เมื่อพูดถึงแบรนด์ SENKA ก็คงจะนึกถึงโฟมล้างหน้าวิปหนานุ่มอย่าง

 SENKA Perfect Whip กันเป็นอย่างแรก

แต่จริงๆแล้วผลิตภัณฑ์ในแบรนด์นี้มีให้เลือกเยอะมากๆ และ 2 ชิ้นล่าสุดที่เราได้ลอง

ก็ประทับใจมากๆเลยนะ เป็นกันแดดสูตรใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น เพิ่งวางขายในไทยได้ไม่นาน

มี 2 สูตรให้เลือกใช้ คือ

SENKA Perfect UV Gel

SENKA Perfect UV Milk

ทั้งคู่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย บล๊อกนี้จะรีวิวให้ชมกันค่ะว่าควรเลือกใช้ตัวไหน

กันแดด จาก SENKA รุ่นก่อน (หลอดสีเหลือง) เราก็ชอบมากนะ เพราะเนื้อบางเบา

เป็นสูตรเจลครีม แต่รุ่นใหม่ที่ออกมานี้เนื้อดีกว่าเดิมเยอะเลย เบาขึ้น สบายผิวมากขึ้น

โดยทั้ง 2 สูตรที่ออกมาใหม่ สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้า และ ผิวกายค่ะ

มาพร้อมกับ SPF 50+ PA++++ ที่เป็นค่าการปกป้องผิวจากแสงแดดที่สูงสุดในตลาดขณะนี้

มีความต่างกันนิดหน่อย

SENKA Perfect UV Milk SPF50+ PA++++

40ml ราคา 350 บาท

สูตรนี้เนื้อเป็นแบบน้ำนม ซึมลงผิวได้ไว ไม่ทำให้ผิวมัน  แต่ก็ไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป

เพราะมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวผสมอยู่ (Natural Silk Essence Complex หรือรังไหมสีขาว

ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ส่วนผสมนี้ถือว่าไฮโซค่ะ เพราะเป็นส่วนผสมในสกินแคร์เคาท์เตอร์แบรนด์หลายๆแบรนด์

และ Double Hyaluronic Acid ช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างสูง)

สูตรนี้จะเป็นสูตร “Water Resistant” ติดทน

แต่ก็ล้างออกได้สะอาดด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้าค่ะ (ไม่ติดทนเกินจนล้างยาก เสี่ยงอุดตัน)

สามารถใช้เป็นเมคอัพเบสได้เลย สูตรนี้แป้งจะชอบทาที่ผิวหน้าเพราะไม่ทำให้เมคอัพเยิ้ม

และก็ติดทนดีด้วย

SENKA Perfect UV Gel SPF50+ PA++++

80g ราคา 390 บาท

สูตรเนื้อเจลที่แตกตัวเหมือนละอองน้ำบนผิว ให้ความรู้สึกชุ่มชื่น สูตรนี้จะเหมือนการทาโลชั่นที่ผิว

มีส่วนผสมจากรังไหมสีขาวที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และ Double Hyaluronic Acid

ช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวเช่นกันค่ะ ใครที่ผิวแพ้ง่าย อุดตันง่าย ให้ใช้สูตรนี้

เหมาะกับใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ อยู่บ้าน อยู่ออฟฟิศ ไม่ได้มีเหงื่อมาก

ไม่ได้เล่นกิจกรรมทางน้ำ จะเหมาะกับสูตรนี้

ด้วยความที่ล้างออกได้ง่าย ใช้ทุกวันได้แบบหมดกังวลว่าจะอุดตัน

โดยเฉพาะคุณผู้ชาย ที่ไม่ได้ใช้ Makeup remover แบบสาวๆ แค่ล้างหน้าทั่วไป

แนะนำสูตรนี้ เราก็ให้พี่หมีทา เพราะแค่ล้างหน้าปกติก็ทำความสะอาดได้หมดจด

จะได้ไม่สะสมเป็นสิวอุดตัน

และทั้งสองสูตรยังต่างกันชัดเจนตรงเนื้อสัมผัสค่ะ

จากรูปจะเห็นความต่างของเนื้อสัมผัสอย่างชัดเจน

สูตร Milk เนื้อแบบน้ำนม ลื่นผิว สบายผิว ไม่มัน ไม่เหนียว

สูตร Gel เนื้อแบบเจล ทาที่ผิวมันจะแตกตัวเป็นน้ำ สบายผิวแบบสดชื่น

ทั้งคู่ ไม่เหนียว ไม่มัน เหมาะกับอากาศบ้านเรา

สำหรับเรา จะใช้สูตร Milk ทาที่หน้า ส่วนสูตร Gel ชอบทาที่ตัวค่ะ

(อีกเหตุผลนึงคือสูตร Gel มันถูกกว่าด้วยแหละ ทาที่ผิวได้ทั้งตัวไม่เสียดาย 55)

เราลองทาที่ผิวหน้าหลังจากลงสกินแคร์ตามปกติ แล้วรอให้มันซึมแป้ปนึง

จากนั้นก็ใช้กระดาษซับมันซับที่หน้า ผลที่ได้ก็อย่างที่เห็นเลย

แทบไม่มีความมันส่วนเกินออกมา

เนื้อสูตร Milk จะสะดวกเราอีกอย่างเพราะทำให้ข้ามเสต็ปเมคอัพเบสไปได้ด้วย

มันช่วยเกลี่ยผิวให้เนียน และลงรองพื้นได้ง่าย ไม่เป็นคราบ

อีกวันนึงลองสูตร Gel ดูบ้าง ผลที่ได้ก็ไม่ต่างกันมากนะ เนื้อมันเบาสบายผิว

ไม่ได้ทำให้หน้ามันเช่นกัน แต่งหน้าต่อได้เลย

วันนี้ธุระอัดแน่นเต็มวัน ไปคุยงาน เจอเพื่อน ช้อปปิ้ง ประชุม และไปอีเว้นท์

ขึ้นๆลงๆรถไฟฟ้า เดินตามถนน เจอฝุ่น มลภาวะตลอดวัน

วันนี้ผิวหน้าและผิวกาย เราใช้ตัวเดียวกันค่ะ คือสูตร Gel

สบายผิวมาก ไม่เหนอะหนะ ถึงจะร้อน เหงื่อออก ก็ไม่ทำให้ตัวเหนียว

วันนี้ผิวหน้าและผิวกาย เราใช้ตัวเดียวกันค่ะ คือสูตร Gel

สบายผิวมาก ไม่เหนอะหนะ ถึงจะร้อน เหงื่อออก ก็ไม่ทำให้ตัวเหนียว

ปกป้องผิวได้ดี ไม่ทำให้ผิวเราแสบร้อนจากแสงแดด

และไม่ผสมน้ำหอมทั้งสองรุ่นเลย ดีต่อผิวที่แพ้ง่าย

สรุปเลยว่า ทั้ง 2 รุ่น เป็นกันแดดที่เหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะ สามารถใช้ได้ทุกวัน

โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาการอุดตันของสิว เพราะเป็นสูตรที่ล้างออกได้ด้วยโฟมล้างหน้า

หรือสบู่ ไม่ผสมน้ำหอมและแบรนด์เคลมว่าผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

เป็นกันแดดที่เน้นเรื่องเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและสิว

โดยสูตรเจล ให้ความชุ่มชื่นเหมือนทาโลชั่น เหมาะกับใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วนสูตรน้ำนม สามารถใช้เป็น Make Up Base ก่อนแต่งหน้า

ช่วยให้เมคอัพติดทน Water Resistantสามารถใช้ได้ประจำวัน

หรือจะใช้แบบไปเที่ยวทะเล หรือทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ ก็เหมาะค่ะ

ตอนนี้วางขายในไทยเรียบร้อยแล้วค่ะ ลองไปหาซื้อกันได้

มีขายที่ Watsons, Tsuruha, Boots, Matsumoto, Beauty Market,

Tops, EVEANDBOY และ Home Fresh Mart

ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำให้เข้าไปดูที่ FB: SENKA THAILAND ค่ะ