนเนื้อรองพื้นอาจจะเป็นเส้นๆตามรอยขนแปรง
ไม่ต้องกลัวไปค่ะ เราจะใช้ฟองน้ำค่อยๆกดเบาๆทั่วใบหน้า เพื่อเป็นการ
ซับเอารองพื้นส่วนเกิน หรือรองพื้นที่ยังไม่เรียบเนียนให้มันแนบไปกับผิว

สำหรับการใช้แปรงในการเกลี่ยรองพื้น ข้อดีอย่างแรกเลยคือเร็วมากค่ะ
แป้ปเดียวล่ะ เกลี่ยได้เสร็จและเนียนเท่ากันทั่วใบหน้า
แต่ถ้าเน้นปกปิดสุดๆต้องใช้ฟองน้ำในการลงรองพื้นค่ะ

ว่าแล้วก็ไปชมการลงรองพื้นแบบฟองน้ำกันต่อเลย….

การลงรองพื้นด้วยฟองน้ำ ต้องใจเย็นๆค่อยๆเกลี่ย ค่อยๆกลบค่ะ
ฟองน้ำที่เราชอบใช้จะเป็นรูปหยดน้ำ ซึ่งจะมีทั้งด้านเรียว และด้านกว้าง
ซึ่งด้านเรียวจะใช้ลงรองพื้นในบริเวณตา จมูก และรอบๆบริเวณริมฝีปาก
ส่วนด้านกว้างจะใช้ลงในบริเวณ หน้าผาก และแก้มค่ะ

สำหรับลำดับการลง เรามีเทคนิคจาก Shu มาฝาก…
โดยการแตะครีมรองพื้นบนฟองน้ำแล้วลงรองพื้นจาก
S zone –> O zone –> T zone –> eye area

ในส่วนที่ต้องการปกปิด ก็สามารถแตะรองพื้น ค่อยๆกดลงบนผิวทับไปอีกชั้นก็ได้ค่ะ
บริเวณแก้มและหน้าผากเราจะมีรอยเยอะ เราจึงลอง 2 ชั้นค่ะ

หลังจากนั้นก็ลงแป้งฝุ่นค่ะ (จำทริคครั้งก่อนๆที่เคยสอนไว้ได้หรือเปล่าเอ่ย)
มาทวนกันอีกรอบนะคะ

เวลาใช้แป้งฝุ่นให้กลับกระปุกแป้ง 1-2 ครั้ง แล้วบิดพัพเล้กน้อยกับตลับแป้ง
(เหมือนปาดแป้งที่เกาะพัพเกินออกมาออกไปน่ะค่ะ)

หลังจากนั้นก็ขยี้ฟองน้ำเพื่อให้แป้งเนียนไปกับพัพ ไม่เกาะเป็นหย่อมๆ
ทำแบบนี้เวลาลงแป้งแล้วจะไม่ดูโบ๊ะ หรือวอกค่ะ จะได้ลุคธรรมชาติ

ในการลงแป้งฝุ่นเช่นกัน เราจะลงจากล่างไปบน นั่นคือจะค่อยๆทาย้อนแนวรูขุมขน
ไม่ใช่ตบๆวนๆนะคะ เมื่อทาแป้งแบบย้อนแนวรูขุมขนจะดูเรียบเนียนมากขึ้นค่ะ
และนอกจากทาหน้าแล้ว ก็อย่าลืมทาบริเวณคอด้วยนะคะ จะได้สีเดียวกัน
ไม่ดูลอยค่ะ

เสร็จแล้วล่ะ การลงเบสเมคอัพตามแบบของคิราริ
มาดูรูปเปรียบเทียบกันเลย

หลังจากนั้นก็แต่ง point makeup ค่ะ วันนี้เลือกลงบางๆ เน้นผิวที่ดูสดใส

รอยบางจุดที่หนักๆก็ยังกลบไม่มิด รอบนี้คอนซีลเลอร์ไม่ได้ทำงานเลยค่ะ
ใครต้องการปกปิด แต่ไม่อยากให้ดูหน้าเตอะ ลองดูรองพื้นรุ่นนี้ดูค่ะ
เนียนดีจริงๆ แต่ติดเรื่องสีนิดหน่อย เราผิวขาวมาก รองพื้นจึงดูเข้มกว่าสีผิว
แต่แบบนี้ก็จะดีเวลาไปถ่ายรูปค่ะ มัน Photo friendly มากๆ ถ่ายสาดแฟลช
ก็ไม่วอกค่ะ แต่ถ้าอยู่ในที่ร่มอาจจะดูเข้มไปนิด เวลาไปเลือกรองพื้น
ก็ให้ BA ช่วยเลือกโดยการเทสสีหลายๆสีบริเวณใบหน้าดูนะคะ

ปิดท้ายด้วยรูปเสี่ยงตาย ฮ่าๆๆ… ขอเทียบรัศมียูจัง พรีเซนเตอร์คนดังซักหน่อย

จบแล้วจ้า…หวังว่าคงชอบกันน้า เห็นหลายคนถามมากันมาก
และบางคนบ่นน้อยใจว่าตัวเองหน้ามีปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้
ทุกอย่างมีทางแก้จ้ะ หวังว่าฮาวทูนี้คงเป็นกำลังใจในการแต่งหน้า
ของสาวๆหลายๆคนนะจ้ะ แล้วพบกันครั้งหน้า กับฮาวทูแต่งหน้าโทนสีอบอุ่น
เข้ากับฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้จ้ะ แล้วเจอกันนะคะ