บล๊อกนี้มีร้านเนื้อย่างที่อยากแนะนำสุดๆ

เพราะอร่อยและฟินมาก A5 ในราคาจิ๊บๆ ราคาเฉลี่ยแค่จานละไม่ถึง 200 บาทค่ะ

ร้านที่อร่อยและแพง ที่ไหนก็หาได้ไม่ยาก แต่ร้านที่ถูกและอร่อยมากนี่สิ เมื่อหาเจอ

มันจะรู้สึกฟินกว่าปกติ ร้านนี้เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นชอบทานกันค่ะ เรตติ้งดีเลยล่ะ

3.46 จากเวบ Tabelog

ใครเป็นคอเนื้อย่าง เรียกว่าห้ามพลาดนะคะ ถ้าไปโตเกียว อยากให้ไปลองกันค่ะ

เรียกว่าเป็นความโชคดีในความผิดหวังก็ว่าได้

จริงๆแล้วเราไม่ได้ตั้งใจไปทานที่ร้านนี้หรอกนะ เหตุเกิดก็มีอยู่ว่า

วันนั้นไปทำงานที่ม.โตเกียว ขากลับก็ว่าจะทานเนื้อย่างที่ร้านเทพ “Bouya”

炭火焼肉 房家 本郷店 (Sumibiyaki Bouya Hongoten)

เพราะมีสาขาที่สถานี Hongo 3 chome พอดี ร้านนี้รุ่นพี่เซียนเนื้อแนะนำมา

แต่ชะล่าใจไม่ได้จอง ตอนเดินมาที่ร้านก็เห็นว่าร้านโล่งมาก เลยเดินเข้าไป

แต่…มันเต็มยาวหมดแล้ว ต้องรออีก ชม.กว่าๆ ซึ่งย่านนี้มันไม่มีอะไรเลยจริงๆนะ

มีแค่มหาลัยจริงๆ ก็เลยถอดใจ ไม่รู้จะทำอะไร เลยเปลี่ยนแพลนกลับถิ่น Ikebukuro

ย่านสุดรักของเรา 555 ไม่ค่อยมีคนไทย มีแต่ของอร่อย มีเกมเซ็นเตอร์ มีของให้ช้อปเยอะ

จากที่พลาดจาก Bouya มา มื้อนี้ต้องกินเนื้อย่างให้ได้ วันนี้เหนื่อย ต้องการพลังงาน!

เปิดเว็บ Tabelog ดู Ranking Yakiniku ทันที

http://tabelog.com/yakiniku/tokyo/A1305/A130501/rank/

ร้านอันดับ 1 คือ 炭火焼あもん (Sumibiyaki Amon) ร้านนี้เดินไกลหน่อย ลองโทรไป

เต็มหมดแล้ว วันนี้มีคิวอีกทีตอน 3 ทุ่ม อด…

ร้านถัดไป อันดับที่ 3 焼き肉スタジアム黒５本店 (Yakiniku Stadium Kurogo honten)

โทรไปก็เต็ม เต็มสุดๆแบบว่าวันนี้คิวเต็มต้องเป็นพรุ่งนี้ อด…

จังหวะนี้เลยขี้เกียจโทรละ เดินหาตามตรอกซอกซอยเอา เจอร้านไหนน่ากินก็เปิดเวบสดๆ

เช็คคะแนน อันไหนเกิน 3.3 ก็ถือว่าโอเคละ อร่อยแน่  เดินไปเดินมาจนมาเจอร้านนี้

焼き肉スタジアムJAN (Yakiniku Stadium Jan)

เสิร์ชปุ้ป เห้ย..ได้ 3.46 แล้วก็อยู่ใน Ranking อันดับ 5 ของย่านนี้ด้วย จัดเลย!

พอเปิดเว็บดู ก็เลยรู้ว่า ร้าน Yakiniku Stadium เนี่ยจะมี Kuro5 กับ JAN เป็นเครือเดียวกัน

มีอยู่ 4 สาขา และมีแค่ย่าน Ikebukuro เท่านั้นด้วยล่ะ

How to go: นั่ง JR หรือ Subway มาลงที่สถานี Ikebukuro 池袋

จากนั้นเดินออกจากสถานีทางออก East หรือจะออกทางออก Sunshine City

เดินเข้าถนน Sunshine City 60 Dori เดินมาจนเกือบถึงตึก Sunshine เลยค่ะ

เมื่อเดินมาจนใกล้ถึง Tokyu Hands, Sunshine City แล้วจะเจอร้านรองเท้า  ABC

(ที่ถนนเส้นนี้มี ABC 2 ร้านค่ะ ร้านนี้เป็นร้านหัวมุมใกล้โตคิว)

เดินเลี้ยวขวาที่มุม ABC ผ่านร้าน Dr. Martens จะเห็นป้าย 焼き肉 JAN ด้านซ้ายมือ

เดินลงบันไดมาเลยค่ะ ประตูร้านจะมีพวกลังอะไรวางอยู่ด้วย ตอนแรกเรานึกว่ามันปิด

แต่เห็นคนญี่ปุ่นเดินลงไปแล้วหายไปเลย ก็เลยลองใหม่ ดึงประตูเปิดได้นี่หว่า

เข้าประตูไปก็เดินไปทางขวาค่ะ ถ้าไปตรงมื้ออาหารก็ต้องรอนิดนึงนะคะ

ในวันนั้นเรารอชม.นิดๆเหมือนกัน แต่ว่าย่านนี้ถิ่นเรา มีของให้ช้อป มีเกมให้เล่นเยอะ

เลยรอได้ค่ะ เค้าจะขอชื่อและเบอร์โทรไว้ แต่เบอร์เราเป็นเบอร์โรมมิ่ง

ก็เลยให้แค่ชื่อไว้ค่ะ พอถึงเวลานัดก็ไปตรงเวลาหรือก่อนซักเล็กน้อย

.

ที่นี่มีทั้งแบบ Buffet และแบบ สั่งแยก เราแนะนำให้สั่งเป็นจานแยกๆจะดีกว่าค่ะ

เมนูที่นี่ลำบากสำหรับคนไทยนิดนึง เพราะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ พนง.พูดอังกฤษไม่ค่อยได้

ที่นี่จะออกแนวฮิปๆนิดหนึง พนง.หนุ่มๆสาวๆเพียบค่ะ

(เมนูบุฟเฟ่ต์ ราคา 3,050 เยน เป็นเนื้อธรรมดาทั้งหมด – ไม่แนะนำค่ะ)

(เมนูบุฟเฟ่ต์เครื่องดื่ม มีทั้งไวน์ เบียร์ softdrink Sour highball ราคา 1,950 เยน)

.

และมาถึงเมนูแนะนำของเราค่ะ

อันที่เราขอแนะนำเลยคือ อันที่มี LOVE! mark แปะอยู่ 2 เมนูด้านบน

เมนูแรกด้านซ้าย A5 Rank 黒毛和牛ブリすき (Kuroge Wagyu Buri Suki) 550 เยน

เมนูนี้จะเป็นเนื้อสไลด์บาง ยาวๆ นุ่มอร่อย จิ้มกับไข่แดงสด

ถัดมาเป็น A5 Rank 和牛リブローズ (Wagyu Rib Roast)  850 เยน

ริบโรสท์เกรด A5 มันแทรกฉ่ำ นุ่มสุดๆ จานนี้เป็นจานที่ Limited Order ค่ะ

จำกัดจำนวนการสั่งต่อคนด้วย

ส่วนเมนูหน้านี้เนี่ย สั่งไปเลย อร่อยทุกอันแน่ๆ แต่ที่เลิฟสุดก็คือเมนู

男上カルビ (Otoko jo karubi)  1,600 เยน

เนื้อสันนอก A5 เกรดสูง มันแทรกลายสวย ย่างบนเตา และมีซ้อสสูตรพิเศษเวลาจิ้มค่ะ

เมนูหน้านี้เป็น Ranking ของทางร้านค่ะ เมนูไหนยอดฮิตบ้าง

เพื่อนเราชอบเมนูยุกเกะมาก (อันดับ 4)  ราคา 1,100 เยน สั่งมาลองจานนึง หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

เนื้อส่วนนี้เป็น A5 Rib Roast กินกันแบบดิบค่ะ โดยจิ้มไข่แดงดิบ

เนื้อจะผ่านการพ่นไฟแบบอะบุริมานิดๆ ให้สุกนิดๆ แล้วเสริฟค่ะ

ใครไม่เคยทาน แนะนำเลยนะ อร่อยหวาน นุ่มมากๆ

.

.

ถัดไปเป็นเมนูที่เราว่าอร่อยสุดในร้านนะ

男上カルビ (Otoko jo karubi)  1,600 เยน

A5 ชิ้นหนานุ่ม มันแทรกลายสวย ชิ้นนี้เราแนะนำให้ทางร้านย่างให้ค่ะ

เพราะจะได้ความสุกกำลังพอดี เมื่อย่างเสร็จพนง.ก็จะตัดให้พอดีคำ

เมนูนี้มีวิธีการทานที่แปลกอีกนิด คือเค้าจะมีซ้อสสดแบบแข็ง หน้าตาแบบนี้

เมื่อย่างเสร็จ ก็จะนำเนื้อที่ย่างมาวางบนซ้อสนี้

เพื่อให้ความร้อนนั้นละลายซ้อส จิ้มให้ทั่ว เพิ่มวาซาบิอีกนิดแล้วค่อยทานค่ะ

เมนูนี้แนะนำสุดๆ มันฟินมาก อร่อยมากๆ เราสั่งเบิ้ลเลย อร่อยจริงๆค่ะ

เงามืดด้านหนังบอกว่า … ขอทั้งชิ้นเลยได้ป่ะ

.

.

ถัดมาเป็นเมนูสุดโปรดของเราอีกเมนูค่ะ

A5 Rank 黒毛和牛ブリすき (Kuroge Wagyu Buri Suki) 550 เยน

เมนูเนื้อ A5 สไลด์บางเป็นชิ้นยาว เสริฟพร้อมไข่แดงสด

เนื้อจานนี้มีวิธีการย่างที่ต้องใช้ความไวนิดนึงค่ะ

เนื้อ A5 ไม่ต้องย่างจนสุกมาก ให้มันออก medium จะอร่อยนุ่มกว่า

เราทำเป็นคลิปมาฝากกันด้วย ลองดูนะคะ ทั้งเนื้อชิ้นและเนื้อสไลด์เลยค่ะ

อีกเมนูที่แนะนำมากๆก็คือ A5 Rank 和牛リブローズ (Wagyu Rib Roast)  850 เยน

จานนี้อร่อยมาก นุ่มฟิน

เมนูนี้เค้าจำกัดการสั่งต่อคนด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ถามมาว่าสั่งได้สูงสุดกี่จาน เพราะเราจะสั่งเรื่อยๆไง

ไม่อยากร้อนตัว เลยไม่ถาม จะรอจนกว่าเค้าบอกเองว่าสั่งไม่ได้แล้วก็แค่นั้นแหละ แฮะๆ

วันนั้นไปกัน 4 คน สั่ง 4-5 จาน ก็ยังสั่งได้นะ เค้าไม่ว่าอะไรค่ะ

 เนื้อ A5 เป็นเนื้อที่มีมันแทรกค่อนข้างเยอะ

เมื่อย่างแล้วน้ำมันจะออกมาเยอะ ใครที่ไม่ได้ชอบทานอะไรมันๆ ก็อาจจะทานได้ไม่เยอะค่ะ

เราลองสั่งเนื้อแบบธรรมดามาดูบ้าง เป็นสันใน Roast ธรรมดา

อีกจานนึงเค้าเขียนในเมนูว่าเป็น A5 Wagyu Karubi สันนอก

สองจานนี้ไม่ผ่านค่ะ เหนียวไปสำหรับเรานะ จานที่เป็นวากิวคารุบีก็ดูไม่ค่อยเป็น A5 เท่าไหร่

แล้วก็ไม่ค่อยนุ่มค่ะ เลยสั่งจานเดียวจอด

สำหรับเมนูข้าวเปล่า ที่นี่ก็แอบฮานิดนึงนะ ถ้าสั่งข้าวชามใหญ่ จะได้มาเป็นหน้าตาแบบนี้

เยอะป่ะล่า…..

.

สุดท้ายแล้วเราก็วนสั่งอยู่แค่ 3 เมนูที่แนะนำไปด้านบนน่ะแหละค่ะ อร่อยและนุ่มมากจริงๆ

นอกจากเนื้อย่างที่อร่อยแล้ว อีกอย่างที่สุดจริงๆของที่นี่คือ เบียร์สดค่ะ!

เบียร์ที่นี่เจ๋งมาก คือมันเย็นในอุณหภูมิกำลังดี มีเกล็ดวุ้นนิดๆ ไม่เยอะเกิน

Suntory The Premium Malt’s แก้วละ 518 เยน

Finnn MAXXXX!!!!

เนื้อย่าง กับ เบียร์สดอร่อยๆ คือที่สุดอ่ะ

กินกันเพลินๆ เฉลี่ยก็คนละราวๆ 3,000-4,000 เยนค่ะ

แน่นอนว่าถูกกว่าหลายๆร้านที่เป็น A5 ด้วยกัน และถูกกว่า Rokkasen แน่นอน

เพียงแต่ที่นี่ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ ซึ่งเหมาะกับเรามากกว่า

ทำไมเราถึงไม่ไป Rokkasen? ก็เรากินไม่คุ้มน่ะสิ เราไม่ชอบอะไรมันๆ

เพราะอย่างงั้น กินได้แค่ 4-5 จานก็จอดแล้ว น้ำมันเต็มปาก

เลยมาทานแบบนี้เราว่าเหมาะกับตัวเรามากกว่าค่ะ ส่วนใครที่กินจุๆ

ก็อาจจะต้องมองเป็นร้านบุฟเฟ่ต์แทน เพราะคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า

ส่วนเนื้อเกรด A5 แม้ว่าจะเป็นเกรดสูงสุดก็จริง แต่ก็มีหลายคุณภาพนะจ้ะ

มีอีกหลายร้านที่เราอยากลองในคุณภาพ A5 ขั้นเทพ แต่ราคาก็เทพตามเช่นกัน

ส่วนใครที่อยากลิ้มลอง A5 คุณภาพโอเค ในราคาที่โอเค๊ม๊ากกกก แนะนำร้านนี้จริงๆค่ะ

ราคาเท่าร้านเนื้อย่างทั่วไปบ้านเรา แต่คุณภาพไฮโซมาก หาทานได้ยากในไทยในราคานี้ค่ะ

สำหรับบล๊อกหน้า ก็มีอีกหลายร้านที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่รู้จัก แต่ดังในหมู่คนญี่ปุ่น

มีหลายร้านเลย เอาไว้จะทยอยอัพลงบล๊อกนะคะ